งานประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ WWDC ประจำปี 2025 กำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะมีการแนะนำซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ๆ อย่าง iOS 19, iPadOS 19, macOS 16, watchOS 12, tvOS 19, visionOS 3 รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ของ Apple Intelligence แต่แน่นอนว่าผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ iOS 19 โดยมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งระบบ และเราได้รวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว
ดีไซน์ใหม่ พร้อม Tab Bar แบบลอย
User Interface ของ iOS 19 ถูกลือว่าจะได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีส่วนคล้ายกับ visionOS ระบบปฏิบัติการของ Apple Vision Pro ด้วย UI ของเมนู ปุ่ม และองค์ประกอบต่างๆ ที่เน้นความโปร่งใสแบบกระจก ไอคอนแอปจะมีความโค้งมนมากขึ้นหรืออาจจะเป็นรูปวงกลม พร้อมด้วย Tab Bar แบบลอย ในแอปของ Apple
รองรับฟีเจอร์ Stage Manager
มีข่าวลือว่า iOS 19 จะทำให้ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่มีพอร์ต USB-C รองรับฟีเจอร์ Stage Manager ซึ่งปัจจุบันพร้อมใช้งานแล้วใน iPad
ฟีเจอร์ Stage Manager ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ ช่วยจัดระเบียบแอปและหน้าต่างให้โดยอัตโนมัติ ทำให้การสลับไปมาระหว่างงานเป็นไปได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผู้ใช้งานสามารถวางหน้าต่างขนาดต่างๆ ซ้อนทับกันภายใต้มุมมองเดียวกัน สามารถลากและวางหน้าต่างจากด้านข้าง และสามารถเปิดแอปจาก Dock เพื่อสร้างกลุ่มแอปสำหรับการทำงานมัลติทาสก์ที่รวดเร็วและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับการต่อจอภาพภายนอกอีกด้วย
โหมดประหยัดแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ของ iPhone จะมาพร้อมฟีเจอร์ประหยัดแบตเตอรี่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตามรายงานของสำนักข่าว Bloomberg
Apple จะใช้ AI มาช่วยในการรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งาน iPhone และจัดการพลังงานตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อลดการใช้งานพลังของแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ทำงานในเบื้องหลัง ซึ่งส่งผลให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
รองรับข้อความ RCS ที่เข้ารหัสแบบ End-to-end
Apple เคยเปิดเผยออกมาแล้วว่าจะสนับสนุนข้อความ RCS (Rich Communication Services) ที่เข้ารหัสแบบ End-to-end ให้กับแอป Messages ผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS, iPadOS, macOS และ watchOS ในอนาคต ซึ่งน่าจะหมายถึง iOS 19 และ macOS 16
การเข้ารหัสแบบ End-to-end จะช่วยป้องกันไม่ให้ Apple และแอปอื่นๆ ของบุคคลที่สาม อ่านข้อความและไฟล์แนบขณะกำลังรับส่งระหว่างอุปกรณ์
นอกจากนี้ RCS ใน iOS 19 ยังรองรับ Tapback อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อความเหล่านี้จะทำงานได้เสมอ รวมถึงฟีเจอร์ตอบกลับแบบอินไลน์, แก้ไขข้อความ และ ยกเลิกการส่งข้อความ
ฟีเจอร์ใหม่ในการช่วยการเข้าถึง
iOS 19 จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับ Accessibility หรือ การช่วยการเข้าถึง
- เพิ่มฉลากโภชนาการสำหรับแอปและเกมใน App Store
- เครื่องมือ Accessibility Reader ให้กับ iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่บกพร่องทางการมองเห็นหรือการอ่าน ช่วยให้ผู้ใช้งานมีวิธีใหม่ๆ ในการปรับแต่งข้อความและโฟกัสที่เนื้อหาที่ต้องการอ่าน โดยมีตัวเลือกมากมายสำหรับแบบอักษร สี และระยะห่าง
- ฟีเจอร์ Braille Access จะเปลี่ยน iPhone, iPad, Mac และ Apple Vision Pro ให้เป็นเครื่องจดบันทึกอักษรเบรลล์ที่มีฟีเจอร์ครบครัน
- Personal Voice สามารถสร้างการจำลองเสียงของผู้ใช้งานได้อย่างนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในเวลาไม่ถึง 1 นาที โดยใช้วลีที่บันทึกไว้เพียง 10 วลี
- Apple Watch จะได้รับฟีเจอร์ Live Captions สำหรับอ่านคำบรรยายจากสิ่งที่ iPhone ได้ยิน
- Mac จะมาพร้อมโหมด Vehicle Motion Cues ช่วยลดอาการเมารถ และยังได้รับแอป Magnifier ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อ iPhone หรือกล้อง USB เพื่อซูมเข้าและอ่านข้อความบนวัตถุรอบตัวได้
- CarPlay จะมีตัวเลือกข้อความขนาดใหญ่ และการตรวจจับเสียงจะสามารถระบุทารกที่กำลังร้องไห้ และเสียงไซเรนที่ผ่านไปมาได้
- Apple Vision Pro จะได้รับการปรับปรุงฟีเจอร์ Zoom ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถขยายทุกสิ่งที่อยู่ในภาพ รวมถึงสภาพแวดล้อมรอบตัว โดยใช้กล้องหลักของอุปกรณ์
AirPods รองรับฟีเจอร์ Live Translation
Mark Gurman จากสำนักข่าว Bloomberg อ้างว่า iOS 19 จะทำให้ AirPods รองรับฟีเจอร์ Live Translation หรือ แปลภาษาแบบเรียลไทม์
ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ที่พูดภาษาอังกฤษกำลังฟังใครบางคนพูดภาษาอื่น iPhone จะใช้ไมโครโฟนของ AirPods เพื่อแปลคำพูดเป็นภาษาของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ ในทางกลับกัน เมื่อผู้ใช้งานตอบกลับ iPhone จะแปลคำพูดจากภาษาของผู้ใช้งานเป็นภาษาอื่นให้แบบเรียลไทม์ ทำให้คน 2 คน ที่ใช้ภาษาแตกต่างกันสามารถสนทนากันได้อย่างราบรื่น
ที่มา – MacRumors