Friday, December 5, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

ทำความรู้จัก Tim Cook ผู้รับตำแหน่ง CEO คนใหม่ของ Apple

mintflashfly by mintflashfly
August 25, 2011
in iPhone
0
SHARES
78
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

เป็นข่าวช็อควงการ IT กันเลยทีเดียวที่วันนี้ (25 ส.ค.) Steve Jobs ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท Apple พร้อมกับดัน Tim Cook ผู้ช่วยฝีมือดีเข้ารับตำแหน่งแทน หากเป็นคนวงในก็คงจะเคยได้ยินชื่อนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า Tim Cook เป็นใคร มาจากไหน และทำไมเขาถึงมารับตำแหน่ง CEO แทน Steve Jobs ได้ ตามมาดูประวัติของเขากันได้เลย

ประวัติ Tim Cook

“การตัดสินใจร่วมงานกับ Apple เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของผม” เป็นคำกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรับปริญญา ณ มหาวิทยาลัย Auburn ของ Timothy D. Cook หรือเรียกสั้นๆ ว่า Tim Cook ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer หรือ COO) แห่งบริษัท Apple ในฐานะศิษย์เก่าผู้ทรงคุณวุฒิ

ทั้งนี้ Cook ได้เล่าถึงการตัดสินใจร่วมงานกับ Apple เมื่อ 13 ปีก่อนอีกว่า “ด้วยเวลาเพียงไม่ถึง 5 นาทีในการสัมภาษณ์งานกับ Steve Jobs ผมยอมเสี่ยง ผมอยากร่วมงานกับ Apple” แม้ว่าการทำงานกับ Apple จะไม่อยู่ในแผนชีวิตที่เขาเขียนไว้สมัยที่ยังเรียนปริญญาโทอยู่ก็ตาม

Cook เชื่อในสัญชาตญาณของเขาว่า การร่วมงานกับ Apple เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิต ที่จะ ได้ทำงานให้กับอัจฉริยะแห่งการสร้างสรรค์ อย่าง Steve Jobs และเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารที่สามารถฟื้นฟูบริษัทที่ดีที่สุดบริษัทหนึ่งของอเมริกา

Tim Cook ที่ถือเป็นผู้บริหารหมายเลขสองของ Apple รองจาก Steve Jobs ประธานเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริหาร (Chief Executive Officer หรือ CEO) ซึ่งเปรียบเสมือนทัพหน้าที่ลาป่วยอีกครั้งเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา จากความสามารถและความ ไว้ใจที่ Jobs มีให้ Tim Cook ทำให้เขาเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งที่คาดว่าจะขึ้นมานำ Apple ต่อจาก Jobs หากเขาไม่สามารถกลับมาทำหน้าที่ต่อไปได้ Cook ได้รับมอบหมายให้ดูแล Apple ชั่วคราวจาก Jobs ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ครั้งแรกเมื่อปี 2004 ขณะที่ Jobs ลาป่วยเพื่อเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งที่ตับอ่อนเป็นเวลาถึง 2 เดือน และครั้งที่สองเมื่อปี 2009 ขณะที่ Jobs ลาป่วยเพื่อการผ่าตัดเปลี่ยนตับอ่อนเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่ Cook เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการได้เพียง 2 ปี

Cook เป็นคนที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในการฟื้นฟูให้ Apple กลับมาผงาดได้อีกครั้ง แต่ด้วย ความที่เป็นคนชอบทำงานเบื้องหลัง ทำให้น้อยคนนักที่จะรู้จักเขา ดังที่ Wall Street Journal ให้ฉายาว่า “Low Profile, High Impact”

Tim Cook วัย 51 ปี เกิดและเติบโตในเมือง Robertsdale มลรัฐแอละบามา เขาสำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ จากมหาวิทยาลัยออเบิร์น ในแอละบามา และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัย Duke ในนอร์ทแคโรไลนา เขาเคยร่วมงานกับบริษัท Intelligent Electronics ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝ่ายจำหน่ายคอมพิวเตอร์ มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับบริษัท IBM ในตำแหน่งผู้อำนวยการแห่งอเมริกาเหนือนานถึง 12 ปี ก่อนเข้าร่วมงานกับบริษัท Compaq ในฐานะรองประธานฝ่ายจัดการวัสดุขององค์กร ซึ่งเขาทำอยู่ได้เพียง 6 เดือน ก็ได้รับทาบทามจาก Jobs ให้มาร่วมงานที่ Apple ในฐานะรองประธานฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลก

