เรียกได้ว่าสิ้นสุดการอคอยสำหรับแฟน Nintendo ชาวไทยในที่สุด Nintendo Switch 2 รุ่นใหม่ล่าสุดก็ได้วางจำหน่ายทางการในประเทศไทยแล้ว หลังจาก Nintendo ได้เปิดตัว Nintendo Switch รุ่นแรก เมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งเครื่องที่ทีมงาน @flashfly รีบนำมารีวิวนั้นยังไม่ใช่เครื่องศูนย์ไทย เป็นเครื่องนอกที่วางจำหน่ายเมื่อวันช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั่นเอง กับรุ่นบันเดิ้ลเกม Mario Kart World ซึ่งใช้ซอฟแวร์ล่าสุดเวอร์ชั่น 20.1.5
แกะกล่อง Nintendo Switch 2
สำหรับกล่องของ Nintendo Switch 2 บันเดิ้ล Mario Kart World นั้นมาในกล่องสีแดงเหมือนรุ่นมาตรฐาน แตกต่างที่ขอบกล่องด้านล่างจะมีแถบสีขาว และมีรูปภาพเกม Mario Kart World ติดอยู่ที่หน้ากล่อง
เมื่อเปิดกล่องขึ้นมา จะพบกับคอนโซล Nintendo Switch 2 วางคู่กับ Joy-Con 2 ที่ให้มา 2 อัน โดย Joy-Con 2 ข้างซ้าย จะมีแถบสีฟ้า Light Blue ขณะที่ Joy-Con 2 ข้างขวา จะมีแถบสีแดง Light Red แต่พื้นผิวส่วนใหญ่จะเป็นสีดำเช่นเดียวกับตัวคอนโซล
ใต้ถาดรองคอนโซล จะพบกับเอกสารรหัสดาวน์โหลดเกม Mario Kart World ในสโตร์ต่างประเทศ สำหรับกล่องที่จำหน่ายในประเทศไทยจะได้เป็นตลับเกมมาพร้อมเล่นเลย, สาย HDMI แบบ Ultra High Speed, Joy-Con 2 Strap (2 อัน) หรือสายคล้องข้อมือ ป้องกันคอนโทรลเลอร์ตกหล่นเมื่อเล่นเกมที่ต้องใช้ Joy-Con ควบคุมด้วยท่าทาง
ชั้นล่างสุดของกล่อง เป็นช่องเก็บ Joy-Con 2 Grip สำหรับประกอบ Joy-Con 2 ทั้ง 2 ข้าง ให้กลายเป็นจอยเกมอันเดียว, หัวชาร์จ Nintendo Switch 2 AC Adapter, สายชาร์จ USB-C และ แท่นวาง Nintendo Switch 2 Dock ที่รองรับความละเอียด 4K แล้ว
ดีไซน์สีดำด้าน
Nintendo Switch 2 ยังคงความเป็นไฮบริดคอนโซลเหมือนรุ่นแรก ดังนั้น ยังคงรักษาองค์ประกอบโดยรวมของดีไซน์ไว้เหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปคือขนาดที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ไม่เหมือนเดิม เราจะเริ่มจากตัวคอนโซล ก่อนจะพาไปสำรวจ Joy-Con 2 และปิดท้ายในส่วนของดีไซน์ด้วย Nintendo Switch 2 Dock
ตัวเครื่อง Nintendo Switch 2 มีน้ำหนัก 401 กรัม แต่ถ้าประกบ Joy-Con 2 ทั้ง 2 ข้าง จะมีน้ำหนักรวม 534 กรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าจะพบว่า Nintendo Switch OLED Model มีน้ำหนัก 420 กรัม และ Nintendo Switch รุ่นแรก มีน้ำหนัก 398 กรัม อย่างไรก็ตาม น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น มาจากขนาดตัวเครื่องและขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่าเช่นกัน และน้ำหนักที่เพิ่มเข้ามา ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่จับถือด้วย 2 มือได้อย่างสบาย
