Apple Watch รุ่นใหม่ในปีนี้ มีให้เลือก 3 รุ่น ครอบคลุมทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น Apple Watch SE 3, Apple Watch Series 11 หรือ Apple Watch Ultra 3 โดยทีมงาน @flashfly ได้รับ Apple Watch Series 11 มารีวิว ซึ่งต่อยอดมาจาก Apple Watch Series 10 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในเรื่องของการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์จาก 4G เป็น 5G (เฉพาะรุ่น GPS + Cellular) ปกป้องจอภาพด้วยกระจก Ion-X ที่ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 2 เท่า (ตัวเรือนอะลูมิเนียม) แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 38 ชั่วโมง พร้อมด้วยฟีเจอร์ติดตามสุขภาพใหม่ๆ อย่าง Sleep Score และ Workout Buddy ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence

สเปก Apple Watch Series 11

- จอภาพ Retina LTPO3 แบบติดตลอด พร้อม OLED มุมกว้าง
- ชิป S10 แบบ 64-bit Dual‑core พร้อม Neural Engine แบบ 4‑core
- ชิประบบไร้สาย W3 และ ชิป Ultra Wideband รุ่นที่ 2
- ความจุ 64GB
- เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า
- เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล รุ่นที่ 3
- เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด
- เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ
- เข็มทิศ
- มาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด
- อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวแบบแรง g สูง
- ไจโรสโคปแบบช่วงไดนามิกสูง
- เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- ตัววัดความลึกถึง 6 เมตร
- เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิน้ำ
- ระบบนำทาง GPS (L1), GLONASS, Galileo, QZSS และ BeiDou
- ลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- ผ่านการรับรองทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร และทนฝุ่นที่ระดับ IP6X
- การเชื่อมต่อรุ่น GPS: Wi-Fi 802.11b/g/n (2.4/5GHz), Bluetooth 5.3
- การเชื่อมต่อรุ่น GPS + Cellular: 5G, 4G, Wi-Fi 802.11b/g/n (2.4/5GHz), Bluetooth 5.3
- แบตเตอรี่ Lithium-Ion ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 38 ชั่วโมง (โหมดประหยัดพลังงาน)
แกะกล่อง Apple Watch Series 11


Apple Watch Series 11 จัดส่งมาในกล่องสีขาวรูปทรงแท่งที่คุ้นเคยเหมือนรุ่นก่อนๆ โดยแยกเป็นกล่องตัวเรือนและกล่องสายนาฬิกา แต่ทั้งสองกล่องถูกห่อรวมกันด้วยแผ่นกระดาษสีขาวที่แกะออกได้อย่างง่ายดาย




ในกล่องตัวเรือน Apple Watch Series 11 มาพร้อมสายชาร์จเร็วแบบแม่เหล็กเป็น USB-C ยาว 1 เมตร รวมถึงคู่มือ และใบรับรองจาก กสทช. ส่วนกล่องสายนาฬิกา แน่นอนว่ามีสายนาฬิกา พร้อมแผ่นพับบอกวิธีติดสายกับตัวเรือน
ดีไซน์พรีเมียมเหมือนเดิม เพิ่มเติมด้านความทนทาน

ดีไซน์โดยรวมของ Apple Watch Series 11 ยังดูคล้ายกับ Apple Watch Series 10 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีภาพลักษณ์ที่เรียบหรูและบางเป็นพิเศษ แต่ในรุ่นใหม่ล่าสุด ได้รับการปรับปรุงให้มีความทนทานมากขึ้น โดยเฉพาะตัวเรือนอะลูมิเนียมที่มาพร้อมกระจก Ion-X ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการขีดข่วนให้กับจอภาพได้ดีขึ้น 2 เท่า

กระจก Ion-X เป็นกระจกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และเป็นกรรมสิทธิ์ของ Apple ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม โดยเสริมความแข็งแรงด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนไอออน อีกทั้งยังได้รับการเคลือบผิวเซรามิกผ่านกระบวนการการเคลือบผิวด้วยไอสารสุดล้ำ ที่ออกแบบโดย Apple ทำให้ชั้นเคลือบยึดติดกับกระจกในระดับอะตอม และทำให้พื้นผิวแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก

