ตั้งแต่วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เป็นต้นไป ผู้เล่นสามารถใช้งาน Nintendo eShop ได้แล้วทั้งบนเครื่อง Nintendo Switch 2 และ Nintendo Switch ในบทความนี้ จะแนะนำสิ่งที่ทำได้ใน Nintendo eShop รวมถึงฟีเจอร์หลักต่างๆ ของบริการนี้

Nintendo eShop คือร้านค้าออนไลน์ที่เข้าใช้งานได้จากเมนู “Nintendo eShop” บนเครื่อง Nintendo Switch 2 หรือ Nintendo Switch ผู้เล่นสามารถซื้อเกมแบบดาวน์โหลด เนื้อหาเสริม และอีกมากมายได้ผ่านอินเทอร์เน็ต
ก่อนอื่น โปรดลองชมวิดีโอตัวอย่างนี้
ขอแนะนำสิ่งที่ทำได้ใน Nintendo eShop
ซื้อและดาวน์โหลดเนื้อหาดิจิทัลต่างๆ

เพียงเลือก “Nintendo eShop” จากหน้าเมนู HOME บนเครื่อง Nintendo Switch 2 หรือ Nintendo Switch ก็จะเข้าสู่ Nintendo eShop เพื่อซื้อและดาวน์โหลดเกมแบบดาวน์โหลดและเนื้อหาเสริมได้อย่างง่ายดาย
เกมแบบดาวน์โหลด




เกมของ Nintendo Switch 2 และ Nintendo Switch มีให้เลือกซื้อ 2 รูปแบบ ได้แก่ “แบบตลับ” ที่ต้องเสียบ Game card เพื่อเล่น และ “แบบดาวน์โหลด” ที่ไม่ต้องใช้ Game card โดยเนื้อหาทั้งแบบตลับและแบบดาวน์โหลดของเกมเดียวกันจะเหมือนกันทุกประการ
สำหรับเกมแบบดาวน์โหลด ระบบจะเก็บข้อมูลเกมที่ดาวน์โหลดไว้ในหน่วยความจำอย่าง System memory หรือเก็บใน microSD Express memory card ในกรณี Nintendo Switch 2 และเก็บใน microSD card ในกรณี Nintendo Switch แล้วเล่นจากหน่วยความจำนั้น
เกมที่มีเฉพาะรูปแบบดาวน์โหลด



สามารถซื้อ “เกมที่มีเฉพาะรูปแบบดาวน์โหลด” ซึ่งไม่มีจำหน่ายในรูปแบบตลับได้ โดยมีตั้งแต่เกมฟอร์มยักษ์ไปจนถึงเกมอินดี้ รวมถึงเกมฟรีบางส่วน ให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินกับเกมหลากหลายแนว
เนื้อหาเสริม (DLC)

สำหรับผู้ที่มีตัวเกมอยู่แล้ว จะเพลิดเพลินกับเนื้อหาเกมได้มากยิ่งขึ้นโดยการซื้อเนื้อหาเสริม ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เพิ่มเข้ามา เช่น เพิ่มด่าน ตัวละคร และไอเทม ทำให้ขอบเขตการเล่นขยายกว้างขึ้น
Demo

ทดลองเล่นเกมที่สนใจได้ฟรีหากเกมนั้นมีเวอร์ชัน Demo ดาวน์โหลดได้โดยกดปุ่ม “Download Demo” ที่หน้ารายละเอียดสินค้า
“Nintendo Switch 2 Edition” Upgrade Pack

สำหรับผู้ที่มีเกม Nintendo Switch อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบตลับหรือแบบดาวน์โหลด จะสามารถซื้อเฉพาะ Upgrade Pack จาก Nintendo eShop บนเครื่อง Nintendo Switch 2 เพื่ออัปเกรดเป็น Nintendo Switch 2 Edition ได้ทันที