Nintendo Switch 2 มาพร้อมจอแสดงผล LCD ขนาด 7.9 นิ้ว ขณะที่ Nintendo Switch รุ่นแรก ใช้จอ LCD ขนาด 6.2 นิ้ว และ Nintendo Switch OLED Model ใช้จอ OLED ขนาด 7 นิ้ว (พอจะเดากันได้ว่าในอนาคตอีกประมาณ 4 ปีข้างหน้า อาจจะมี Nintendo Switch 2 OLED Model ตามออกมาอย่างแน่นอน)
มุมมองด้านบน Nintendo Switch 2 จะพบกับรูไมโครโฟน, ช่องเสียบตลับเกม (มีฝาปิดกันฝุ่น) รองรับตลับเกมทั้ง Switch 2 และ Switch รุ่นแรก, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ต USB-C, ช่องระบายความร้อน, ปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มเพาเวอร์
ขอบด้านข้างออกแบบมาสำหรับแนบติดกับคอนโทรลเลอร์ Joy-Con 2 โดยใช้แม่เหล็กในการยึดติด ซึ่งไม่เพียงแต่มีความแน่นหนาแข็งแรง แต่ยังให้ความสะดวกในการเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์มากกว่ารุ่นแรกที่เป็นแบบสไลด์ โดยขอบด้านข้างจะมีแถบสีฟ้าและสีแดงตาม Joy-Con 2 ที่แถมมาให้ในกล่อง ทำให้สังเกตได้ง่ายเมื่อต้องการแนบติดคอนโทรลเลอร์เข้ากับตัวเครื่อง
ด้านล่างมีพอร์ต USB-C อยู่ตรงกลาง สำหรับเชื่อมต่อกับ Dock และยังมีช่องระบายความร้อน รวมถึงช่องลำโพงคู่สเตอริโอ
ด้านหลังติดโลโก้ Nintendo Switch 2 ไว้ตรงกลาง มีขาตั้งมาให้ งัดออกจากรอยเว้าด้านล่าง ขาตั้งมีความแข็งแรงกว่าที่คิด และเมื่อกางขาตั้งออกมา จะพบช่องเสียบการ์ด microSD Express รองรับสูงสุด 2TB (สำหรับการ์ด microSD ปกติ จะใช้สำหรับถ่ายโอนรูปภาพหน้าจอและวิดีโอได้เท่านั้น)
มาดูคอนโทรลเลอร์กันบ้าง Joy-Con 2 แต่ละข้าง มีขนาด 116 x 41.4 x 30.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 66 กรัม สำหรับข้างซ้าย ส่วนข้างขวาหนักกว่า 1 กรัม เมื่อประกบ Joy-Con 2 เข้ากับคอนโซล จะมีขนาดโดยรวม 272 x 116 x 13.9 มิลลิเมตร
Joy-Con 2 ข้างซ้าย ประกอบไปด้วยปุ่มลบ, ปุ่ม Analog Stick, ปุ่มควบคุมทิศทาง (บน/ล่าง/ซ้าย/ขวา) และ ปุ่ม Capture
ด้านบนของ Joy-Con 2 ข้างซ้าย มีปุ่ม L/ZL ส่วนขอบที่เป็นแถบสีฟ้ามีปุ่ม SL/SR และด้านหลังมีปุ่ม Release ซึ่งเป็นสลักปลดล็อค Joy-Con 2 เวลาจะถอดออกจากคอนโซล
Joy-Con 2 ข้างขวา ประกอบไปด้วยปุ่มบวก, ปุ่ม A/B/X/Y, ปุ่ม Analog Stick, ปุ่ม HOME และ ปุ่ม C สำหรับเปิดฟีเจอร์ GameChat
ด้านบนของ Joy-Con 2 ข้างขวา มีปุ่ม R/ZR ส่วนขอบที่เป็นแถบสีแดงมีปุ่ม SL/SR และมีปุ่ม Release ที่ด้านหลังสำหรับปลดล็อค Joy-Con 2 เช่นเดียวกัน
Joy-Con 2 ได้รับการปรับปรุงระบบสั่นสะเทือน HD rumble 2 ให้มีแรงสั่นที่หนักแน่นและชัดขึ้น ภายในยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope และ Mouse sensor โดยรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth แต่ Joy-Con 2 ข้างขวายังฝังชิป NFC เพิ่มเข้ามาด้วย
