HUAWEI เป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยี Multi-sensing X-Tap มาใช้กับสมาร์ทวอทช์ HUAWEI WATCH 5 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถวัดค่าสุขภาพได้อย่างครอบคลุมถึง 8 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ECG, SpO2, HRV ด้วยการแตะนิ้วเพียงครั้งเดียว พร้อมวิเคราะห์สุขภาพเชิงลึกด้วยระบบ TruSense โดยมีดีไซน์หรูหราด้วยวัสดุไทเทเนียมอัลลอยและสแตนเลสระดับการบิน จอแสดงผล LTPO ให้ความสว่างถึง 3,000 นิต ติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด รวมถึงดำน้ำลึก 40 เมตร อีกทั้งยังรองรับ eSIM พร้อมทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนทุกระบบทั้ง iOS และ Android
แกะกล่อง HUAWEI WATCH 5
HUAWEI WATCH 5 ผลิตออกมา 2 รุ่นหลักๆ ได้แก่ 46 มม. และ 42 มม. แน่นอนว่าแต่ละรุ่นมีความแตกต่างที่ขนาดตัวเรือน นอกจากนี้ ยังมีสีสันและวัสดุไม่เหมือนกันด้วย รุ่น 42 มม. มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเบจ และ สีทรายทอง ขณะที่รุ่น 46 มม. มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีม่วง, สีเงิน และทีมงาน @flashfly ได้รับ สีดำ มารีวิว
HUAWEI WATCH 5 รุ่น 46 มม. สีดำ จัดส่งมาในกล่องสีดำ หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพด้านหน้าของสมาร์ทวอทช์อย่างชัดเจน ภายในกล่องจะพบกับสมาร์ทวอทช์ที่มีแบตเตอรี่ในตัว ติดตั้งสายนาฬิกามาให้แล้ว แถมแท่นชาร์จไร้สาย SuperCharger รุ่นที่ 2 รวมถึงคู่มือฉบับย่อ ข้อมูลความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
ดีไซน์พรีเมียม
HUAWEI WATCH 5 ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 46 มม. หรือ 42 มม. ได้รับการออกแบบมาเหมือนกัน แตกต่างที่ขนาดตัวเรือนและวัสดุ โดยมีภาพลักษณ์ที่หรูหราพรีเมียม สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน เข้ากับการแต่งกายในทุกโอกาส สำหรับรุ่น 46 มม. สีม่วง กับ สีเงิน จะมาพร้อมกรอบตัวเรือนไทเทเนียมระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอากาศยานจับคู่กับฝาหลังเซรามิก
ส่วนสีดำที่ทีมงาน @flashfly ได้รับมารีวิว ใช้กรอบสแตนเลส 316L ระดับเดียวกับนาฬิกาสุดหรู Rolex Submariner ฝาหลังเป็นวัสดุคอมโพสิตเสริมใยคุณภาพสูง ขนาดตัวเรือน 46 x 46.7 x 11.3 มม. น้ำหนักประมาณ 58 กรัม (ไม่รวมสายนาฬิกา) ยกเว้นสีดำ จะมีน้ำหนักราว 63 กรัม (ไม่รวมสายนาฬิกา) สายนาฬิกาของรุ่น 46 มม. มีขนาด 140 – 210 มม. ใช้วัสดุแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสีของตัวเรือน โดยสีดำได้รับสายยางฟลูออโรอีลาสโตเมอร์สีดํา
ดีไซน์หน้าปัดของ HUAWEI WATCH 5 เป็นแบบทรงกลม ครอบทับด้วยกระจกแซฟไฟร์สังเคราะห์ ใช้จอแสดงผล LTPO 2.0 AMOLED ที่ให้ความสว่างถึง 3,000 นิต ช่วยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนในที่กลางแจ้ง โดยรุ่น 46 มม. จะมีขนาดหน้าจอ 1.5 นิ้ว ส่วนรุ่น 42 มม. มีขนาดหน้าจอ 1.38 นิ้ว
ด้านหลังเป็นศูนย์รวมของเซ็นเซอร์วัดค่าสุขภาพ รวมถึงซ่อนขดลวดไว้ภายในสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย
ขอบด้านข้างมีปุ่มเม็ดมะยม (Rotating Crown) ถัดลงมาเป็นตำแหน่งเซ็นเซอร์ HUAWEI X-Tap และปุ่มฟังก์ชันสามารถตั้งค่าทางลัดสำหรับเข้าถึงฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อย
ถึงแม้จะใช้วัสดุแตกต่างกัน แต่ HUAWEI WATCH 5 ทั้งรุ่น 46 มม. หรือ 42 มม. ต่างก็ได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการป้องกันน้ำ ผ่านการรับรองในระดับ 5ATM และ IP69 ซึ่งไม่มีแต่อยู่รอดในน้ำได้นาน 30 นาที แต่ยังสามารถสวมใส่ลงไปดำน้ำได้ลึกสูงสุดถึง 40 เมตร
