บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค มีรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2555 รวมทั้งสิ้น 22.5 พันล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) เป็นผลจากรายได้จากการขายเครื่อง และรายได้จากบริการเสริมโดยเฉพาะรายได้ด้านบริการดาต้า
ทั้งนี้ ดีแทคมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาสนี้เป็นจำนวน 6.8 พันล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 6.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ที่ร้อยละ 30 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ดีแทค มีกำไรสุทธิ 3 พันล้านบาท และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ 6 พันล้านบาท (นิยามโดยกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลบด้วย รายจ่ายเพื่อการลงทุน หรือ CAPEX)
ในช่วงไตรมาสแรกนี้ ดีแทคมีลูกค้าใหม่ เพิ่มขึ้นจำนวน 217,772 ราย ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ารวม 23.4 ล้านราย
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสแรกของปีนี้ แสดงถึงรายได้ที่เติบโตขึ้นมาก จากความนิยมในการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะกลุ่มสมาร์ทโฟน และแอพพลิเคชั่นโซเชียล เน็ตเวิร์ค ต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ดีแทคมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้บริการ ตามแนวคิด Life Network และความพยายามของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องที่จะนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาสู่ผู้บริโภคในวันนี้ ด้วยการขยายเครือข่ายบริการ 3จี บนคลื่น 850 เมกะเฮิร์ตซ์ เป็นจำนวนสถานีฐาน 5,000 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทุกอำเภอทั่วประเทศไทย และโครงการการปรับปรุงยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์เครือข่าย 2จี ทั่วประเทศ ที่จะเสร็จสิ้นภายในปี 2555 นี้