ส่วนประกอบอีกชิ้นที่ไม่มีไม่ได้นั่นคือ Nintendo Switch 2 Dock ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน มาพร้อมพื้นผิวสีดำด้าน ติดโลโก้ Nintendo Switch 2 ที่ด้านหน้า และด้านหลังพบโลโก้ Nintendo โดยมีขนาด 201 x 115 x 51.2 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 383 กรัม
ด้านหลังจะมีชิ้นส่วนที่สามารถแกะออกได้ เพื่อเข้าถึงพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ได้แก่ AC Adapter, HDMI และ LAN
ด้านข้างมีพอร์ต USB มาให้ 2 ช่อง (USB 2.0)
ที่น่าสังเกตก็คือ Nintendo Switch 2 Dock มีช่องระบายอากาศหลายตำแหน่ง ทั้งด้านบน ด้านหลัง รวมถึงด้านล่างที่เป็นฐาน โดยภายใน Dock มีการติดตั้งพัดลมช่วยระบายความร้อนมาให้ด้วย
หน้าจอใหญ่ขึ้น
Nintendo Switch 2 มาพร้อมจอแสดงผล LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล สนับสนุน HDR10 และรองรับอัตราการรีเฟรชแบบแปรผัน (VRR – Variable Refresh Rate) สูงสุด 120Hz เมื่อเล่นเกมในโหมดพกพา หรือ Handheld อย่างไรก็ตาม เมื่อเล่นเกมในโหมด TV หรือเชื่อมต่อกับDock จะรองรับความละเอียดถึงระดับ 4K
จอแสดงผลของ Nintendo Switch 2 มีขอบหน้าจอบางลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป นอกจากนี้ Nintendo Switch 2 ยังได้รับการติดฟิล์มป้องกันหน้าจอมาให้แล้วจากโรงงาน ซึ่งไม่ควรลอกออก แต่สามารถติดฟิล์มป้องกันเพิ่มไปอีกชั้นได้
สำหรับหน้าตา UI การใช้งานบน Nintendo Switch 2 นั้นออกแบบใหม่ แต่ยังมีความคล้ายกับที่ใช้ใน Nintendo Switch รุ่นก่อนหน้า จึงไม่ต้องปรับตัวในการใช้งานใหม่เลย อีกทั้งที่หน้าร้านค้าออนไลน์ก็ใช้งานได้เลื่อนไหลไม่มีกระตุกอีกต่อไป
ประสิทธิภาพ
Nintendo ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคของชิปประมวลผล แต่ระบุว่าใช้โปรเซสเซอร์ของ NVIDIA ที่ได้รับการปรับแต่งมาสำหรับ Nintendo Switch 2 โดยเฉพาะ ขณะที่หน่วยความจำในตัวมีความจุ 256GB เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับขนาด 32GB ของ Switch รุ่นแรก และ 64GB ของ Switch OLED Model อีกทั้งยังรองรับการ์ด microSD Express สูงสุด 2TB
แน่นอนว่าความจุในเครื่อง 256GB แม้จะให้มาเยอะกว่าเดิม แต่ยังไงก็ไม่พอใช้ จากการทดสอบติดตั้งเกมผ่าน Virtual Game Cards ไปไม่กี่เกมกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งแล้ว โดยเฉพาะเกมสำหรับ Nintendo Switch 2 จะมีความจุสูง ยังไงก็แนะนำให้ซื้อ microSD Express เพิ่มติดเครื่องไว้แม้จะมีราคาแพงพอสมควร
Nintendo Switch 2 มอบประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเล่นเกมในโหมด TV หรือเชื่อมต่อกับ Dock โดยรองรับวิดีโอเอาต์พุตสูงสุด 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ที่ 60 เฟรมต่อวินาที หรือ ความละเอียด 1920 x 1080 / 2560 x 1440 พิกเซล ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
