Saturday, December 6, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

รีวิว realme Buds Air 2 และ realme Buds Air 2 Neo หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน เบสแน่น เน้นสายเกม จูนเสียงโดยดีเจชื่อดัง The Chainsmokers ราคาเริ่มต้นแค่ 1,299 บาท

Jackrich T. by Jackrich T.
May 1, 2021
in Feature, NEWS, Recommended, Review & Preview
144
SHARES
16.3k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

เมื่อเร็วๆนี้ realme แบรนด์​สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้ตัวสมาร์ทโฟน realme 8 และ realme 8 5G ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งทีมงาน @flashfly เคยนำเสนอรีวิวให้อ่านกันไปแล้วก่อนหน้านี้ และในกิจกรรมดังกล่าวทาง realme ยังถือโอกาสแนะนำหูฟังไร้สายแบบ TWS (True Wireless  Stereo) รุ่นใหม่ ได้แก่ realme Buds Air 2 กับ realme Buds Air 2 Neo และทีมงาน @flashfly ก็ไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้ได้อ่านพร้อมกันทั้ง 2 รุ่น

realme Buds Air 2 Neo

realme Buds Air 2 Neo มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation พร้อม Bass Boost Driver ขนาดใหญ่ 10 มิลลิเมตร เล่นเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 28 ชั่วโมง

สเปก realme Buds Air 2 Neo

  • เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ ANC (Active Noise Cancellation)
  • ตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนาด้วยระบบ Dual Mic Noise Cancellation
  • โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode)
  • โหมดเกม ลดการดีเลย์ของเสียงลงให้ต่ำที่สุดเพียง 88 มิลลิวินาที
  • ลำโพงขนาด 10 มิลลิเมตร (Bass Boost Driver)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
  • ตรวจจับการสวมใส่หูฟังแบบเรียลไทม์ (Smart Wear Detection)
  • ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX5
  • เล่นเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 28 ชั่วโมง
  • รองรับชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานกว่า 3 ชั่วโมง
  • ขนาดเคสชาร์จ 60.34 x 44.57 x 32.96 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักเคสชาร์จ 45 กรัม, น้ำหนักหูฟัง ข้างละ 4.5 กรัม
  • มีให้เลือก 2 สี Active Black และ Calm Gray

แกะกล่อง

ภายในกล่อง จะพบเคสชาร์จ ภายในเคสมีหูฟัง realme Buds Air 2 Neo พร้อมจุกหูฟัง ขนาด M โดยมีขนาด S กับ L แถมมาให้ สำหรับเปลี่ยนเพื่อให้พอดีกับขนาดของหูแต่ละคน และมีสายเคเบิล USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ของตัวเคส ส่วนเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือแนะนำการใช้งาน ข้อมูลด้านความปลอดภัย และ บัตรรับประกัน

ดีไซน์แห่งโลกอนาคต

realme Buds Air 2 Neo ใช้ดีไซน์แบบ Futuristic สะท้อนความล้ำหน้าจากอนาคต เพิ่มความโดดเด่นให้กับด้านบนของตัวหูฟัง ด้วยการใช้ฟิล์มพลาสติกที่ผ่านกระบวนการ Lamination Process นำฟิล์มพลาสติกหลายๆ ชั้น มาเคลือบติดเข้าด้วยกันเป็นฟิล์มแผ่นเดียว ส่วนอื่นของหูฟังใช้กระบวนการ Matte Process ทำให้เกิดพื้นผิวด้าน

หูฟังทั้ง 2 ข้าง ถูกออกแบบมาให้มีความโค้งมนเป็นพิเศษ เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบาย โดยบริเวณด้านบนมีความโค้ง 48 องศา และบริเวณส่วนล่างมีความโค้ง 72 องศา

หูฟังแต่ละข้างใช้สีเดียวกับเคสชาร์จ มีน้ำหนักเบาเพียง 4.5 กรัม จึงสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายตลอดทั้งวัน 

ตัวเคสชาร์จมีขนาดเล็ก ดีไซน์คล้ายก้อนหินตามธรรมชาติ โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 45 กรัม สามารถพกพาได้อย่างสะดวก และมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Active Black และ สีเงิน Calm Gray 

ควบคุมด้วยระบบสัมผัส

ที่ด้านหลังของหูฟังทั้ง 2 ข้าง มาพร้อมเซ็นเซอร์รับการสัมผัส เพื่อความสะดวกในการควบคุมระหว่างสวมหูฟัง โดยรองรับคำสั่งต่อไปนี้