Apple Watch Series 11 ตัวเรือนอะลูมิเนียม มีให้เลือก 2 ขนาด 42 มม. และ 46 มม. ผลิตออกมา 4 สี ได้แก่ Rose Gold, Silver, Space Gray และ Jet Black ไม่ว่าจะเป็นขนาด 42 มม. หรือ 46 มม. Apple Watch Series 11 ก็มีความบางเท่ากันที่ 9.7 มิลลิเมตร แต่แน่นอนว่ามีน้ำหนักแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัสดุตัวเรือน และเวอร์ชัน GPS หรือ Cellular

มุมมองด้านข้าง จะพบกับ Digital Crown ถัดลงมาเป็นตำแหน่งไมโครโฟนพร้อมการแยกเสียง ตามด้วยปุ่มด้านข้าง

อีกข้างมีลำโพงและใช้เป็นช่องระบายอากาศในตัว

ด้านหลัง Apple Watch Series 11 เป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดและเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล รวมถึงปุ่มสำหรับปลดสายนาฬิกา

Apple Watch Series 11 ได้รับการออกแบบมาให้ทนน้ำได้ดีเยี่ยมเหมือนรุ่นก่อน สามารถทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร จึงสามารถสวมใส่ระหว่างว่ายน้ำได้อย่างไร้กังวล รวมถึงสวมใส่เพื่อดำน้ำแบบสนอร์เกิลที่ความลึกถึง 6 เมตร แต่ไม่ควรใช้ในการดำน้ำแบบสกูบา เล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูง ถ้าหากต้องการดำน้ำระดับมืออาชีพ แนะนำเป็น Apple Watch Ultra นอกจากนี้ Apple Watch Series 11 ยังทนฝุ่นที่ระดับสูงสุด IP6X ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย

จอภาพ LTPO3 พร้อม OLED มุมกว้าง และหน้าปัดใหม่

Apple Watch Series 11 มาพร้อมจอแสดงผล LTPO3 ความละเอียด 416 x 496 พิกเซล พื้นที่แสดงผล 1,220 ตร.มม. สำหรับรุ่น 46 มม. และ ความละเอียด 374 x 446 พิกเซล พื้นที่แสดงผล 989 ตร.มม. สำหรับรุ่น 42 มม. และรองรับการแสดงผลแบบติดตลอด หรือ Always-On

เช่นเดียวกับรุ่นก่อน Apple Watch Series 11 ได้รับใช้จอภาพ OLED แบบมุมกว้าง ทำให้แต่ละพิกเซลเปล่งแสงออกมาได้มากขึ้นในมุมมองที่กว้างกว่าเดิม ช่วยให้อ่านหน้าจอได้ง่ายขึ้น แม้มองจากด้านข้าง อีกทั้งยังให้ความสว่างสูงสุด 2,000 นิต และลดความสว่างให้ต่ำลงเหลือเพียง 1 นิต
watchOS 26 ยังเพิ่มหน้าปัดใหม่ 2 แบบ ที่พบใน Apple Watch Series 11 ได้แก่ Flow และ Exactograph

– หน้าปัด Flow ใช้ตัวเลข Liquid Glass ที่หักเหเฉดสีได้อย่างงดงาม และจะเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวข้อมือ
– หน้าปัด Exactograph เป็นการตีความนาฬิกาเรกูเลเตอร์แบบดั้งเดิมในรูปแบบร่วมสมัย โดยแยกการแสดงชั่วโมง นาที และ วินาที เพื่อการบอกเวลาที่เที่ยงตรง
นอกจากนี้ ยังมีการอัปเดตหน้าปัดมากกว่า 20 แบบ เพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นการขยับของวินาทีได้โดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมา
รองรับ 5G

Apple Watch Series 11 รุ่น GPS + Cellular ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ เนื่องจากรองรับเครือข่าย 5G จากเดิมที่จำกัดไว้ที่มาตรฐาน 4G ทำให้ Apple Watch Series 11 สามารถดาวน์โหลดเพลง พ็อดคาสท์ และแอปต่างๆ ได้รวดเร็วกว่าเดิม เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรับส่งข้อมูลได้มากกว่า


