สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS 7 ที่ Apple เปิดตัวออกมาในงาน WWDC นั้น เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เลยทีเดียว นับตั้งแต่ iPhone เปิดตัวออกมาครั้งแรก เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า การดีไซน์ใหม่ที่ออกมานั้น มาพร้อม การออกแบบที่เรียบง่าย ดูสบายตา ฟอนต์ขนาดดูพอดี หน้าจอ slide-to-unlock แบบใหม่ พร้อมกับแทบควบคุม การตั้งค่าต่างๆ ที่สามารถสไลด์ขึ้นมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว จากบริเวณใต้หน้าจอ รวมถึงการออกแบบแอพลเคชั่นที่ติดมากับตัวเครื่อง ใหม่แทบทั้งหมด พร้อมๆกับ การเปลี่ยนแปลงใน แอพลิเคชั่น รายงานสภาพอากาศ ซึ่ง มีการใช้ภาพเคลื่อนไหว ของสภาพอากาศ ในการแสดงผลออกมาอีกด้วย

เปลี่ยนแปลงทางด้านต่างๆ สามารถแบ่งออกได้เป็นส่วนๆตามนี้ Control Center
ส่วนของ Control Center นั้น ผู้ใช้งานสามารถที่จะปรับแต่ง ความสว่างของหน้าจอ จัดการกับเครื่องเล่นเพลง ไม่ว่าจะเป็นการ เล่น – หยุดเพลง ข้ามเพลง ปรับ เพิ่ม – ลด เสียง รวมถึงการเปิด – ปิด airplane mode, Wi-Fi, Bluetooth, flashlight ซึ่งเป็นความสามารถที่ผู้ใช้ต่าง รอคอย และ ต้องการกันมาอย่างยาวนาน
Multitasking
ด้าน Multitasking ตัวเครื่องจะมีความสามารถในการอัพเดทแอพลิเคชั่นเอง โดนทีผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมาคอยนั่งกดอีกต่อไป ซึ่งการทำงานนี้ จะทำในระหว่างที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ที่เสถียรต่อการทำงานเท่านั้น และ จะไม่รบกวนผู้ใช้งาน แม้ว่าผู้ใช้จะกำลัง ใช้งาน แอพลิเคชั่น อื่นอยู่ก็ตาม
Safari
ในส่วนของ Safari ตัวแอพลิเคชั่น ได้มีการรองรับการทำงานแบบเต็มหน้าจอ รวมถึงความสามารถในการจัดการแท็บต่างๆที่เปิดขึ้นมาแบบ flipping card-tab ที่คล้ายๆกับของ Google Chrome บน iOS และ Android ส่วนของช่อง Search ก็ได้ถูกตัดทิ้งไปแล้ว โดยผู้ใช้สามารถ เลือก Search ได้ผ่านการพิมพ์ลงไปที่ address bar ได้โดยตรง และยังมีเทคโนโลยี iCloud Keychain ที่จะมาช่วยยกระดับการป้องกันรักษา ความปลอดภัย ของข้อมูลต่างๆในตัวเครื่อง และ ของผู้ใช้เอง ให้มีความปลอยภัยสูงขึ้นด้วย
AirDrop
AirDrop จะช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถแชร์ content ต่างๆ เช่น รูปภาพ ถึงกันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้อง เชื่อมต่อ สาย ใดๆ ซึ่งสามารถใช้งานผ่าน Control Center ได้โดยตรง คล้ายๆกับทาง Samsung Galaxy S4 แต่ไม่จำเป็นต้องเอาเครื่องมาประกบกัน มีในเฉพาะกับ iPhone 5 ,iPod Touch Gen 5 , iPad Gen 4 และ iPad Mini
Camera and Photos
ในส่วนของ กล้อง และ รูปภาพ ได้มีการเปลี่ยน UI ไปทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ เลือกโหมดการถ่ายรูปต่างๆได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายแบบ HDR หรือ Panorama และได้มีการเพิ่ม Filter เข้ามาให้ได้เลือกใช้งาน ในการถ่ายรูป รวมถึง นำรูปที่เคยถ่ายแล้ว มาแต่งใหม่ ผ่าน Filter ต่างๆได้อีกด้วย ส่วน รูปภาพ ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแสดงผลใหม่ ให้แสดงแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ โดยใช้ สถานที่ และ วันที่ ในการแยกรูปภาพออกจากกัน และยังแยกออกได้ไปจนถึง แบ่งเป็น ปีต่างๆ ได้อีกด้วย Siri
ทางด้าน Siri ได้มีการเพิ่ม เสียงให้เลือก ว่าจะใช้แบบ เสียงผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ซึ่งประกอบไปด้วย ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และ ภาษาเยอรมัน ในขณะนี้ และ จะมีการทยอยเพิ่มภาษาใหม่ๆออกมาอีกเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน Siri สามารถช่วยจัดการ เปิด – ปิด Bluetooth ปรับความสว่างของหน้าจอ เปิดเสียง voicemail ได้อีกด้วย รวมทั้ง เพิ่มการค้นหาข้อมูลผ่าน Twitter,Bingและ Wikipedia เพื่อรายละเอียดที่มากขึ้น App Store มีการเพิ่มความสามารถในการค้นหา แอพลิเคชั่นที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ในสถานที่ๆผู้ใช้งานอยู่ เช่น ในพิพิธภัณฑ์ ก็จะเป็นการแนะนำแอพลิเคชั่น ที่เกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์ ออกมา และความสามารถในการ อัพเดทตัวแอพลิเคชั่นเอง โดยที่ไม่ต้องมากด เหมือนแบบเดิม ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดตัว iOS 7 ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยจะมีเฉพาะ เวอร์ชั่น Beta เท่านั้น ที่เปิดให้เหล่า Developer ได้ใช้งานก่อน อย่างไรก็ตาม เวอร์ชั่นอย่างเป็ฯทางการจะมีการเปิดตัวออกมา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้
ที่มา – Apple
บทความโดย – www.flashfly.net