Cook เข้าร่วมงานกับ Jobs ในปี 1998 หลังจากที่ Jobs หวนคืนสู่ Apple ได้เพียงไม่นาน งานแรกของเขาคือ การปฏิรูประบบการผลิตที่ไร้ประสิทธิภาพ ด้วยการจัดระบบการควบคุมสินค้าคงคลังใหม่ทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่มีเกินกำลัง โดยในปี 1997 บริษัทขาดทุนถึงหนึ่งพันล้านเหรียญ Cook ได้ทำการปิดโรงงานและคลังสินค้าหลายแห่ง ที่ดำเนินการแบบขาดทุน โดยเปลี่ยนไปจ้างโรงงานในเอเชียให้ผลิตและเก็บสินค้าเอง สังเกตได้จากผลิตภัณฑ์ของ Apple ถูกส่งตรงมาจากโรงงานที่เมืองจีน Apple ไม่มีการสต๊อกสินค้าไว้เองเป็นจำนวนมากอีกต่อไป

โดยรายงานผลประกอบการ ณ วันที่ 25 กันยายน 1998 บริษัทมีปริมาณสินค้าคงคลังเหลืออยู่เพียงแค่ 6 วัน คิดเป็นมูลค่า 78 ล้านเหรียญ จากที่ในปี 1997 เคยมีมากถึง 31 วัน คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 437 ล้านเหรียญ จากนั้นสินค้าคงคลังของ Apple ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 1999 บริษัท มีสินค้าคงคลังเหลือเพียง 2 วัน คิดเป็นมูลค่าเพียง 20 ล้านเหรียญ ผลลัพธ์ที่ Apple ได้คือ มูลค่าขาดทุนที่ลดลงอย่างมาก และส่วนต่างกำไร ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งปัจจุบัน Apple มีเงินสดหมุนเวียนสูงถึง 4 หมื่นล้านเหรียญ

นอกจากนี้ Cook ยังเป็นผู้ที่มองการณ์ไกล ร่วมกับการตัดสินใจของ Jobs ด้วยการให้บริษัท Apple ลงทุน ในบริษัทผู้ผลิต Flash Memory ก่อนที่ Apple จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มี Flash Memory เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ Apple กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของโลกก่อนคู่แข่งอื่น

ด้วยบุคลิกภาพ ที่สงบเยือกเย็นสุภาพของ Cook ตรงกันข้ามกับ Jobs ที่เปิดเผยและโผงผาง มิได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ในทางกลับกันทั้งสองสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพสูง Cook เป็นบุรุษที่บ้างานคนหนึ่ง เขาสามารถทำงานได้ในวันที่คนอื่นหยุด เขาชอบที่จะมาทำงาน ก่อนคนอื่น และกลับหลังคนอื่น ยามว่างจากงาน Cook ชอบออกกำลังกายเป็นที่สุด เขาชอบการปีนเขา ปั่นจักรยาน และไปออกกำลังกายที่ยิมเป็นประจำ

จากความสามารถที่โดดเด่นและความทุ่มเทที่ Tim Cook แสดงให้เห็น จึงทำให้เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็น CEO ของ Apple ต่อจาก Steve Jobs อย่างเป็นทางการในวันที่ 24 สิงหาคม 2011

ที่มา – flashfly, apple, gotomanager






Tags: AppleCEOCookITSteve JobsTim CookTimothy D. Cook
ShareTweetShare

Related Posts

Alan Dye หัวหน้าฝ่ายออกแบบ UI ของ Apple กำลังจะย้ายไปอยู่กับ Meta
iPhone

Alan Dye หัวหน้าฝ่ายออกแบบ UI ของ Apple กำลังจะย้ายไปอยู่กับ Meta

December 4, 2025
Apple และ Intel อยู่ในขั้นหารือสำหรับการผลิตชิปให้กับอุปกรณ์ iOS ในอนาคต บนพื้นฐาน ARM
iPhone

นักวิเคราะห์คาดว่า Apple และ Intel จะทำงานร่วมกันอีกครั้ง เพื่อจัดหาชิป M-series สำหรับ Mac ในอนาคต

November 29, 2025
Siri เวอร์ชันใหม่จะพึ่งพา Gemini ของ Google อ้างอิงจาก Bloomberg
iPhone

Apple Intelligence อาจพร้อมให้บริการในจีนอีกไม่นานนี้ หลังจาก Apple เริ่มทำแบบสำรวจในจีน

November 26, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • เปรียบเทียบ 2 เรือธงแห่งปี Galaxy S25 Ultra vs iPhone 17 Pro Max

    788 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Samsung จะปล่อย One UI 8.5 Beta ให้อัปเดตในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

Samsung จะปล่อย One UI 8.5 Beta ให้อัปเดตในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

December 5, 2025
Apple Arcade เพิ่ม 4 เกมใหม่ เล่นได้แล้ววันนี้!!

Apple Arcade เพิ่ม 4 เกมใหม่ เล่นได้แล้ววันนี้!!

December 5, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');