Thursday, May 26, 2022
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

7 เหตุผล ที่ช่วยให้เจ้าของ iPhone 6 หรือ iPhone 6s ตัดสินใจ ก่อนอัพเกรดมาใช้ iPhone XR

Content Team by Content Team
October 21, 2018
in iPhone, NEWS
iPhone 6

iPhone 6

633
SHARES
15
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่เปิดตัวในปี 2014 ถือเป็น iPhone อีกรุ่นหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และทำยอดขายได้น่าประทับใจ ก่อนจะออกทายาทอย่าง iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ในปีต่อมา ซึ่งยังคงมีการออกแบบคล้ายกันแต่อัพเกรดประสิทธิภาพและกล้องให้ดียิ่งขึ้น

ถึงแม้ iPhone 6 และ iPhone 6s ยังสนับสนุนระบบปฏิบัติการ iOS 12 เช่นเดียวกับ iPhone ในปี 2018 แต่ด้วยอายุที่มากกว่า 3 – 4 ปี อาจทำเจ้าของ iPhone ทั้ง 2 รุ่น กำลังตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่กว่า โดยเฉพาะ iPhone XR ซึ่งถือว่ามีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ iPhone XS และ XS Max แต่ถ้าใครยังลังเลใจ ลองอ่านเหตุผล 7 ข้อ ดังต่อไปนี้ อาจช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ดีไซน์ไร้ขอบ

สำหรับเจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s จะพบว่าการเปลี่ยนไปใช้ iPhone XR ถือเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่ในเรื่องของการออกแบบ ด้วยดีไซน์ไร้กรอบ มีรอยบาก ขาดช่องเสียบหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และด้วยดีไซน์ไร้กรอบ อาจทำให้ iPhone XR มีความทนทานน้อยกว่า แต่ก็ชดเชยด้วยคุณสมบัติกันน้ำได้ในระดับ IP67 (อยู่รอดในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที) และสนับสนุนการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย

iPhone XR ยังมีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่า ด้วยขนาด 6.1 นิ้ว ขณะที่ iPhone 6 Plus และ iPhone 6s Plus มีขนาด 5.5 นิ้ว แต่ขนาดบอดี้ของ iPhone XR แทบไม่แตกต่างไปจาก iPhone รุ่น Plus ที่สำคัญก็คือ iPhone XR มีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับขนาด 4.7 นิ้ว ของ Phone 6 และ iPhone 6s

หน้าจอของ iPhone XR ยังสนับสนุนการแสดงผล Dolby Vision และ HDR10 แต่ไม่มี 3D Touch ซึ่ง Apple เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ iPhone 6s

iPhone XR ยังผลิตออกมาให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีฟ้า, สีเหลือง, สีส้มคอรัล และ สีแดง (PRODUCT) RED

ประสิทธิภาพ

iPhone 6 และ iPhone 6s อาจได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับ iPhone XR เพราะสนับสนุน iOS 12 เช่นเดียวกัน แต่ในเรื่องความเร็วในการใช้งาน จะแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะ iPhone 6 และ iPhone 6s ใช้ชิปประมวลผล A8 และ A9 ตามลำดับ พร้อมความจำ RAM 2GB แต่ iPhone XR ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด A12 Bionic เช่นเดียวกับ iPhone XS พร้อมด้วย RAM 3GB

ระบบกล้อง TrueDepth และ Face ID

กล้องด้านหน้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s ใช้สำหรับ FaceTime และถ่ายภาพเซลฟี่ แต่สำหรับ iPhone XR มีความสามารถมากกว่านั้น เพราะใช้ระบบกล้อง TrueDepth ซึ่งประกอบด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ซับซ้อน รวมถึงกล้อง 7 ล้านพิกเซล ช่วยให้เจ้าของ iPhone XR ปลดล็อคอุปกรณ์ได้ง่ายๆ เพียงจ้องมองไปที่จอแสดงผลหรือกล้องด้านหน้า แทนวิธีการสแกนลายนิ้วมือผ่าน Touch ID ที่ฝังอยู่บนปุ่มโฮมของ iPhone 6 และ iPhone 6s

ระบบกล้อง TrueDepth ของ iPhone XR ยังสามารถใช้ยืนยันตัวตนในการชำระเงิน รองรับฟีเจอร์ Animoji และ Memoji

กล้องด้านหลัง

iPhone XR มาพร้อมกล้องที่ดีที่สุดของ iPhone เช่นเดียวกับ iPhone XS หรือ XS Max เพียงแต่ขาดกล้องเทเลโฟโต้ ดังนั้น เมื่อเทียบกับกล้องดิจิตอลของ iPhone 6 และ iPhone 6s ต้องยอมรับว่า iPhone XR เหนือกว่าอย่างแน่นอน

iPhone XR มาพร้อมกล้อง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รองรับฟีเจอร์ Smart HDR และโหมดถ่ายภาพ Portrait อีกทั้งยังสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที

ถึงแม้ iPhone XR จะขาดกล้องเทเลโฟโต้ แต่ก็สามารถใช้โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้และควบคุมระยะชัดลึก ได้แบบเดียวกับ iPhone XS หรือ XS Max

การเชื่อมต่อ

iPhone XR นำเสนอการเชื่อมต่อกับเครือข่าย LTE และ Wi-Fi ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth ก็ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ในส่วนของระบบเซลลูล่าร์ ยังเทียบไม่ได้กับ iPhone XS กับ XS Max ที่สนับสนุน Gigabit LTE

iPhone XR ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยซิมหลักจะใช้ซิมการ์ดปกติเหมือน iPhone รุ่นก่อนๆ ส่วนอีกซิมเป็นรูปแบบ eSIM ที่ฝังอยู่ภายในไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดให้ยุ่งยาก ก็สามารถเลือกใช้งานกับผู้ให้บริการฯ ที่สนับสนุน eSIM ได้ทันที (ยกเว้นเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในประเทศจีน จะรองรับ 2 ซิมการ์ดในรูปแบบปกติ)