หน้าจอสู้แสงได้อย่างดี
HUAWEI WATCH 5 มีดีไซน์ล้ำสมัยด้วยกระจกแซฟไฟร์สังเคราะห์โค้งมนทรงกลม วางบนจอแสดงผล LTPO 2.0 AMOLED ที่มีขอบหน้าจอบางเฉียบ และให้ความสว่างมากถึง 3,000 นิต ช่วนให้มองเห็นหน้าจอได้อย่างชัดเจน เมื่ออยู่ในที่กลางแจ้ง
จอแสดงผลของรุ่น 46 มม. มีความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ขนาด 1.5 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 310 พิกเซลต่อนิ้ว ขอบหน้าปัดบางเพียง 2.2 มม. ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 80.4%
เซ็นเซอร์ใหม่ HUAWEI X-Tap
HUAWEI WATCH 5 มีเซ็นเซอร์ติดตามสุขภาพที่แม่นยำติดตั้งไว้ที่ด้านหลังตัวเรือน เช่นเดียวกับสมาร์ทวอทช์ทั่วไป โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ด้านหลัง จะคอยวัดค่าสุขภาพโดยอัตโนมัติ ตามที่ผู้ใช้งานตั้งค่าไว้ล่วงหน้า แต่ถ้าต้องการวัดสุขภาพทันทีที่ต้องการ สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแตะนิ้วที่เซ็นเซอร์ X-Tap ใต้ปุ่มเม็ดมะยม
เซ็นเซอร์ X-Tap ของ HUAWEI WATCH 5 ใช้เทคโนโลยี Multi-sensing X-Tap ที่ปฏิวัติวงการสมาร์ทวอทช์ สามารถแสดงข้อมูลสุขภาพได้ครบถ้วนภายในเวลาเพียง 60 วินาที โดยในเซ็นเซอร์ X-Tap ประกอบด้วยเซ็นเซอร์แรงดัน, ECG และ PPG ขับเคลื่อนด้วยระบบ TruSense ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สัญญาณออปติคัล ไฟฟ้าและความดัน จะถูกรวมเข้าด้วยกันได้ดีขึ้นผ่านอินเทอร์เฟซของ Multi-sensing X-Tap Technology ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างอินพุตของเซ็นเซอร์ที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถสรุปข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญได้อย่างครอบคลุมและแม่นยำมากขึ้น
ข้อดีของการวัดสุขภาพด้วยเซ็นเซอร์ X-Tap คือ มีความแม่นยำและเชื่อถือได้มากกว่าการวัดข้อมูลจากผิวหนังบริเวณข้อมือ เนื่องจากผู้ใช้งานบางคนอาจมีเส้นขนบริเวณข้อมือ รอยสัก รวมถึงการสวมใส่สมาร์ทวอทช์ที่ไม่พอดี ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้การวัดสุขภาพบริเวณข้อมือที่ความคลาดเคลื่อน
ขณะที่การวัดสุขภาพด้วยเซ็นเซอร์ X-Tap จะใช้ปลายนิ้วมือ (ข้างที่ไม่ได้สวมสมาร์ทวอทช์) มาแตะที่เซ็นเซอร์ X-Tap ของ HUAWEI WATCH 5 โดยตรง โดยปลายนิ้วของมนุษย์มีจำนวนเส้นเลือดฝอยและโครงข่ายหลอดเลือดแดงมากกว่าบริเวณข้อมือ ทำให้การวัดสุขภาพด้วยเซ็นเซอร์ X-Tap มีความเสถียร แม่นยำ และเชื่อถือได้มากกว่า
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้เซ็นเซอร์ X-Tap ในการใช้แรงดันในการแตะเซ็นเซอร์ ในการเล่นเกมได้อีกด้วย อย่างเกม Jump Jump สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Gallery บน HUAWEI WATCH 5 ได้เลย
Health Glance ติดตามสุขภาพแบบครบวงจรในสัมผัสเดียว
วิธีวัดสุขภาพด้วยเซ็นเซอร์ X-Tap ทำได้ง่ายๆ เพียงแตะนิ้วมือ (ข้างที่ไม่ได้สวมสมาร์ทวอทช์) ที่เซ็นเซอร์ X-Tap ค้างไว้ 3 วินาที HUAWEI WATCH 5 ก็จะเข้าสู่การวัดสุขภาพแบบ Health Glance โดยยังคงแตะนิ้วต่อไปอีก 30 วินาที เพื่อเริ่มวัดสุขภาพของหัวใจ จากนั้นปล่อยนิ้วออกจากเซ็นเซอร์ X-Tap และรอการประมวลผล 15 วินาที จะได้ค่าสุขภาพ 8 รายการ ได้แก่ อัตราการเต้นหัวใจโดยเฉลี่ย, HRV (ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ), SpO2 (ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด), อุณหภูมิผิวหนัง, ระดับความเครียด, สุขภาพทางอารมณ์, คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG และ การรับรู้การหายใจขณะหลับ
