Saturday, December 6, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

เพราะอะไร Galaxy S23FE ถึงเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าใช้และคุ้มที่สุดแห่งปี มาเทียบกันชัดๆกับรุ่นพี่อย่าง Galaxy S23+ 

Jackrich T. by Jackrich T.
December 23, 2023
in Feature, NEWS, Recommended, Samsung
115
SHARES
23.2k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

 Galaxy S23 Series ถือเป็นสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่ดีที่สุดของ Samsung ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้และสื่อหลายสำนัก แต่ก่อนที่ปี 2023 จะผ่านพ้นไป ทีมงาน @Flashfly จึงคัดเลือกสมาร์ทโฟน 2 รุ่น ที่น่าสนใจที่สุดของตระกูล Galaxy S23  Series ที่เรียกได้ว่า กินกันไม่ลง (แต่มีแววว่าน้องจะล้มพี่) ได้แก่ Galaxy S23+ และ Galaxy S23 FE มาแนะนำ สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาของขวัญเป็นรางวัลให้กับตัวเอง หรือมอบให้กับคนพิเศษในช่วงเวลาแห่งความสุขส่งท้ายปี 

 Galaxy S Series ตอบโจทย์คนรักการถ่ายภาพ

 Samsung Galaxy S23 Series เป็นสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่มีความโดดเด่นด้านการถ่ายภาพ โดยเฉพาะประสิทธิภาพการซูม ซึ่งชุดกล้องเหล่านี้ ถูกใส่มาในกล้อง Telephoto ของ Galaxy S23 FE ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 รองรับการซูมออปติคอล 3 เท่า และซูมดิจิตอล 30 เท่า ซึ่งเป็นระยะที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุด 

Galaxy S23 FE ยังมีกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างคมชัดไม่ว่าจะถ่ายภาพในตอนกลางวันที่มีสภาพแสงปกติ หรือในเวลากลางคืนที่มีสภาวะแสงน้อย และยังมีกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 สำหรับเก็บภาพในมุมมองกว้างพิเศษอีกด้วย

กล้องหลังของ Galaxy S23 FE ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Adaptive Pixel รวม 4 พิกเซลเล็กเป็น 1 พิกเซลใหญ่ เพื่อให้พิกเซลมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มีพื้นที่รับแสงมากขึ้น และยังมีอัลกอริทึม ISP (Image Signal Processing) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยปรับปรุงรายละเอียดของวัตถุ และโทนสี รวมถึงลด Noise ที่มักทำลายภาพในสภาสะแสงน้อย  มั่นใจได้ว่าทั้งภาพนิ่งและวิดีโอที่บันทึกในยามค่ำคืนจะออกมาสว่างสวยงามและให้รายละเอียดที่ชัดเจน

การถ่ายวิดีโอ ก็ถือเป็นอีกจุดเด่นของ Galaxy S23 FE เพราะสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงถึง 8K ด้วยอัตรา 24 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที และยังสามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6 เท่า ถึง 12 เท่า นอกจากนี้ ยังมีระบบลดการสั่นไหวแบบดิจิตอลขั้นสูงสำหรับการถ่ายวีดีโอ (VDIS) และระบบช่วยลดการสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวของวีดีโอออกมาราบรื่น แม้จะเดินถือสมาร์ทโฟนระหว่างถ่ายวิดีโอ

 ในขณะที่  Galaxy S23+ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่มีจุดเด่นในการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอเช่นกัน ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 และกล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 รองรับการซูมออปติคอล 3 เท่า และซูมดิจิตอล 30 เท่า

เมื่อเทียบสเปกกล้องหลังระหว่าง Galaxy S23+ กับ Galaxy S23 FE จะเห็นว่าทั้งคู่มีรายละเอียดที่ใกล้เคียงกันมาก ยกเว้นกล้อง Telephoto ที่ Galaxy S23+ มีความละเอียดสูงกว่าเล็กน้อย แต่แทบจะไม่มีผลในการใช้งานจริง เพราะทั้ง 2 รุ่น สามารถซูมออปติคอล 3 เท่า และซูมดิจิตอล 30 เท่า ได้เช่นเดียวกัน  ซึ่งในราคาที่ต่างกันถึงหลักหมื่น รุ่นน้อง GagaxySS 23 FE ทำได้ดีเทียบรุ่นพี่ Galaxy S23+ แบบที่ไม่เห็นข้อแตกต่าง

