เว็บไซต์ Phonearena ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยถามว่ามีแผนจะซื้อสมาร์ทโฟน 5G ในปีนี้หรือไม่? ซึ่ง 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้ยืนยันว่าต้องการซื้อ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีสมาร์ทโฟนในตลาดเพียงไม่กี่เครื่อง ที่สนับสนุนเครือข่าย 5G
ถึงแม้ Verizon ผู้ให้บริการฯ ในสหรัฐฯ จะเริ่มนำเครือข่าย 5G มาให้บริการแล้ว แต่จำกัดอยู่ในตัวเมืองชิคาโก แต่เกาหลีใต้ได้กลายเป็นผู้นำเทคโนโลยี 5G เพราะเริ่มให้บริการแล้วทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G อย่าง LG V50 ThinQ 5G ซึ่งมีวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาด้วย
นอกจากจะรองรับ 5G แล้ว LG V50 ThinQ ยังมาพร้อมจอแสดงผลที่สอง ที่เรียกง่ายๆ ว่า Dual Screen โดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านเคสที่มีบานพับหมันได้ 270 องศา แทนที่จะใช้จอแสดงผลพับได้แบบ Samsung Galaxy Fold หรือ Huawei Mate X
จอแสดงผลที่สอง ช่วยให้เจ้าของ LG V50 ThinQ 5G ใช้งานระบบ Multitasking ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และที่สำคัญยังใช้เป็น Game Pad สำหรับควบคุมเกมได้ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีกว่า ด้วยการแสดงกราฟิกเกมอย่างเต็มที่บนจอแสดงผลหลัก และควบคุมผ่านจอแสดงผลที่สอง ไม่มีนิ้วมือมาบดบังหน้าจอเหมือนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น
LG V50 ThinQ มาพร้อมจอแสดงผล OLED FullVision (3120 x 1440 พิกเซล) ขนาด 6.4 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.5:9 พิกเซล สนับสนุน HDR10 และ LG ยังสร้างจอแสดงผลที่สอง ที่เรียกง่ายๆ ว่า Dual Screen มาพร้อมจอแสดงผล OLED FullVision (2160 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.2 นิ้ว โดยเชื่อมติดกันด้วยเคสที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีบานพับที่แข็งแรง กางออกได้ 270 องศา ทำให้ดูเหมือนอุปกรณ์พับได้
LG V50 ThinQ 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855 พร้อมฝังชิปโมเด็ม 5G (Snapdragon X50) ความจำ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 128GB รองรับการ์ด microSD สูงสุด 2TB ความจุแบตเตอรี่ 4,000mAh ชาร์จเร็วด้วยเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 และมีระบบระบายความร้อน
LG V50 ThinQ 5G ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.5 กล้อง Super Wide มุมกว้าง 107 องศา 16 ล้านพิกเซล และกล้องเทเลโฟโต้ 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า 8 + 5 ล้านพิกเซล กล้องมาตรฐานและกล้องมุมกว้างตามลำดับ
LG V50 ThinQ 5G จะวางจำหน่ายผ่านผู้ให้บริการฯ Sprint เป็นรายแรกในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ซึ่งพร้อมให้บริการ 5G ในแอตแลนตา, ดัลลัส, ฮุสตัน และแคนซัส ซิตี้ ก่อนจะขยายไปยังเมืองอื่นๆ ในอนาคต นอกจากนี้ Verizon ก็มีแผนวางจำหน่าย LG V50 ด้วยเช่นกัน และพร้อมให้บริการ 5G ในสหรัฐฯ ในช่วงปลายฤดูร้อนนี้ ครอบคลุมพื้นที่า 30 เมือง
ที่มา – Phonearena
https://www.flashfly.net/wp/252627
Discussion about this post