ตลอดทั้งปี 2018 ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดโปรแกรมเปลี่ยนแบตเตอรี่ในราคาพิเศษ ให้กับ iPhone 6 และรุ่นใหม่กว่า จากราคาปกติ 79 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 2,900 บาท เหลือเพียง 29 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ 1,000 บาท โดยสิ้นสุดระยะเวลาโปรโมชั่นในวันที่ 31 ธันวาคม 2018
ผลจากการลดราคาค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในปีที่ผ่านมา พบว่า Apple ได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับ iPhone ไปถึง 11 ล้านเครื่อง โดยแหล่งข่าวรายงานว่า Apple ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีเจ้าของ iPhone มาเปลี่ยนแบตเตอรี่ราว 1 – 2 ล้านเครื่อง นั่นหมายถึงมีจำนวน iPhone ที่เข้ามาเปลี่ยนแบตเตอรี่ในปี 2018 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 5 เท่า
ผลจากการลดราคาค่าบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone อาจเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Apple ขาดรายได้ก้อนใหญ่ หากคิดเพียง 1 ใน 3 ของจำนวน iPhone ที่เข้ามาเปลี่ยนแบตเตอรี่ แทนที่จะซื้อ iPhone เครื่องใหม่ ก็เท่ากับว่า Apple สูญเสียรายได้ไปถึง 2.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 7.65 หมื่นล้านบาท (คำนวณจากราคาเฉลี่ย iPhone เครื่องละ 800 ดอลล่าร์สหรัฐ)
สาเหตุที่ Apple ตัดสินใจลดราคาแบตเตอรี่ลงอย่างมากในปีที่ผ่านมา เกิดมาจากผู้ใช้งานค้นพบว่าแบตเตอรี่เก่า ส่งผลให้ iPhone ทำงานช้าลง ซึ่งมีหลายคนเลือกที่จะเปลี่ยน iPhone เครื่องใหม่ แทนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่หลังจากพบว่า เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ให้กับ iPhone ทำให้ iPhone กลับมาทำงานเร็วเหมือนเดิม ซึ่ง Apple ได้ออกมายอมรับในเรื่องนี้ ก่อนจะเปิดโปรแกรมลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ และนั่นทำให้เจ้าของ iPhone จำนวน 11 ล้านเครื่อง เลือกที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ แทนการซื้อ iPhone เครื่องใหม่
ที่มา – DaringFireball
http://www.flashfly.net/wp/?p=239421