24 เมษายนที่ผ่านมา Apple Watch มีอายุครบรอบ 10 ปีแล้ว จึงคาดว่า Apple Watch รุ่นใหม่ในปีนี้จะมีการอัปเกรดที่สำคัญ โดยเฉพาะ Apple Watch SE ที่ไม่มีการอัปเกรดมานาน 3 ปีแล้ว ขณะที่ Apple Watch Ultra ก็ไม่มีการอัปเกรดในปีที่แล้ว
Apple Watch Ultra 3
ปีที่แล้วไม่มีการเปิดตัว Apple Watch Ultra รุ่นใหม่ แต่มีการนำเสนอ Apple Watch Ultra 2 สีดำไทเทเนียม ดังนั้น จึงถึงเวลาต้องอัปเกรดรุ่นใหม่แล้ว โดยคากว่าจะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ ตามรายงานด้านล่าง
รองรับ 5G
Apple Watch ในปัจจุบัน ยังรองรับมาตรฐานเครือข่ายมือถือสูงสุด 4G LTE แต่ Apple Watch Ultra รุ่นใหม่ในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะรองรับ 5G และจะเปลี่ยนไปใช้ชิปโมเด็มของ MediaTek แทน Intel ซึ่งรองรับ 5G RedCap มาตรฐาน 5G ใหม่ ที่มุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์สวมใส่โดยเฉพาะ รวมถึงอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วสูง
ที่น่าสนใจก็คือ Apple เปิดตัวชิปโมเด็ม C1 ที่ออกแบบเองแล้ว ซึ่งนำมาใช้กับ iPhone 16e เป็นรุ่นแรก และมีข่าวลือว่าจะนำมาใช้กับ iPhone 17 อย่างน้อย 1 รุ่น แต่ยังไม่มีข่าวว่าจะนำมาใช้กับ Apple Watch
รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม
ผลิตภัณฑ์ของ Apple ในปัจจุบัน มีเฉพาะ iPhone เท่านั้น ที่รองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม แต่มีรายงานว่า Apple Watch Ultra 3 จะสามารถรับส่งข้อความผ่านดาวเทียมได้ ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ขาดการติดต่อ เมื่ออยู่ในพื้นที่ไร้สัญญาณมือถือ หรือ Wi-Fi
จอแสดงผล
จอแสดงผลของ Apple Watch Ultra 3 จะได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยแบบเดียวกับที่ Apple Watch Series 10 ได้รับในปีที่แล้ว โดยใช้จอแสดงผล LTPO3 OLED ที่ให้ความสว่างมากขึ้น และอัตราการรีเฟรชที่เร็วขึ้น
ดีไซน์
Apple Watch Ultra 2 มีด้านหลังแบบเซรามิกและคริสตัลแซฟไฟร์ แต่สำหรับ Apple Watch Ultra 3 อาจเปลี่ยนไปใช้ด้านหลังโลหะแบบเดียวกับ Apple Watch Series 10 ซึ่งวัสดุโลหะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายมือถือดีขึ้น และชาร์จได้เร็วขึ้นเท่านั้น
นอกจากด้านหลังที่ใช้วัสดุโลหะ Apple Watch Series 10 ยังได้รับการปรับปรุงคอยล์ชาร์จให้ใหญ่ขึ้นและรวมเสาอากาศไว้ในตัว ทำให้สามารถชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ขณะที่ Apple Watch Ultra 2 ใช้เวลา 60 นาที ในการชาร์จถึงระดับ 80%
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
คาดว่า Apple จะติดตั้งฟีเจอร์ตรวจวัดความดันโลหิตให้กับ Apple Watch Ultra 3 เป็นรุ่นแรก หลังจากใช้เวลาพัฒนามานานหลายปี
ปกติแล้วการวัดความดันโลหิต จะต้องอ่านค่า Systolic (แรงดันของเลือดขณะที่หัวใจกำลังสูบฉีดเลือดที่มีออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย) และค่า Diastolic (แรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัว) แต่ฟีเจอร์ตรวจวัดความดันโลหิตวของ Apple Watch จะติดตามว่าความดันโลหิตของผู้ใช้งานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือไม่ และถ้าตรวจพบความดันโลหิตสูง จะส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานทันที ซึ่งเจ้าของ Apple Watch สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยเพิ่มเติมได้