 การถ่ายภาพในเวลากลางคืนด้วย Galaxy S23 FE ก็มีฟีเจอร์ Nightography เช่นเดียวกับ Galaxy S23 + ซึ่งอาศัยเทคโนโลยี Adaptive Pixel เพื่อให้มีพื้นที่รับแสงมากขึ้น และยังมีอัลกอริทึม AI ช่วยปรับปรุงรายละเอียดของวัตถุ และโทนสี รวมถึงลด Noise ที่มักทำลายภาพในสภาวะแสงน้อยอีกด้วย 

ขุมพลังระดับแฟลกชิป

Galaxy S23 FE ตอบสนองการใช้งานและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลด้วยชิปประมวลผล Exynos 2200 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตระดับเรือธงของ Samsung ที่ออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร ที่มี CPU แบบ Octa Core บนสถาปัตยกรรมแบบ 3 คลัสเตอร์ 1+3+4 คอร์ ประกอบด้วย Arm Cortex-X2, Cortex-A710 และ Cortex-A510

 ชิปประมวลผล Exynos 2200 ใน Galaxy S23 FE ยังมาพร้อม GPU ใหม่ Xclipse 920 ที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรม AMD RDNA 2 รองรับ Ray Tracing ทำให้กราฟิกในเกมมีความสมจริงมากขึ้น และสนับสนุนเทคโนโลยี Variable Rate Shading (VRS) ช่วยปรับการทำงานของ GPU ให้เหมาะสม โดยใช้อัตราการแรเงาที่ต่ำลงในพื้นที่ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของภาพ จึงให้อัตราเฟรมที่เสถียร ช่วยให้การเล่นเกมราบรื่นไม่สะดุด

นอกจากใช้ชิปที่สร้างมาเพื่อการเล่นเกมโดยตรง Galaxy S23 FE ยังได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพด้วย ระบบระบายความร้อน Vapor chamber ที่ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่กว่า Galaxy S23+ ถึง 1.5 เท่า จึงเล่นเกมได้นานต่อเนื่องหมดห่วงเรื่องความร้อน เนื่องจากมีแผ่นระบายความร้อน Graphite ขนาดใหญ่ 

ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ยังเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมด้วยเทคโนโลยี Ray Tracing หรือการจำลองแสงเงาของวัตถุแบบเรียลไทม์ ช่วยให้กราฟิกเกมแสดงภาพได้สวยงามสมจริงยิ่งขึ้น โดยอาศัยการทำงานของเทคโนโลยีที่สามารถจำลองและติดตามลักษณะของแสงในเกมได้ทุกจุด 

ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ยังเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมด้วยเทคโนโลยี Ray Tracing หรือการจำลองแสงเงาของวัตถุแบบเรียลไทม์ ช่วยให้กราฟิกเกมแสดงภาพได้สวยงามสมจริงยิ่งขึ้น โดยอาศัยการทำงานของเทคโนโลยีที่สามารถจำลองและติดตามลักษณะของแสงในเกมได้ทุกจุด 

ดีไซน์พรีเมียมสไตล์ Galaxy S Series

ถึงแม้ Galaxy S23 FE และ Galaxy S23+ จะมีสเปกที่แตกต่างกันบ้าง แต่ในด้านดีไซน์ภายนอก ทั้งคู่แทบจะแยกไม่ออก เนื่องจากGalaxy S23 Series ใช้ดีไซน์แบบเดียวกันทั้งหมด รวมถึงวัสดุที่มีคุณภาพ และให้ความแข็งแรงทนทานไม่ต่างกัน โดยได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 ทั้ง 2 รุ่น สามารถกันน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ในน้ำจืด รวมถึงป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรก และทราย จึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างสบายใจเมื่อตัวเครื่องเปรอะเปื้อน แต่ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้พกพาลงไปใช้งานใต้น้ำ

Galaxy S23 FE และ Galaxy S23+ ยังมาพร้อมจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ที่มีความละเอียดเท่ากัน ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และใช้ดีไซน์หน้าจอแบบ  Infinity-O Display ดังนั้น ในด้านประสบการณ์การรับชมจึงไม่มีความแตกต่างกันมากนัก

ด้านซอฟต์แวร์ก็เช่นกัน Galaxy S23 FE และ Galaxy S23+ ทำงานบน One UI 6.0  พร้อมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย Samsung Knox, Samsung Knox Vault  และใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ 

