ภาพยนตร์ F1 ที่นำแสดงโดย Brad Pitt อ้างอิงจากการแข่งขันรถยนต์ Formula One และมีการใช้ภาพในสนามที่บันทึกได้จากกล้องติดรถแข่งของจริง แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะนำกล้องความละเอียดสูงไปติดตั้งบนรถ Formula One ดังนั้น มาดูกันว่า Apple ต้องทำอะไรบ้าง?
กล้องที่ติดตั้งบนรถแข่ง F1 ถูกใช้เพื่อถ่ายทอดสดภาพการแข่งขันในสนาม และได้รับการออกแบบโมดูลมาเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของรถแข่ง แต่ว่า Joseph Kosinski และ Claudio Miranda ผู้กำกับและผู้กำกับภาพ ต้องการภาพที่มีคุณภาพสูงกว่ากล้องมาตรฐานที่ใช้อยู่
เพื่อให้ได้ภาพตามมาตรฐานภาพยนตร์ ทีมวิศวกรรมของ Apple จึงออกแบบโมดูลกล้องใหม่ โดยยังคงดีไซน์เหมือนกับกล้องถ่ายทอดสดมาตรฐานของรถ F1 ทุกประการ แต่ใช้พลังงานจากฮาร์ดแวร์ของ iPhone
ชิ้นส่วนสำคัญอย่างแรกที่ถูกปรับแต่งก็คือเซ็นเซอร์กล้อง โดยใช้เซ็นเซอร์กล้องแบบเดียวกับ iPhone พร้อมติดตั้งชิป A-series (ที่คาดว่าจะเป็นชิป A17 Pro) รวมถึงเพิ่มฟิลเตอร์ความหนาแน่นเป็นกลางเพื่อควบคุมการรับแสง และยังมีแบตเตอรี่ของ iPhone ด้วย
Apple ไม่ได้เปิดเผยเซ็นเซอร์กล้อง แต่แหล่งข่าวเชื่อว่าเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกับ iPhone 15 Pro ที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
เพื่อไม่ให้โมดูลกล้องใหม่ มีผลกระทบกับประสิทธิภาพของรถแข่ง ทีมวิศวกรรมของ Apple ต้องปรับแต่งโมดูลกล้องให้มีขนาด รูปร่าง น้ำหนัก เหมือนกับกล้องเดิมที่ใช้ถ่ายทอดสด ซึ่งออกแบบมาถูกหลักอากาศพลศาสตร์ นอกจากนี้ โมดูลกล้อง ต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวด เพื่อให้ทนต่อแรงกระแทก แรงสั่นสะเทือน และความร้อนสูงในสนามแข่ง
Apple ยืนยันว่าโมดูลกล้องนี้ทนทานเกินกว่ามาตรฐานที่ Formula One กำหนดไว้ และนำไปติดตั้งในรถแข่ง F1 ที่ลงสนามจริงในฤดูกาล 2023 และ 2024
แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กล้องติดรถ F1 ของ Apple ทำงานบน iOS ที่ถูกปรับแต่งซอฟต์แวร์ตามความต้องการของผู้สร้างภาพยนตร์โดยเฉพาะ และบันทึกวิดีโอในรูปแบบ ProRes เพื่อให้ช่างภาพและผู้กำกับสามารถปรับแต่งสีได้ในภายหลัง อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อกับ iPad ผ่าน USB-C เพื่อควบคุมกล้องโดยตรง เนื่องจากโมดูลกล้องไม่สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สาย
ที่มา – PetaPixel