Sunday, December 7, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

7 เหตุผล ที่ช่วยให้เจ้าของ iPhone 6 หรือ iPhone 6s ตัดสินใจ ก่อนอัพเกรดมาใช้ iPhone XR

Content Team by Content Team
October 21, 2018
in iPhone, NEWS
iPhone 6

iPhone 6

633
SHARES
55
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่เปิดตัวในปี 2014 ถือเป็น iPhone อีกรุ่นหนึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และทำยอดขายได้น่าประทับใจ ก่อนจะออกทายาทอย่าง iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ในปีต่อมา ซึ่งยังคงมีการออกแบบคล้ายกันแต่อัพเกรดประสิทธิภาพและกล้องให้ดียิ่งขึ้น

ถึงแม้ iPhone 6 และ iPhone 6s ยังสนับสนุนระบบปฏิบัติการ iOS 12 เช่นเดียวกับ iPhone ในปี 2018 แต่ด้วยอายุที่มากกว่า 3 – 4 ปี อาจทำเจ้าของ iPhone ทั้ง 2 รุ่น กำลังตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่กว่า โดยเฉพาะ iPhone XR ซึ่งถือว่ามีราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ iPhone XS และ XS Max แต่ถ้าใครยังลังเลใจ ลองอ่านเหตุผล 7 ข้อ ดังต่อไปนี้ อาจช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ดีไซน์ไร้ขอบ

สำหรับเจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s จะพบว่าการเปลี่ยนไปใช้ iPhone XR ถือเป็นการอัพเกรดครั้งใหญ่ในเรื่องของการออกแบบ ด้วยดีไซน์ไร้กรอบ มีรอยบาก ขาดช่องเสียบหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร และด้วยดีไซน์ไร้กรอบ อาจทำให้ iPhone XR มีความทนทานน้อยกว่า แต่ก็ชดเชยด้วยคุณสมบัติกันน้ำได้ในระดับ IP67 (อยู่รอดในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร นานสูงสุด 30 นาที) และสนับสนุนการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย

iPhone XR ยังมีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่า ด้วยขนาด 6.1 นิ้ว ขณะที่ iPhone 6 Plus และ iPhone 6s Plus มีขนาด 5.5 นิ้ว แต่ขนาดบอดี้ของ iPhone XR แทบไม่แตกต่างไปจาก iPhone รุ่น Plus ที่สำคัญก็คือ iPhone XR มีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่าอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับขนาด 4.7 นิ้ว ของ Phone 6 และ iPhone 6s

หน้าจอของ iPhone XR ยังสนับสนุนการแสดงผล Dolby Vision และ HDR10 แต่ไม่มี 3D Touch ซึ่ง Apple เริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ iPhone 6s

iPhone XR ยังผลิตออกมาให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีฟ้า, สีเหลือง, สีส้มคอรัล และ สีแดง (PRODUCT) RED

ประสิทธิภาพ

iPhone 6 และ iPhone 6s อาจได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับ iPhone XR เพราะสนับสนุน iOS 12 เช่นเดียวกัน แต่ในเรื่องความเร็วในการใช้งาน จะแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะ iPhone 6 และ iPhone 6s ใช้ชิปประมวลผล A8 และ A9 ตามลำดับ พร้อมความจำ RAM 2GB แต่ iPhone XR ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด A12 Bionic เช่นเดียวกับ iPhone XS พร้อมด้วย RAM 3GB

ระบบกล้อง TrueDepth และ Face ID

กล้องด้านหน้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s ใช้สำหรับ FaceTime และถ่ายภาพเซลฟี่ แต่สำหรับ iPhone XR มีความสามารถมากกว่านั้น เพราะใช้ระบบกล้อง TrueDepth ซึ่งประกอบด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ซับซ้อน รวมถึงกล้อง 7 ล้านพิกเซล ช่วยให้เจ้าของ iPhone XR ปลดล็อคอุปกรณ์ได้ง่ายๆ เพียงจ้องมองไปที่จอแสดงผลหรือกล้องด้านหน้า แทนวิธีการสแกนลายนิ้วมือผ่าน Touch ID ที่ฝังอยู่บนปุ่มโฮมของ iPhone 6 และ iPhone 6s

ระบบกล้อง TrueDepth ของ iPhone XR ยังสามารถใช้ยืนยันตัวตนในการชำระเงิน รองรับฟีเจอร์ Animoji และ Memoji

กล้องด้านหลัง

iPhone XR มาพร้อมกล้องที่ดีที่สุดของ iPhone เช่นเดียวกับ iPhone XS หรือ XS Max เพียงแต่ขาดกล้องเทเลโฟโต้ ดังนั้น เมื่อเทียบกับกล้องดิจิตอลของ iPhone 6 และ iPhone 6s ต้องยอมรับว่า iPhone XR เหนือกว่าอย่างแน่นอน

iPhone XR มาพร้อมกล้อง 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รองรับฟีเจอร์ Smart HDR และโหมดถ่ายภาพ Portrait อีกทั้งยังสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที

ถึงแม้ iPhone XR จะขาดกล้องเทเลโฟโต้ แต่ก็สามารถใช้โหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้และควบคุมระยะชัดลึก ได้แบบเดียวกับ iPhone XS หรือ XS Max

การเชื่อมต่อ

iPhone XR นำเสนอการเชื่อมต่อกับเครือข่าย LTE และ Wi-Fi ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth ก็ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ในส่วนของระบบเซลลูล่าร์ ยังเทียบไม่ได้กับ iPhone XS กับ XS Max ที่สนับสนุน Gigabit LTE

iPhone XR ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด โดยซิมหลักจะใช้ซิมการ์ดปกติเหมือน iPhone รุ่นก่อนๆ ส่วนอีกซิมเป็นรูปแบบ eSIM ที่ฝังอยู่ภายในไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ดให้ยุ่งยาก ก็สามารถเลือกใช้งานกับผู้ให้บริการฯ ที่สนับสนุน eSIM ได้ทันที (ยกเว้นเวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายในประเทศจีน จะรองรับ 2 ซิมการ์ดในรูปแบบปกติ)

อย่างไรก็ตาม iPhone XR ไม่มีช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s ต้องปรับตัวพอสมควร

อายุการใช้งานแบตเตอรี่

ในแง่ของตัวเลขความจุแบตเตอรี่ iPhone XR, iPhone 6 และ iPhone 6s อาจไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ iPhone XR มากับชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพกว่า ทั้งความเร็วในการประมวลผลระหว่างเล่นเกมหนักๆ หรือใช้แอพลิเคชั่นขนาดใหญ่ และยังจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ได้ดีกว่าชิปรุ่นก่อนๆ ของ Apple ทำให้แบตเตอรี่ของ iPhone XR ให้พลังงานยาวนานกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่ง Apple ยืนยันว่า iPhone XR สามารถใช้งานได้นานกว่า iPhone 8 Plus สูงสุด 1 ชั่วโมง กับอีก 30 นาที

ยิ่งไปกว่านั้น iPhone XR ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที และยังรองรับการชาร์จไร้สาย ผ่านอุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองของ Qi

ราคา

iPhone XR มีด้วยกัน 3 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่น 64GB ราคา 29,900 บาท รุ่น 128GB ราคา 31,900 บาท และรุ่น 256GB ราคา 35,900 บาท ซึ่งในรุ่นเริ่มต้นของ iPhone XR จะมีมูลค่าใกล้เคียงกับราคาเปิดตัวของ iPhone 6 และ iPhone 6s เมื่อสมัย 3 – 4 ปีก่อน และถ้าเจ้าของ iPhone 6 และ iPhone 6s ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ iPhone XR ก็จะสามารถใช้งาน iPhone รุ่นไป ไปได้อีกอย่างน้อย 2 – 3 ปี จนกว่าจะถึงเวลาอัพเกรดเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า

ที่มา – iPhoneHacks
http://www.flashfly.net/wp/?p=232048






Tags: iphone 6iPhone 6 PlusiPhone 6siPhone 6s PlusiPhone Xr
Share633TweetShare

Related Posts

iPhone‌ 6s และ Mac mini 2018 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage Products) ของ Apple
iPhone

iPhone‌ 6s และ Mac mini 2018 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage Products) ของ Apple

April 16, 2025
iPhone 17 Air จะเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา แซงหน้า iPhone 6 เจ้าของสถิติเดิม
iPhone

iPhone 17 Air จะเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา แซงหน้า iPhone 6 เจ้าของสถิติเดิม

November 19, 2024
ลาก่อน iPhone 6 ถูก Apple รวมไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยกเลิกการผลิตแล้ว
iPhone

ลาก่อน iPhone 6 ถูก Apple รวมไว้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยกเลิกการผลิตแล้ว

October 10, 2024
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • เปรียบเทียบ 2 เรือธงแห่งปี Galaxy S25 Ultra vs iPhone 17 Pro Max

    788 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

ฟิล์มกันรอยหน้าจอทั่วไป อาจทำให้การป้องกันแสงสะท้อนของ iPhone 17 Series ลดลง

ฟิล์มกันรอยหน้าจอทั่วไป อาจทำให้การป้องกันแสงสะท้อนของ iPhone 17 Series ลดลง

December 6, 2025
iPhone 17 Pro ไม่มีโหมด Night ในโหมด Portrait ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่น Pro ตั้งแต่ปี 2020

iPhone 17 Pro ไม่มีโหมด Night ในโหมด Portrait ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่น Pro ตั้งแต่ปี 2020

December 6, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');