Apple คาดว่าการผลิต iPhone อาจไม่ทันต่อความต้องการในช่วงปลายปีซึ่งเป็นเทศกาลวันหยุด และมีความต้องการสูงเป็นพิเศษ แต่ Jim Suva นักวิเคราะห์ของ Citi ยังมั่นใจว่า ปัญหาความล่าช้าของ Apple จะไม่ส่งผลกระทบกับราคาหุ้น AAPL
ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Apple ประกาศว่า โรงงานประกอบ iPhone ในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน มีปัญหาในการผลิตเนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุม COVID-19 ในประเทศจีน ส่งผลให้ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max มีกำลังการผลิตที่ลดลงอย่างมาก ทำให้การจัดส่งล่าช้าออกไป
หมายความว่ายอดจัดส่ง iPhone ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มีแนวโน้มลดลงจากที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม Jim Suva นักวิเคราะห์ของ Citi เชื่อมั่นไว้ในปีหน้าภาพรวมของ Apple จะดีขึ้น
Jim Suva เชื่อว่า Apple จะไม่ได้รับผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้ iPhone เพิ่มขึ้นประมาณ 1 พันล้านคน และคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น มีแนวโน้มที่จะอัปเกรด iPhone เป็นรุ่นที่ใหม่
สำหรับปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง นักวิเคราะห์ของ Citi คาดว่าราคาหุ้น AAPL จะอยู่ที่ 175 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น (ปัจจุบัน ราคาหุ้น AAPL อยู่ที่ 131.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ปิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา)
ทั้งนี้ Apple ถูกลือว่าปีหน้า มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Mixed / Virtual Reality ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลุงทุนได้
ที่มา – 9to5Mac