GameChat
GameChat เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อม Nintendo Switch 2 ช่วยให้ผู้ใช้งานที่กำลังเล่นเกมบน Switch 2 แต่อยู่คนละที่หรือคนละบ้าน สามารถสนทนาร่วมกันได้ ให้อารมณ์เหมือนกำลังเล่นเกมอยู่ในห้องเดียวกัน โดยสามารถแชทคุยกันด้วยเสียงได้สูงสุด 12 คน โดยใช้ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนที่อยู่ด้านบนคอนโซล แต่ถ้าใช้ฟังก์ชันแชร์หน้าจอ จะรองรับสูงสุด 4 คน ซึ่งการแชร์หน้าจอด้วยฟีเจอร์ GameChat สามารถแชร์หน้าจอขณะเล่นเกมเดียวกันหรือคนละเกมก็ได้
นอกจากแชร์หน้าจอ GameChat ยังรองรับการสนทนาแบบเห็นหน้าหรือวิดีโอแชทได้อีกด้วย ซึ่งคุยร่วมกันได้สูงสุด 4 คน โดยต้องเชื่อมต่อกล้องเพื่อทำหน้าที่เป็นเว็บแคม อย่างเช่น Nintendo Switch 2 Camera ที่วางจำหน่ายแยกต่างหาก อย่างไรก็ตาม การใช้งานฟีเจอร์ GameChat จำเป็นต้องสมัครสมาชิก Nintendo Switch Online แบบเสียค่าใช้จ่าย และใช้ได้เฉพาะ Nintendo Switch 2 เท่านั้น ไม่รองรับ Nintendo Switch รุ่นแรก
GameShare
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Nintendo Switch รุ่นแรก ได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง GameShare และแน่นอนว่ามีอยู่ใน Nintendo Switch 2 ด้วยเช่นกัน
ความจริงแล้ว GameShare ถูกออกแบบมาเพื่อ Nintendo Switch 2 มากกว่า ขณะที่ Nintendo Switch รุ่นแรก จะมีความสำคัญรองลงมา เนื่องจาก GameShare เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของ Switch 2 สามารถแชร์เกมที่กำลังเล่น ไปยัง Switch รุ่นแรก เพื่อเล่นร่วมกันได้ ถึงแม้ในเครื่อง Switch รุ่นแรก จะไม่มีเกมนั้นอยู่ก็ตาม ส่วนข้อจำกัดของ Switch รุ่นแรก ก็คือ ทำได้แต่รับเกมที่ถูกแชร์มาโดย Switch 2 เท่านั้น ไม่สามารถแชร์เกมออกไปได้ ขณะที่ Switch 2 รองรับทั้งการแชร์เกมออกไปและเป็นเครื่องรับเกมที่ถูกแชร์มาได้เช่นกัน
ฟีเจอร์ GameShare สามารถแชร์เกมได้ 2 รูปแบบ คือ Local Wireless เพียงนำ Nintendo Switch มาวางใกล้กัน ซึ่งคอนโซลที่เป็นตัวรับ จะสามารถเล่นเกมได้เมื่ออยู่ในการเชื่อมต่อกับเครื่องส่งเท่านั้น หลังจากสิ้นสุดการเชื่อมต่อ จะไม่สามารถเล่นเกมที่มีการแชร์ได้อีกต่อไป โดยตอนนี้มีเกมรองรับประมาณ 10 เกมโดยเป็น Nintendo Switch 2 อยู่ 4 เกม Split Fiction ,Fast Fusion ,Survival Kids และ Puyopuyo Tertris นอกจากนี้เกมดัง Super Mario Odyssey ,Super Mario 3D World และ Captain Toad Treasure Tracker ก็รองรับด้วย
การแชร์เกมอีกรูปแบบคือ Internet ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ GameChat ช่วยให้ผู้ใช้ Nintendo Switch 2 แชร์เกมกับเพื่อนๆ ที่อยู่คนละที่ผ่านฟีเจอร์ GameChat หมายความว่าการแชร์เกมด้วยวิธีการนี้ ไม่รองรับ Switch รุ่นแรก
