ทีมวิจัยจาก Peking University และ City University of Hong Kong ประสบความสำเร็จในเทคโนโลยีโฟโตนิกส์-อิเล็กทรอนิกส์แบบอัลตราไวด์แบนด์ สำหรับการสื่อสารไร้สาย 6G เป็นครั้งแรกของโลก คาดว่าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของเครือข่าย 6G ในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ

การสื่อสารไร้สายยุค 6G จำเป็นต้องส่งสัญญาณที่รวดเร็วผ่านย่านความถี่ที่หลากหลายในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่ฮาร์ดแวร์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันกลับมีข้อจำกัดด้านการออกแบบและประสบปัญหาในการรองรับการทำงานข้ามย่านความถี่
เพื่อชนะความท้าทายดังกล่าว ทีมวิจัยใช้เวลา 4 ปี ในการสร้างระบบโฟโตนิกส์-อิเล็กทรอนิกส์แบบอัลตราไวด์แบนด์ ซึ่งรองรับการส่งสัญญาณความเร็วสูงระหว่าง 0.5GHz ถึง 115GHz พร้อมความเข้ากันได้กับคลื่นความถี่เต็มรูปแบบและความสามารถในการปรับความถี่ได้อย่างยืดหยุ่น ระบบสามารถเปลี่ยนไปใช้ความถี่ที่ปลอดภัยเพื่อตอบสนองต่อสัญญาณรบกวน ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของสเปกตรัม
Wang Xingjun รองคณบดีคณะอิเล็กทรอนิกส์ของ Peking University อธิบายว่าเทคโนโลยีโฟโตนิกส์-อิเล็กทรอนิกส์แบบอัลตราไวด์แบนด์ เปรียบได้กับทางหลวงที่กว้างมาก ขณะที่ สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ก็เปรียบเสมือนยานพาหนะ และ ย่านความถี่ เปรียบเสมือนช่องทางเดินรถ ก่อนหน้านี้ สัญญาณจะถูกจัดวางอย่างหนาแน่นในช่องทางเดียวหรือ 2 ช่องทาง แต่ปัจจุบันมีช่องทางเดินรถมากมาย ทำให้สัญญาณสามารถสลับช่องทางเดินรถได้ตามต้องการ เพื่อการสื่อสารที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
“ด้วยอัลกอริทึม AI ระบบนี้สามารถเปิดใช้งานเครือข่ายที่ชาญฉลาดและยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนหลากหลายได้ บรรลุการส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ การตรวจจับสภาพแวดล้อมที่แม่นยำ และการหลีกเลี่ยงการรบกวนอัตโนมัติ พร้อมการสื่อสารที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” Wang Xingjun กล่าว
จากการทดสอบของทีมวิจัย พบว่าระบบดังกล่าวสามารถบรรลุอัตราการส่งข้อมูลแบบไร้สายที่สูงกว่า 100Gbps ซึ่งเพียงพอที่จะสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงพิเศษ 8K ได้พร้อมกัน 1,000 ไฟล์ ตรงตามข้อกำหนดอัตราข้อมูลสูงสุดของ 6G ขณะที่ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือได้ตลอดช่วงความถี่
ปัจจุบันทีมวิจัยกำลังยกระดับการผสานรวมของระบบ เพื่อพัฒนาโมดูลโฟโตนิกส์อิเล็กทรอนิกส์ที่ชาญฉลาดและปรับเปลี่ยนได้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดขนาด น้ำหนัก และการใช้พลังงาน
ที่มา – CGTN