  • แตะ 2 ครั้ง เพื่อเล่นเพลง / หยุดเล่นชั่วคราว / รับสาย / วางสาย
  • แตะ 3 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงถัดไป
  • แตะหูฟังค้างไว้ (ข้างใดก็ได้) เพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า
  • แตะหูฟังค้างไว้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวน กับโหมดฟังเสียงภายนอก

realme Buds Air 2 Neo ยังมีเทคโนโลยีตรวจจับการสวมใส่หูฟังแบบเรียลไทม์ (Smart Wear Detection) เมื่อพบว่าผู้สวมใส่ถอดหูฟังออกทั้ง 2 ข้าง จะหลุดเล่นเพลงทันที แต่ถ้าถอดออกเพียงข้างเดียว จะเปิดโหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode) โดยอัตโนมัติ

ระบบตัดเสียงรบกวน

ปกติแล้วเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ ANC (Active Noise Cancellation) จะพบได้ในหูฟังระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ realme Buds Air 2 Neo ที่เปิดราคามาเพียงพันบาทต้นๆ กลับใส่ ANC มาให้ด้วย และสามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 25 เดซิเบล ช่วยให้การฟังเพลงในที่กลางแจ้งมีความสุขมากยิ่งขึ้น

โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode)

โหมดฟังเสียงภายนอก เป็นฟีเจอร์ที่มาคู่กับระบบตัดเสียงรบกวน ช่วยให้ผู้สวมใส่ได้ยินเสียงจากภายนอก ได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก เพียงแตะหูฟังค้างไว้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวน กับโหมดฟังเสียงภายนอก หรือ จะถอดหูฟังออก 1 ข้าง ก็จะเปิดโหมดฟังเสียงภายนอกได้เช่นกัน

ตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา

ฟังเพลงได้อย่างเต็มอิ่มแล้ว การสนทนาก็ยังชัดเจน โดย realme Buds Air 2 Neo ใช้ไมโครโฟนคู่ Dual Mic Noise Cancellation พร้อมด้วยอัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวนสภาพแวดล้อมภายนอก ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมากในระหว่างการโทร ทำให้เสียงสนทนาคมชัด

คุณภาพเสียง

realme Buds Air 2 Neo มาพร้อม ไดร์เวอร์ Bass Boost ขนาด 10 มิลลิเมตร พร้อมด้วยอัลกอริทึมคอมโพสิตใหม่กับ realme Bass ที่จะช่วยปรับเสียงเบส ทำให้เสียงเบสมีความลึกและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และยังมีการปรับปรุงไดอะแฟรมจาก PU + Graphene เป็น Liquid Crystal Polymer (LCP) Diaphragm ทำให้ประสบการณ์การฟังยอดเยี่ยมกว่าหูฟัง TWS รุ่นก่อนของ realme

แบตเตอรี่

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ถือเป็นอีกจุดเด่นของ realme Buds Air 2 Neo เมื่อปรับระดับเสียงที่ 50% และปิดระบบตัดเสียงรบกวน ตัวหูฟังจะให้อายุการใช้งานยาวนาน 7 ชั่วโมง หรือ 5 ชั่วโมง ถ้าเปิดระบบตัดเสียงรบกวน อย่างไรก็ตาม เคสชาร์จ ช่วยขยายระยะเวลาได้นานถึง 28 ชั่วโมง โดยปิดระบบตัดเสียงรบกวน (เพิ่มขึ้น 65% จากรุ่นก่อนหน้า) หรือ 20 ชั่วโมง เมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน

สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ทั้งเคสและหูฟังพร้อมกันจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่กรณีชาร์จหูฟังอย่างเดียว ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังรองรับชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้ฟังเพลงได้นาน 3 ชั่วโมง เมื่อปรับความดังเสียงที่ 50%

realme Buds Air 2

realme Buds Air 2 รองรับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation มาพร้อม Hi-Fi Bass Boost Driver ขนาดใหญ่ 10 มิลลิเมตร เล่นเพลงได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 25 ชั่วโมง และมีโหมด Bass Boost+ ที่ทำงานร่วมกับคู่หูดีเจระดับโลก The Chainsmokers 

สเปก realme Buds Air 2

  • เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ ANC (Active Noise Cancellation)
  • ตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนาด้วยระบบ Dual Mic Noise Cancellation
  • โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode)
  • โหมดเกม ลดการดีเลย์ของเสียงลงให้ต่ำที่สุดเพียง 88 มิลลิวินาที
  • ลำโพงขนาด 10 มิลลิเมตร (Diamond-like Carbon Driver)
  • รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2
  • ตรวจจับการสวมใส่หูฟังแบบเรียลไทม์ (Smart Wear Detection)
  • ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX5
  • เล่นเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 25 ชั่วโมง
  • รองรับชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานกว่า 2 ชั่วโมง
  • ขนาดเคสชาร์จ 60.3 x 57 x 24 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักเคสชาร์จ 34.5 กรัม, น้ำหนักหูฟัง ข้างละ 4.1 กรัม
  • มีให้เลือก 2 สี (ในรูปแบบทูโทน) Closer Black และ Closer White 

