ถึงแม้ iOS 17 จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่ถึงขนาดต้องร้องว้าว!! เมื่อเทียบกับ iOS ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าได้รับการปรับปรุงแอปพลิเคชัน และต่อยอดฟีเจอร์เดิมที่มีอยู่แล้ว ให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก และมีบางฟีเจอร์ที่ Apple ไม่ได้ประกาศไว้ในคีย์โน้ตของงานประชุม WWDC 2023 ส่วนจะมีฟีเจอร์อะไรบ้าง? เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลย

ระบบจดจำแมวและสุนัข
แอป Photos ใน iOS 17 เพิ่มความสามารถในการจดจำแมวและสุนัข ซึ่งช่วยระบุสายพันธุ์ของเพื่อนขนปุยได้

แผนที่ออฟไลน์
Apple Maps เวอร์ชันล่าสุด ได้รับฟีเจอร์แผนที่แบบออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแผนที่แบบเจาะจงพื้นที่และเข้าถึงการนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว เห็นเวลาที่คาดว่าจะมาถึง ค้นหาสถานที่ในแผนที่ และอื่นๆ ได้แบบออฟไลน์ นอกจากนี้ แอปแผนที่ยังเพิ่มความสะดวกมากกว่าเดิมในการค้นหาเส้นทางเดินป่าหลายพันแห่งในอุทยานต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา และมีข้อมูลความพร้อมใช้งานแบบเรียลไทม์ของการชาร์จสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า

ไม่ต้องพูดว่า Hey เมื่อเรียก Siri อีกต่อไป
iPhone ที่ทำงานบน iOS 17 สามารถเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะได้ง่ายขึ้น เพียงแค่พูดว่า Siri และยังพูดคำสั่งต่อไปได้ทันที โดยไม่ต้องเรียก Siri ทุกครั้ง แต่ถ้าใครยังไม่คุ้นชิน ก็ยังคงใช้คำสั่ง Hey Siri ได้เช่นกัน

ระบบอินพุตฉลาดขึ้น
การแก้ไขอัตโนมัติได้รับการอัปเดตแบบรอบด้านผ่านโมเดล Transformer ด้านภาษา ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่ก้าวล้ำเกินใคร ซึ่งใช้ Machine Learning บนอุปกรณ์มาช่วยคาดเดาคำที่จะป้อน จึงเป็นการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานและความแม่นยำในทุกครั้งที่ผู้ใช้ป้อนข้อความ

นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงการออกแบบให้รองรับการป้อนได้ดีขึ้น มีการแก้ไขอัตโนมัติในระดับประโยคที่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องทางไวยากรณ์ได้หลากหลายประเภทมากขึ้น ผู้ใช้จะได้รับคำแนะนำของข้อความที่คาดการณ์ในบรรทัดในขณะที่ป้อนข้อความ ทำให้เพิ่มคำทั้งคำหรือเติมเต็มประโยคให้สมบูรณ์ได้อย่างง่ายดายเพียงแตะที่ Space Bar จึงป้อนข้อความได้รวดเร็วกว่าที่เคย การป้อนตามคำบอกใช้โมเดลใหม่ด้านการรู้จำคำพูดเพื่อให้ทำงานได้แม่นยำกว่าเดิม
วิธีใหม่ในการชื่นชมกับช่วงเวลาพิเศษ
Journal คือแอปใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ได้ทบทวนและชื่นชมกับช่วงเวลาดีๆ ในชีวิต ซึ่งพบว่าสามารถช่วยให้มีสุขภาวะดีขึ้นได้ การใช้ Machine Learning บนอุปกรณ์ ทำให้สามารถแสดงคำแนะนำที่ปรับตามผู้ใช้ได้ เพื่อช่วยมอบแรงบันดาลใจด้านการจดบันทึก