watchOS 12
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่สำหรับ Apple Watch ในปีนี้ มีรายงานว่าจะได้รับการออกแบบ User Interface ใหม่ ซึ่งอาจนำดีไซน์ของ visionOS มาปรับใช้ เช่นเดียวกับ iOS 19 ก็จะถูกยกเครื่องดีไซน์ใหม่หมดเช่นกัน โดยดีไซน์ของ visionOS เน้นความโปร่งใสแบบกระจก ปุ่มโค้งมน และเอฟเฟกต์แสงที่ละเอียดอ่อน
นอกจากนี้ Apple ยังถูกอ้างว่าจะติดตั้ง Apple Intelligence ฟีเจอร์ AI ลงใน watchOS ด้วย ซึ่งปกติมีอยู่ใน iPhone รุ่นใหม่ๆ และจำเป็นต้องใช้ความจำ RAM 8GB เป็นอย่างน้อย จึงเป็นเรื่องยากที่ Apple Watch จะสามารถเรียกใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Apple Intelligence ได้
Apple Watch SE 3
Apple Watch SE ในปัจจุบัน เปิดตัวในปี 2022 ซึ่งผ่านมานาน 3 ปีแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจถ้าหาก Apple Watch SE 3 จะได้รับการเปิดตัวพร้อมกับ Apple Watch Ultra 3 และ Apple Watch Series 11 ในเดือนกันยายนนี้ โดยคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามรายงานด้านล่าง
ดีไซน์และจอแสดงผล
Apple Watch SE รุ่นใหม่ เคยถูกลือว่าจะเปลี่ยนมาใช้วัสดุพลาสติก แต่ล่าสุดมีรายงานว่า Apple ได้พับโครงการนี้ไปแล้ว เนื่องจากต้นทุนไม่ได้ถูกไปกว่าวัสดุอลูมิเนียม และภาพลักษณ์ยังออกมาไม่ดีพอ ดังนั้น Apple Watch SE 3 ยังคงใช้ตัวเรือนอลูมิเนียมเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม Apple Watch SE 3 อาจได้รับการอัปเกรดดีไซนืหน้าจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีขอบหน้าจอบางลง โดยมีต้นแบบมาจาก Apple Watch Series 6 นอกจากนี้ ยังคาดว่าจอแสดงผลของ Apple Watch SE 3 จะรองรับโหมด Always On Display
เร็วกว่าเดิม
แน่นอนว่า Apple Watch SE 3 จะได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพให้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดย Apple Watch SE ในปัจจุบันใช้ชิป S8 และมีความเป็นไปได้ที่ Apple Watch SE 3 จะได้รับชิป S10 จาก Apple Watch Series 10 ขณะที่ Apple Watch Series 11 จะมาพร้อมชิปที่ใหม่กว่า เพื่อสร้างความแตกต่างจาก Apple Watch SE 3
นอกจากนี้ Apple อาจเพิ่มชิป Ultra Wideband ให้กับ Apple Watch SE 3 ด้วย ทำให้รองรับฟีเจอร์ Precision Finding
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
Apple Watch SE ไม่รองรับ ECG ไม่มีการตรวจจับอุณหภูมิ และไม่สามารถตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้ แต่มีแนวโน้มว่า Apple Watch SE 3 จะได้รับฟีเจอร์ใหม่อย่างน้อย 1 รายการ จากที่กล่าวว่า โดยฟีเจอร์ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีความเป็นไปได้มากที่สุด ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาใน Apple Watch SE รุ่นใหม่
ที่มา – MacRumors