Apple Watch Series 11 ยังมาพร้อมเสาอากาศ Cellular ดีไซน์ใหม่ ซึ่งรองรับย่านความถี่ได้มากขึ้น และหากจำเป็นก็สามารถใช้งานสายอากาศทั้ง 2 ระบบพร้อมกันได้ ช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ Apple Watch Series 11 รุ่น GPS + Cellular ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรับสาย ส่งข้อความ หรือแม้แต่รับความช่วยเหลือจากบริการฉุกเฉินได้ โดยไม่ต้องพกพา iPhone ติดตัวไปด้วย โดยตอนนี้ใช้งาน 5G ได้เฉพาะเครื่อข่าย AIS เท่านั้น

Sleep Score

นอกจากติดตามการนอนหลับ Apple Watch Series 11 ยังได้รับฟีเจอร์ใหม่ Sleep Score หรือ คะแนนการนอนหลับ ช่วยบันทึกข้อมูลระหว่างการนอนหลับ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิข้อมือ ระดับออกซิเจนในเลือด และ อัตราการหายใจ ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจคุณภาพการนอนหลับของตัวเอง และรู้วิธีฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น


คะแนนการนอนหลับ เป็นส่วนหนึ่งของ watchOS 26 ช่วยให้ Apple Watch ติดตามคุณภาพการนอนหลับรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาในการนอนหลับ ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอน ความถี่ในการตื่น รวมไปถึงเวลาที่ใช้ในการนอนหลับแต่ละระดับ จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดมาสรุปเป็นคะแนนการนอนหลับที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ใช้งานเห็นภาพรวมของคุณภาพการนอนได้อย่างครบถ้วน

ผู้ใช้งาน Apple Watch จะได้รับรายงานคะแนนการนอนหลับในทุกๆ เช้า และสามารถเลือกดูคะแนนการนอนหลับได้ง่ายๆ ผ่านกลไกหน้าปัดนาฬิกาหรือในวิดเจ็ต Smart Stack และยังติดตามคะแนนการนอนหลับย้อนหลังได้ในแอป Health บน iPhone

การให้คะแนนการนอนหลับ อาศัยอัลกอริทึมการให้คะแนนที่ได้รับการพัฒนาและทดสอบด้วยข้อมูลการนอนหลับกว่า 5 ล้านคืน จาก Apple Heart and Movement Study ซึ่งอ้างอิงจากแนวทางที่รวบรวมข้อมูลโดย American Academy of Sleep Medicine, National Sleep Foundation และ World Sleep Society
Workout Buddy

watchOS 26 นำประสบการณ์การออกกำลังกายที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intellignce มาสู่ Apple Watch เป็นครั้งแรก ทำให้ Apple Watch Series 11 สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกายและประวัติด้านความฟิตของผู้ใช้งาน แล้วส่งแรงบันดาลใจด้วยเสียงที่ปรับให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละรายตลอดการออกกำลังกาย โดยอ้างอิงจากข้อมูลอย่างอัตราการเต้นของหัวใจ เพซ ระยะทาง วงแหวนกิจกรรม หมุดหมายด้านความฟิต และอีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก Workout Buddy รองรับการใช้งานเฉพาะภาษาอังกฤษ สำหรับการออกกำลังกายยอดนิยมบางประเภท และใช้งานได้บน Apple Watch ที่เชื่อมต่อกับหูฟัง Bluetooth โดยมี iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence อยู่ใกล้ๆ
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น

ถึงแม้จะใช้ชิป S10 แบบเดียวกับรุ่นก่อน แต่ Apple Watch Series 11 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิม สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง เมื่อใช้งานปกติ หรือ นานสูงสุด 38 ชั่วโมง ในโหมดประหยัดพลังงาน ซึ่งให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 6 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 10


Apple Watch Series 11 ยังรองรับการชาร์จเร็ว สามารถชาร์จได้สูงสุด 80% ในเวลาประมาณ 30 นาที หรือ ชาร์จ 15 นาที ใช้งานปกติได้สูงสุด 8 ชั่วโมง และถ้าลืมชาร์จก่อนติดตามการนอนหลับ ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถติดตามการนอนหลับได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง
watchOS 26