อย่างไรก็ตาม iPhone XR ไม่มีช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s ต้องปรับตัวพอสมควร

อายุการใช้งานแบตเตอรี่

ในแง่ของตัวเลขความจุแบตเตอรี่ iPhone XR, iPhone 6 และ iPhone 6s อาจไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ iPhone XR มากับชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพกว่า ทั้งความเร็วในการประมวลผลระหว่างเล่นเกมหนักๆ หรือใช้แอพลิเคชั่นขนาดใหญ่ และยังจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ได้ดีกว่าชิปรุ่นก่อนๆ ของ Apple ทำให้แบตเตอรี่ของ iPhone XR ให้พลังงานยาวนานกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่ง Apple ยืนยันว่า iPhone XR สามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 8 Plus สูงสุด 1 ชั่วโมง กับอีก 30 นาที

ยิ่งไปกว่านั้น iPhone XR ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที และยังรองรับการชาร์จไร้สาย ผ่านอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองของ Qi

ราคา

iPhone XR มีด้วยกัน 3 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่น 64GB ราคา 29,900 บาท รุ่น 128GB ราคา 31,900 บาท และรุ่น 256GB ราคา 35,900 บาท ซึ่งในรุ่นเริ่มต้นของ iPhone XR จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับราคาเปิดตัวของ iPhone 6 และ iPhone 6s เมื่อสมัย 3 – 4 ปีก่อน และถ้าเจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ iPhone XR ก็จะสามารถใช้งาน iPhone รุ่นไป ไปได้อีกอย่างน้อย 2 – 3 ปี จนกว่าจะถึงเวลาอัพเกรดเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า

ที่มา – iPhoneHacks
http://www.flashfly.net/wp/?p=232048



Tags: iphone 6iPhone 6 PlusiPhone 6siPhone 6s PlusiPhone Xr
Share633TweetShare

Related Posts

ผลทดสอบแบตเตอรี่ iPhone 13 mini ให้อายุการใช้งานยาวนานกว่า iPhone SE รุ่นที่ 3 (ชมคลิป!!)
iPhone

ผลทดสอบแบตเตอรี่ iPhone 13 mini ให้อายุการใช้งานยาวนานกว่า iPhone SE รุ่นที่ 3 (ชมคลิป!!)

April 5, 2022
Apple เพิ่มรายชื่อ iPhone 6 Plus เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ว
iPhone

Apple เพิ่มรายชื่อ iPhone 6 Plus เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ว

February 16, 2022
ยลโฉม ภาพเรนเดอร์ iPhone SE ปี 2022 ใหม่ล่าสุดที่ดูคล้าย iPhone XR มากกว่า iPhone 8
iPhone

ยลโฉม ภาพเรนเดอร์ iPhone SE ปี 2022 ใหม่ล่าสุดที่ดูคล้าย iPhone XR มากกว่า iPhone 8

January 14, 2022
Load More

Stay Connected

  • 32.7k Followers
  • 13k Subscribers
  • 1000 Subscribers
  • รีวิว HUAWEI Watch FIT 2 สมาร์ทวอทช์จอใหญ่ 1.74 นิ้วโหมดออกกำลังกาย 97 โหมด รับสายโทรได้ ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 10 วัน

    รีวิว HUAWEI Watch FIT 2 สมาร์ทวอทช์จอใหญ่ 1.74 นิ้วโหมดออกกำลังกาย 97 โหมด รับสายโทรได้ ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 10 วัน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0
  • iPhone 14 จะมาทั้งหมด 4 โมเดล ไม่มีรุ่น mini ส่วนรุ่น Pro หน้าจอจะยาวขึ้น และมีฟีเจอร์เกี่ยวกับดาวเทียม

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • หลุด!! ราคา iPhone 14 Series ทั้ง 4 รุ่น ปรับราคาขึ้นอีกราว 3,300 บาท เริ่มต้นราว 26,300 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่แพงกว่าเดิม คาดราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Flashfly Dot Net

www.flashfly.net

Follow Us

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

realme Pad X เปิดตัวทางการ!! หน้าจอ 2K ขนาด 11 นิ้ว ใช้ชิป Snapdragon 695 ชาร์จเร็ว 33W ราคาเริ่มต้นราว 6,090 บาท

realme Pad X เปิดตัวทางการ!! หน้าจอ 2K ขนาด 11 นิ้ว ใช้ชิป Snapdragon 695 ชาร์จเร็ว 33W ราคาเริ่มต้นราว 6,090 บาท

May 26, 2022
“Central App” ฉลอง 8 ปี ชวนลูกค้า #ช้อปให้สุขคว้าให้สุด ดันยอดช้อปด้วยดีลเด็ดและอีเว้นต์เอ็กซ์คลูซีฟ ตอกย้ำ No.1 Omnichannel Retailer in Premium Segment ตอบโจทย์ทุก “Customer Journey” ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

“Central App” ฉลอง 8 ปี ชวนลูกค้า #ช้อปให้สุขคว้าให้สุด ดันยอดช้อปด้วยดีลเด็ดและอีเว้นต์เอ็กซ์คลูซีฟ ตอกย้ำ No.1 Omnichannel Retailer in Premium Segment ตอบโจทย์ทุก “Customer Journey” ทั้งออนไลน์และออฟไลน์

May 26, 2022
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net.

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net.