นอกจากนี้ HUAWEI WATCH 5 ยังสามารถวัดค่า SpO2 แบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย เพียงเข้าแอป SpO2 เริ่มการวัด แล้วแตะนิ้วที่เซ็นเซอร์ X-Tap ค้างไว้ 10 วินาที จะได้ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดออก จากนั้นสามารถแตะค้างไว้ต่อเนื่อง เพื่อดูค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแบบเรียลไทม์ได้
Smart Gestures คำสั่งท่าทางใหม่
HUAWEI WATCH 5 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของ HUAWEI ที่รองรับการควบคุมด้วยท่าทาง Smart Gestures โดยการใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ (ข้างที่สวมสมาร์ทวอทช์) แตะหากัน 2 ครั้งติดกัน หรือใช้นิ้วโป้งถูกับนิ้วชี้ 2 ครั้งติดกัน
การจีบนิ้วหรือใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้แตะหากัน 2 ครั้ง จะเป็นเหมือนการเลือกหรือยืนยัน เช่น รับสาย, เล่นเพลง, ถ่ายภาพ (เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน) สำหรับการใช้นิ้วโป้งถูกับนิ้วชี้ 2 ครั้งติดกัน จะเป็นการเลื่อนหรือเปลี่ยนเมนู ตัวอย่างเช่น เมื่อมีสายเรียกเข้า สามารถเลื่อนไปยังปุ่มปฏิเสธสายได้ หรือ เมื่อถึงเวลาปลุก ก็สามารถสลับไปที่ปุ่มเลื่อนการปลุกได้
ติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด รวมถึงดำน้ำ
HUAWEI WATCH 5 อาจจะมีภาพลักษณ์ที่หรูหรา แต่อย่าลืมว่านี่คือสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดของ HUAWEI จึงมีฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำมากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมเกือบทุกชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก แม้แต่การเล่นกีฬาระดับมืออาชีพอย่างการตีกอล์ฟ พร้อมระบบกําหนดตําแหน่ง Sunflower Positioning System ที่แม่นยําขึ้น 35% จึงสามารถติดตามทุกการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ด้วยความแม่นยําที่ไม่มีใครเทียบได้
ที่สำคัญก็คือ HUAWEI WATCH 5 ยังมีโหมดดำน้ำแบบ Freediving ลึกถึง 40 เมตร พร้อมแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น ความลึก ความเร็ว และ ระยะเวลาใต้น้ำ เมื่อกลับขึ้นบก ผู้ใช้งานยังสามารถดูกราฟความลึก และ ความเร็ว เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการดำน้ำได้อย่างละเอียด
รองรับ eSIM
HUAWEI WATCH 5 สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องจับคู่กับสมาร์ทโฟนหรือพกพาสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วย เนื่องจาก HUAWEI WATCH 5 รองรับ eSIM สามารถเปิดเบอร์โทรใหม่ หรือใช้เบอร์เดิมที่มีอยู่แล้วในสมาร์ทโฟนก็ได้เช่นกัน โดยมีช่องลำโพงซ่อนอยู่ส่วนขอบของฝาหลัง และมีไมโครโฟนในตัวใกล้กับปุ่มฟังก์ชัน
เมื่อเปิดใช้บริการ eSIM ก็สามารถใช้งาน HUAWEI WATCH 5 ได้เหมือนกับสมาร์ทโฟน ไม่เพียงแค่ฟังก์ชันการโทรออกรับสาย แต่ยังรับส่งข้อความได้จากข้อมือโดยตรง รวมถึงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมจาก HUAWEI AppGallery นอกจากนี้ HUAWEI WATCH 5 ยังสามารถทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
นอกจากนี้ HUAWEI WATCH 5 ยังมีฟีเจอร์ที่อาจช่วยชีวิตของผู้สวมใส่ได้ ด้วยระบบตรวจจับการล้มพร้อมโทรออกไปยังหมายเลขที่ตั้งค่าไว้หรือโทรหาบริการฉุกเฉิน และยังมีระบบ SOS ที่สามารถโทรออกฉุกเฉินด้วยการกดปุ่ใเม็ดมะยม 5 ครั้ง
