Apple กำลังทดสอบระบบปฏิบัติการ iOS 26.2 เวอร์ชัน Beta ก่อนปล่อยเวอร์ชันเต็มออกมาให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเดตในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งพบว่ามีฟีเจอร์ใหม่และการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่คาดว่าเจ้าของ iPhone จะได้รับการอัปเดตภายในเดือนธันวาคมนี้

หน้าจอล็อก
หน้าจอล็อกมีแถบเลื่อนสำหรับปรับแต่งดีไซน์ Liquid Glass ของนาฬิกาได้ เมื่อใช้ตัวเลือก “Glass” สามารถปรับให้นาฬิกาโปร่งใสเกือบหมด หรือทำให้ทึบแสงขึ้นได้ และมีปุ่ม Solid แยกต่างหาก ถ้าต้องการดีไซน์แบบทึบแสงมากขึ้น และยังสามารถใช้ตัวเลือกสีของนาฬิกาได้อีกด้วย

Apple Music รองรับเนื้อเพลงแบบออฟไลน์
สามารถดูเนื้อเพลงใน Apple Music ได้ แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือ

Sleep Score
iOS 26.2 และ watchOS 26.2 มีการปรับคะแนนการนอนหลับใหม่ ให้สอดคล้องกับความรู้สึกหลังจากการนอนหลับตลอดทั้งคืนได้ดียิ่งขึ้น

คะแนนการนอนหลับใหม่
- Very Low – 0-40 (ก่อนหน้านี้ 0-29)
- Low – 41-60 (ก่อนหน้านี้ 30-49)
- OK – 61-80 (ก่อนหน้านี้ 50-69)
- High – 81-95 (ก่อนหน้านี้ 70-89)
- Very High – 96-100 (ก่อนหน้านี้ 90-100)
คะแนนการนอนหลับคำนวณจากระยะเวลาการนอนหลับ เวลานอน และการรบกวน เพื่อกำหนดคะแนนแต่ละคืนที่แสดงถึงคุณภาพการนอนหลับ รองรับการใช้งานบน Apple Watch ทุกรุ่นที่รองรับ watchOS 26.2 และสามารถดูได้ในแอป Health บน iPhone
แอป Reminders
แอป Reminders มีตัวเลือกใหม่สำหรับการตั้งปลุกเมื่อถึงกำหนดการแจ้งเตือน ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการเตือนได้โดยเปิดใช้งานตัวเลือก “Urgent” ขณะสร้างการแจ้งเตือน

เมื่อการเตือนความจำทำงาน ระบบจะแสดงตัวเลือก snooze หรือ slide to stop หากเลือก snooze ระบบจะแสดงการนับถอยหลังบนหน้าจอล็อก ซึ่งมีตัวเลือกให้ทำการเตือนความจำให้เสร็จสิ้นหรือกำหนดเวลาใหม่ นอกจากนี้ Apple ยังแยกการเตือนความจำแบบ Reminders ออกจากการเตือนแบบมาตรฐานด้วยสีฟ้า
Apple Podcasts
แอป Podcasts ได้รับฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่ การสร้างบทโดยอัตโนมัติ, ตัวเลือกเพื่อดูการกล่าวถึงพอดแคสต์อื่นๆ จากบทถอดเสียงและตัวเล่น และ การเข้าถึงลิงก์ที่กล่าวถึงในพอดแคสต์ในหน้าตอนต่างๆ

Apple News
ดีไซน์ของ Apple News ได้รับปุ่มใหม่ทางด้านบน สำหรับเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็วในหมวดหมู่ต่างๆ เช่น sports, puzzles, politics, business และ food นอกจากนี้ ยังมีแท็บเฉพาะสำหรับ “Following” ซึ่งแยกออกจากอินเทอร์เฟซการค้นหา

Flash for Alerts
การตั้งค่า Accessibility ในแอป Settings มีตัวเลือก Flash for Alerts ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งค่าให้หน้าจอเป็นแฟลชได้ ซึ่งก่อนหน้านี้จะจำกัดเฉพาะไฟ LED ที่ด้านหลังของ iPhone เท่านั้น

ผู้ใช้งานสามารถสลับไปใช้แฟลชบนหน้าจอเมื่อมีการแจ้งเตือนเข้ามา หรือตั้งค่าให้ทั้งใช้แฟลชพร้อมกันทั้ง LED และหน้าจอ
Live Translation
ฟีเจอร์แปลภาษา Live Translation สำหรับ AirPods ขยายให้รองรับการใช้งานในสหภาพยุโรป โดยรองรับ AirPods Pro 3, AirPods Pro 2 และ AirPods 4 รุ่น ANC ปัจจุบันสนับสนุนภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, โปรตุเกส, สเปน, อิตาลี, จีน, ญี่ปุ่น และ เกาหลี

ที่มา – MacRumors