Joy-Con 2 ใช้งานเป็น Mouse ได้
ความสามารถใหม่ของ Joy-Con 2 คือ สามารถใช้งานเป็น Mouse ได้ โดยคว่ำด้านที่เป็นแถบสีฟ้าหรือสีแดงลงบนพื้นผิวเรียบ เช่น โต๊ะ เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำในการเล็ง และควรติดตั้งสายคล้องข้อมือ Joy-Con 2 Strap ก่อนใช้งานเป็น Mouse
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
Nintendo Switch 2 มีแบตเตอรี่ในตัว 5220mAh เมื่อเล่นเกมในโหมดพกพา หรือ Handheld จะให้อายุการใช้งานประมาณ 2 – 6.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่น และใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ประมาณ 3 ชั่วโมง ขณะที่แบตเตอรี่ของ Switch รุ่นแรก และ Switch OLED Model ให้อายุการใช้งานนานต่อเนื่องประมาณ 4.5 – 9 ชั่วโมง จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ Switch 2 ยังไม่ได้รับการปรับปรุงด้านพลังงานให้ดีกว่าเดิม ในส่วนของ Joy-Con 2 แต่ละข้างมีความจุแบตเตอรี่ 500mAh ให้อายุการใช้งานประมาณ 20 ชั่วโมง และใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ประมาณ 3.5 ชั่วโมง
จากการทดสอบด้วยการเล่นเกม Mario Kart World เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม เปิดความสว่างไว้ที่ 60% ระดับเสียง 40% พบว่าแบตเตอรี่จาก 100% ลดเหลือราวๆ 60% ซึ่งถ้าเป็นเกมระดับ AAA คาดว่าน่าจะเล่นต่อเนื่องได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมงอย่างที่ Nintendo บอกไว้
สรุปราคาและการจำหน่าย
Nintendo Switch 2 เป็นทายาทโดยตรงของ Switch รุ่นแรก ที่เปิดตัวในปี 2017 ซึ่งได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีขึ้น รองรับการเล่นเกมจาก Switch รุ่นแรก ได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับการเล่นเกมเดียวกันในระบบเก่า ทั้งระบบเสียง ที่ปรับปรุงดีขึ้นมาก และแน่นอนว่าเกมใหม่ๆ ที่อัปเกรดมาเพื่อเล่นบน Switch 2 โดยเฉพาะ ก็น่าประทับใจเช่นกัน ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น การควบคุม Joy-Con 2 ขนาดใหญ่ขึ้นที่จับถนัดมือ ถอดแปะข้างเครื่องสะดวกมากๆ ระบบสั่นที่สมจริงกว่าเดิม อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง GameChat และ GameShare ที่ทำให้การเล่นเกมร่วมกันมีความสนุกและใกล้ชิดกับเพื่อนๆ มากขึ้น แม้ไม่ได้เล่นอยู่ในที่เดียวกัน เรียกได้ว่า Nintendo Switch 2 ถือเป็นการรอคอยที่คุ้มค่าสำหรับเจ้าของ Switch รุ่นแรก
ราคา Nintendo Switch 2 ทางการจาก Synnex ตัวแทนทางการในประเทศไทยเริ่มต้นที่ 17,800 บาท ส่วนรุ่นบันเดิ้ล Mario Kart World ราคา 19,800 บาท พร้อมประกันตัวเครื่องนาน 18 เดือน โดยจะวางจำหน่ายทางการ 26 มิถุนายนนี้เป็นวันแรก ซึ่งได้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าไปก่อนหน้าเรียบร้อยแล้ว