คำแนะนำต่างๆ สร้างขึ้นอย่างชาญฉลาดจากข้อมูลกิจกรรมที่ทำล่าสุด เช่น รูปภาพ ผู้คน สถานที่ การออกกำลังกาย และอื่นๆ ทำให้เริ่มเขียนบันทึกได้ง่าน และยังสามารถเปิดการแจ้งเตือนแบบตั้งเวลา เพื่อสร้างกิจวัตรในการจดบันทึกได้อีกด้วย
แอป Journal สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้จึงมีความสามารถในการล็อคแอป ใช้การประมวลผลบนอุปกรณ์ และมีใช้การเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทำให้ผู้อื่นรวมทั้ง Apple ไม่สามารถเข้าถึงบันทึกของผู้ใช้ได้
NameDrop
iOS 17 ได้เพิ่มวิธีใหม่ในการแชร์ด้วย NameDrop ซึ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AirDrop ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลติดต่อได้อย่างง่ายดายเพียงนำ iPhone มาไว้ใกล้ๆ กัน หรือหัน iPhone เข้าหา Apple Watch ผู้ใช้ยังสามารถใช้ท่าทางเดียวกันนี้ในการแชร์เนื้อหาหรือเริ่มใช้ SharePlay เพื่อฟังเพลง ดูภาพยนตร์ หรือเล่นเกมจากอุปกรณ์ iPhone ที่อยู่ใกล้ๆ กันได้อีกด้วย

ประสบการณ์ใหม่ในการใช้งานสติกเกอร์
แอปข้อความได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญใน iOS 17 เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานสติกเกอร์ในรูปแบบใหม่หมดของสติกเกอร์อิโมจิ รวมถึงมีความสามารถในการสร้าง Live Sticker ซึ่งเป็นการดึงวัตถุขึ้นจากรูปภาพ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มเอฟเฟ็กต์เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้ Live Sticker และในแป้นพิมพ์ก็ยังมีลิ้นชักตัวใหม่ที่ใช้จัดเก็บสติกเกอร์ของผู้ใช้ไว้ในที่เดียวเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายทั่วทั้ง iOS

ประสบการณ์การใช้งานสติกเกอร์แบบใหม่หมดเพิ่มความสามารถในการสร้าง Live Sticker โดยการดึงวัตถุขึ้นจากรูปภาพ และผู้ใช้สามารถเพิ่มเอฟเฟ็กต์เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้สติกเกอร์ได้
ปรับปรุงแอปข้อความ
แอปข้อความถูกยกระดับการสนทนา ด้วยเมนูแบบขยายได้ ที่สามารถเข้าถึงด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว เพื่อแสดงแอป iMessage ช่วยให้แอปข้อความดูเรียบง่ายสะอาดตามากขึ้น
ค้นหาสิ่งต่างๆ ในการสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น ด้วยตัวกรองการค้นหา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้เริ่มค้นหา และใส่ตัวกรองเพิ่มได้ เพื่อจำกัดผลลัพธ์ให้แคบลง และเห็นสิ่งที่ต้องการ

ลูกศรติดตามการสนทนาตัวใหม่จะช่วยให้ทราบตำแหน่งล่าสุดที่ผู้ใช้อ่านข้อความค้างไว้ และตอบกลับแบบอ้างอิงข้อความเดิมได้อย่างง่ายดาย ด้วยการปัดนิ้วบนฟองข้อความ
หากผู้ใช้แชร์ตำแหน่งที่ตั้ง จะมีการจะอัปเดตแบบเรียลไทม์ทันทีในการสนทนา เมื่อส่งข้อความเสียง จะมีการจะถอดเสียงโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้สามารถอ่านได้ทันทีหรือฟังในภายหลัง
Check In ฟีเจอร์ใหม่ด้านความปลอดภัย
แอปข้อความ ใน iOS 17 ได้รับฟีเจอร์ใหม่ Check In เพื่อแจ้งเตือนให้เพื่อนๆ หรือสมาชิกครอบครัวทราบว่าไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยแล้ว เมื่อผู้ใช้เริ่มเซสชั่น Check In เพื่อนๆ หรือสมาชิกในครอบครัวจะได้รับการแจ้งเตือนทันที ที่ผู้ใช้เดินทางถึงจุดหมาย แต่หากไม่มีความคืบหน้าในการเดินทางสู่จุดหมาย รายชื่อติดต่อที่เลือกจะเห็นข้อมูลที่มีประโยชน์ ซึ่งจะแชร์ให้รับทราบเป็นการชั่วคราว เช่น ตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ ระดับพลังงานแบตเตอรี่ และสถานะของสัญญาณมือถือ ข้อมูลทุกอย่างจะแชร์แบบเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