มี App Gallery ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่นโปรดได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ตโฟนไม่ว่าจะเป็น Petal Maps ที่ใช้นำทางได้แบบบนสมาร์ตโฟนเลย แอป Dji ในการเชื่อมต่อการควบคุมอุปกรณ์กับตัว HUAWEI WATCH 5 หรือเกมต่างๆ ด้วยการที่รองรับ eSIM และระบบปฎิบัติการ HarmonyOS Next
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
HUAWEI WATCH 5 รุ่น 46 มม. รองรับการใช้งานทั่วไปได้ยาวนานถึง 4.5 – 7 วัน หรือ 3 – 4.5 วัน เมื่อเปิดโหมด Always On Display และให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 11 วัน เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน สำหรับรุ่น 42 มม. ให้อายุการใช้งานยาวนาน 3 – 5 วัน หรือ 2 – 3 วัน เมื่อเปิดโหมด Always On Display และให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 1 สัปดาห์ เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน โดยรวมแล้วแบตเตอรี่ของ HUAWEI WATCH 5 ถือว่ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าคู่แข่ง ที่อาจต้องชาร์จทุกวัน แต่สำหรับ HUAWEI WATCH 5 สามารถใช้งานอย่างหนักได้ 2 – 3 วัน จึงสามารถพกพาไปทำกิจกรรมที่ต้องเดินทางไกลได้อย่างไม่ต้องกังวล
สรุปราคาและการจำหน่าย
HUAWEI WATCH 5 เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม ที่มีดีไซน์หรูหราทันสมัย ประกอบด้วยวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน เพียงพร้อมด้วยฟีเจอร์วัดสุขภาพที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นหัวใจ, ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ, ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG รวมถึงค่าสุขภาพพื้นฐาน โดยมีจุดเด่นที่เซ็นเซอร์ X-Tap ที่สามารถวัดสุขภาพได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เพียงแตะนิ้วในครั้งเดียว ขณะที่ฟีเจอร์ติดตามการออกกำลังกายก็ครอบคลุมทุกชนิดกีฬามากกว่า 100 โหมด รวมถึงการดำน้ำลึก 40 เมตร นอกจากนี้ ยังรองรับ eSIM จึงใช้งานได้อย่างอิสระไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน รวมถึงการควบคุมด้วยท่าทางใหม่ๆ ก็ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น สรุปแล้ว HUAWEI WATCH 5 ถูกสร้างมาสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ระดับมืออาชีพ ที่ติดตามสุขภาพได้อย่างครบวงจร และยังสวมใส่ได้ทุกโอกาส
- HUAWEI WATCH 5 รุ่น 42 มม. ตัวเรือนวัสดุสแตนเลส 904L สี Sand Gold ราคา 18,990 บาท และสี Beige ราคา 15,990 บาท
- HUAWEI WATCH 5 รุ่น 46 มม. ตัวเรือนวัสดุไทเทเนียมเกรดการบิน สี Silver ราคา 18,990 บาท และสี Purple ราคา 15,990 บาท
- HUAWEI WATCH 5 รุ่น 46 มม. ตัวเรือนวัสดุสแตนเลส 316L สี Black ราคา 12,990 บาท
พร้อมข้อเสนอรับของสมนาคุณรวมมูลค่าสูงสุด 8,356 บาท ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฏาคม 2568 ประกอบด้วย HUAWEI FreeBuds 5 ราคา 4,999 บาท (จำกัดเพียง 1,000 คำสั่งซื้อแรกเท่านั้น) สิทธิ์เก่าแลกใหม่และรับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินมูลค่า 2,000 บาท My HUAWEI Voucher ส่วนลดค่าเครื่อง มูลค่า 1,000 บาท และ HUAWEI Health+ Membership มูลค่า 357 บาท (3 เดือน) และสิทธิ์ที่แอป Alive ฟรี ประกันกลุ่มจาก AIA มูลค่า 100,000 บาท นาน 1 ปี สิทธิ์มีจำนวนจำกัด ลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่ 20 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568
#TaptheNext #HUAWEIWatch5 #HUAWEIXTAP #Flashfly