นอกจาก Sleep Score และ Workout Buddy ระบบปฏิบัติการ watchOS 26 ยังถูกยกเครื่องดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Liquid Glass ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาและสื่อความหมายได้ดีเยี่ยมทั้งบนหน้าปัดรูปภาพ วิดเจ็ต Smart Stack การเสนอวิดเจ็ต Smart Stack การแจ้งเตือน Control Center รวมถึงส่วนควบคุมและการไปยังส่วนต่างๆ ภายในแอป
การเสนอวิดเจ็ต Smart Stack คือคำแนะนำเชิงรุกที่จะเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์และใช้ได้ทันที โดยอ้างอิงจากข้อมูลตามบริบท ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ และกิจวัตรของผู้ใช้

watchOS 26 ยังนำฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย มาให้เจ้าของ Apple Watch Series 11 ได้ใช้งาน รวมถึงปรับปรุงแอปพลิเคชันเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น อย่างแอป Workout ที่ได้รับเลย์เอาท์ใหม่ ช่วยให้การปรับแต่งการออกกำลังกายทำได้ง่ายขึ้น ด้วยมุมมองการออกกำลังกาย การออกกําลังกายแบบกําหนดเอง ตัวควบคุมเพซ เส้นทางการแข่งขัน และ อีกมากมาย อีกทั้งยังสามารถดูและสร้างการออกกำลังกายได้สะดวกยิ่งขึ้นในแอป Fitness บน iPhone รวมถึงการออกกำลังกายแบบกำหนดเอง และเข้าถึงการออกกำลังกายเหล่านั้นได้ง่ายๆ ในแอป Workout บน Apple Watch นอกจากนี้ ผู้ใช้ Apple Watch Series 11 ยังสามารถตั้งค่าเพลงและพ็อดคาสท์ในแอป Workout ให้เล่นโดยอัตโนมัติเมื่อเริ่มออกกำลังกาย

นอกจากคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง” watchOS 26 ได้เพิ่มคำสั่งพลิกข้อมือใหม่แบบใช้มือเดียว ช่วยให้ผู้ใช้ปิดการแจ้งเตือนทิ้ง หยุดตัวจับเวลา หรือปิดเสียงปลุกได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ผู้ใช้ Apple Watch Series 11 ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นแม้มืออีกข้างจะไม่ว่าง

เมื่อผู้ใช้งานจับคู่ Apple Watch Series 11 กับ iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence จะสามารถใช้ฟีเจอร์ Live Translation ในแอป Messages ซึ่งรองรับการแปลข้อความที่ได้รับเป็นภาษาที่ผู้ใช้ต้องการได้ทันทีบนข้อมือ

Apple Watch Series 11 ยังได้รับฟีเจอร์ Call Screening และ Hold Assist เมื่อจับคู่กับและอยู่ใกล้กับ iPhone ที่ทำงานบน iOS 26 โดยฟีเจอร์ Call Screening ช่วยให้ผู้ใช้จัดการสายเรียกเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบจะขอชื่อและเหตุผลในการโทรก่อนที่โทรศัพท์จะดัง ทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสาย ปฏิเสธ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนฟีเจอร์ Hold Assist ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องรอปลายทางรับสายด้วยตัวเอง เนื่องจาก Hold Assist สามารถแจ้งให้ผู้ใช้กลับเข้าสู่การสนทนา เมื่อปลายทางรับสาย เหมาะสำหรับการโทรไปยังศูนย์บริการต่างๆ

สรุปราคาและการจำหน่าย

Apple Watch Series 11 เป็น Apple Watch ระดับพรีเมียมของ Apple จะเรียกว่าเป็น Apple Watch ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ว่าได้ โดยมีความสามารถหลายอย่างเทียบเท่า Apple Watch Ultra เหมาะสำหรับผู้ใช้งาน Apple Watch รุ่นเก่า โดยเฉพาะเก่ากว่า Apple Watch Series 9 ที่ต้องการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงเจ้าของ Apple Watch SE ที่ต้องการ Apple Watch ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการออกกำลังกายและติดตามสุขภาพแบบครบวงจร โดยไม่เน้นใช้งานแบบสมบุกสมบันระดับ Apple Watch Ultra

ทั้งนี้ Apple Watch Series 11 พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท สำหรับรุ่น GPS และเริ่มต้น 18,900 บาท สำหรับรุ่น GPS + Cellular
https://www.apple.com/th/shop/buy-watch/apple-watch