FaceTime รองรับข้อความทั้งแบบเสียงและวิดีโอ
FaceTime ใน iOS 17 รองรับข้อความทั้งแบบเสียงและวิดีโอ เมื่อผู้ใช้โทรหาผู้ที่ยังไม่สะดวกรับสาย จะสามารถแชร์ข้อความไว้เพื่อให้มาเปิดในภายหลังได้ เหมือนบริการฝากข้อความเสียงของการโทรผ่านเครือข่ายมือถือ

Live Voicemail
ฟีเจอร์ Live Voicemail ช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นการถอดเสียงแบบเรียลไทม์ ในขณะที่มีผู้กำลังฝาก Voicemail เพื่อให้ตัดสินใจรับสายได้ในขณะที่ผู้โทรกำลังฝากข้อความ ส่วนสายโทรที่ผู้ให้บริการระบุว่าเป็นสแปมจะไม่ปรากฏเป็น Live Voicemail เนื่องจากจะถูกจะตัดสายทันที และด้วยประสิทธิภาพของ Neural Engine จึงทำให้สามารถจัดการถอดเสียง Live Voicemail ได้บนอุปกรณ์เพื่อความเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ

โปสเตอร์ของรายชื่อที่ปรับแต่งได้
แอป Phone คือหัวใจของประสบการณ์การใช้งาน iPhone ซึ่งได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ให้มีโปสเตอร์ของรายชื่อที่ปรับแต่งได้ เพื่อเปิดพื้นที่ใหม่ให้ผู้ใช้ได้แสดงตัวตน ผู้ใช้สามารถปรับแต่งลักษณะที่ปรากฏของตัวเพื่อเปิดประสบการณ์แบบใหม่หมดในการรับสายเรียกเข้า เลือกการปรับแต่งรูปภาพหรือ Memoji ได้ รวมถึงมีรูปแบบฟอนต์และสีสันที่สวยสะดุดตา นอกจากนี้ ยังเปิดให้แอปการโทรของบริษัทอื่นสามารถใช้งานคุณสมบัติโปสเตอร์ของรายชื่อได้อีกด้วย

วิดเจ็ตแบบโต้ตอบ
วิดเจ็ตแบบโต้ตอบ หรือ Interactive Widgets สามารถใช้งานได้ทั้งหน้าจอล็อค และ หน้าจอโฮม ช่วยให้ผู้ใช้งานทำสิ่งต่างๆ ที่ต้องการได้เพียงแค่แตะ อย่างเช่น ผู้ใช้สามารถเปิดไฟ เล่นเพลง หรือทำเครื่องหมายรายการเตือนความจำว่าเสร็จแล้วได้ทันทีจากวิดเจ็ต และยังมีการอัปเดต WidgetKit ให้นักพัฒนาใส่การโต้ตอบให้วิดเจ็ตของตัวเองได้

โหมด StandBy
StandBy ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นหน้าจอได้จากระยะไกล เมื่อวางตัวเครื่องในแนวนอนระหว่างชาร์จ iPhone ด้วย MagSafe เหมาะสำหรับการวาง iPhone ไว้ที่โต๊ะข้างเตียง เคาน์เตอร์ครัว หรือโต๊ะทำงาน

โหมด StandBy สามารถปรับแต่งให้แสดงนาฬิกาสวยงามหลายรูปแบบ รูปภาพโปรด หรือวิดเจ็ตต่างๆ อย่างวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ (Smart Stacks) ซึ่งจะแสดงวิดเจ็ตที่เหมาะสมกับช่วงเวลา นอกจากนี้ยัง รองรับการแสดง Live Activities, Siri, สายโทรเข้า และการแจ้งเตือนขนาดใหญ่กว่าเดิม

StandBy จะจดจำมุมมองที่ผู้ใช้ต้องการ StandBy สามารถเรียกใช้งานได้อย่างง่ายดายทุกเมื่อโดยแตะที่หน้าจอ รวมถึงสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาในอุปกรณ์ที่จอภาพแบบ Always-On Display อย่าง iPhone 14 Pro

ที่มา – iDropNews