 ทั้งนี้ Galaxy S23 FE มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.4 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ในช่วง 60~120Hz ซ่อนกล้องหน้า 10 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F2.4) ไว้ในหลุมบนหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ 4,500mAh  สนับสนุนชาร์จเร็ว 25W สามารถชาร์จถึง 50% ภายในเวลา 30 นาที

ในขณะที่ Galaxy S23+ มาพร้อมจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด Full HD+ ขนาด เพิ่มขึ้นเป็น 6.6 นิ้ว รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ในช่วง 48~120Hz ซ่อนกล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F2.2) ไว้ในหลุมบนหน้าจอ ความจุแบตเตอรี่ 4,700mAh  สนับสนุนชาร์จเร็ว 45W สามารถชาร์จถึง 65% ภายในเวลา 30 นาที

สรุปรุ่นไหนเหมาะกับใคร

 Galaxy S23 FE ถือเป็นเรือธงอีกร่นที่ โดดเด่นด้านการถ่ายภาพ ได้สเปกระดับแฟลกชิป ดีไซน์พรีเมียมสไตล์เดียวกับ Galaxy S23 Series ในราคาที่ถูกกว่าถึงหลักหมื่นเลยทีเดียวเหมาะสำหรับเจ้าของสมาร์ทโฟน Galaxy รุ่นเก่าที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ประสิทธิภาพสูงได้ฟีเจอร์เทียบเท่าระดับแฟลกชิป ในราคาที่จับต้องและเข้าถึงได้ง่ายกว่า ขณะที่ Galaxy S23+ เหมาะสำหรับใครก็ตามที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิปที่ต้องการอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดนั่นเอง

  • ราคา Galaxy S23 FE รุ่น 8+128GB ราคา 22,900 บาท
  • ราคา Galaxy S23 FE รุ่น 8+256GB ราคา 25,900 บาท
  • ราคา Galaxy S23+ รุ่น 8+128GB ราคา 37,900 บาท
  • ราคา Galaxy S23+ รุ่น 8+512GB ราคา 41,900 บาท 

อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ และต้องการสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่ดีที่สุดของ Galaxy S23 Series ยังมี Galaxy S23 Ultra เป็นทางเลือก ซึ่งมีจุดเด่นที่จอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบปรับได้ในช่วง 1~120Hz แถม S Pen มาให้ในตัว ตอบสนองการทำงานด้านวาดเขียนและจดบันทึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีระบบกล้องหลังที่ล้ำที่สุดในบรรดา Galaxy S23 Series

รีวิว Galaxy S23 FE

รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh





Tags: Galaxy S23 FESamsungSamsung Galaxy S23 FE
ShareTweetShare

Related Posts

Samsung จะปล่อย One UI 8.5 Beta ให้อัปเดตในวันที่ 8 ธันวาคมนี้
NEWS

Samsung จะปล่อย One UI 8.5 Beta ให้อัปเดตในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

December 5, 2025
Samsung เริ่มโปรโมทชิป Exynos 2600 ที่คาดว่าจะนำมาใช้กับ Galaxy S26 Series
NEWS

Samsung เริ่มโปรโมทชิป Exynos 2600 ที่คาดว่าจะนำมาใช้กับ Galaxy S26 Series

December 4, 2025
Samsung Galaxy Z TriFold เปิดตัวแล้ว มาพร้อมจอพับได้ขนาด 10 นิ้ว เริ่มวางจำหน่าย 12 ธันวาคมนี้
NEWS

Samsung Galaxy Z TriFold เปิดตัวแล้ว มาพร้อมจอพับได้ขนาด 10 นิ้ว เริ่มวางจำหน่าย 12 ธันวาคมนี้

December 2, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • เปรียบเทียบ 2 เรือธงแห่งปี Galaxy S25 Ultra vs iPhone 17 Pro Max

    788 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Samsung จะปล่อย One UI 8.5 Beta ให้อัปเดตในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

Samsung จะปล่อย One UI 8.5 Beta ให้อัปเดตในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

December 5, 2025
Apple Arcade เพิ่ม 4 เกมใหม่ เล่นได้แล้ววันนี้!!

Apple Arcade เพิ่ม 4 เกมใหม่ เล่นได้แล้ววันนี้!!

December 5, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');