แกะกล่อง

ภายในกล่อง จะพบเคสชาร์จที่มีหูฟัง realme Buds Air 2 อยู่ภายใน มีสายเคเบิล USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ของตัวเคส จุกหูฟังขนาด S กับ L (ขนาด M ติดตั้งมาให้อยู่แล้ว) นอกเหนือจากนี้ก็เป็นเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น ข้อมูลด้านความปลอดภัย และ บัตรรับประกัน

ดีไซน์แบบทูโทน

realme Buds Air 2 ใช้ดีไซน์ที่แตกต่างไปจากรุ่น Neo ทั้งตัวเคสชาร์จและหูฟัง โดยหูฟังยังคงมีก้านยืดออกมา และเลือกใช้ดีไซน์แบบทูโทน มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Closer Black หูฟังสีดำ ก้านสีน้ำเงิน เคสชาร์จสีดำ และ Closer White หูฟังสีขาว ก้านสีเงิน เคสชาร์จสีขาว

หูฟังแต่ละข้าง มีน้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม (เบากว่าแผ่นกระดาษ A4) ให้ความรู้สึกสบายแม้สวมใส่เป็นเวลานาน มาพร้อมจุกหูฟังซิลิโคน 3 ขนาด S M L สามารถถอดเปลี่ยนเพื่อให้พอดีกับขนาดของหูมากที่สุด (ขนาด M ถูกติดตั้งมาให้แล้ว)

สำหรับเคสชาร์จมีน้ำหนักเพียง 34.5 กรัม เมื่อรวมกับน้ำหนักของหูฟังทั้ง 2 ข้าง จะอยู่ที่ 42.7 กรัม ซึ่งถือว่าเบามาก จึงสามารถพกพาได้อย่างสบาย

realme Buds Air 2 (เฉพาะตัวหูฟัง) ยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถป้องกันน้ำได้ในระดับ IPX5 สามารถต้านทานละอองน้ำและเหงื่อได้อย่างดี และผ่านการทดสอบปุ่มสัมผัสแบบกันน้ำมากกว่า 2,500 ครั้ง ส่วนเคสชาร์จก็ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด ทั้งการการเปิด-ปิดฝามากกว่า 10,000 ครั้ง ทดสอบการเสียบสายชาร์จมากกว่า 5,000 ครั้ง ทดสอบความเสถียรของพอร์ตชาร์จมากกว่า 2,000 ครั้ง และทดสอบการใช้งานในอุณหภูมิติดลบ 20 องศา หรือ สูงถึง 60 องศา

ควบคุมด้วยระบบสัมผัส

หูฟัง realme Buds Air 2 ทั้ง 2 ข้าง มาพร้อมเซ็นเซอร์รับการสัมผัส เพื่อความสะดวกในการควบคุมระหว่างสวมหูฟัง โดยรองรับคำสั่งต่อไปนี้

  • แตะ 2 ครั้ง เพื่อเล่นเพลง / หยุดเล่นชั่วคราว / รับสาย / วางสาย
  • แตะ 3 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงถัดไป
  • แตะหูฟังค้างไว้ (ข้างใดก็ได้) เพื่อปฏิเสธสายเรียกเข้า
  • แตะหูฟังค้างไว้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวน กับโหมดฟังเสียงภายนอก

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งต่างๆ ได้จากแอพพลิเคชั่น reamle Link บนสมาร์ทโฟนที่จับคู่กับหูฟัง

ระบบตัดเสียงรบกวน

realme Buds Air 2 ยังมีเทคโนโลยีตรวจจับการสวมใส่หูฟังแบบเรียลไทม์ (Smart Wear Detection) เมื่อพบว่าผู้สวมใส่ถอดหูฟังออกทั้ง 2 ข้าง จะหลุดเล่นเพลงทันที แต่ถ้าถอดออกเพียงข้างเดียว จะเปิดโหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode) โดยอัตโนมัติ

หูฟัง realme Buds Air 2 มีจุดเด่นที่เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ ANC (Active Noise Cancellation) สามารถกรองเสียงรบกวนความถี่ต่ำ อย่างเสียงของเครื่องยนต์ เสียงรถไฟ เครื่องบิน รวมถึงเสียงรบกวนต่างๆ ที่อยู่รอบข้าง โดยสามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 25 เดซิเบล เพื่อให้ผู้สวมใส่รับฟังเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม

โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency Mode)

ขณะฟังเพลงผ่านหูฟัง และต้องการสนทนากับคนข้างๆ สามารถเปิดโหมด Transparency เพื่อฟังเสียงภายนอกได้ทันที โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหู สำหรับวิธีเปิดโหมด Transparency ทำได้ง่ายๆ เพียงแตะหูฟังค้างไว้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อสลับระหว่างโหมด Active Noise Cancellation (ตัดเสียงรบกวน) กับโหมด Transparency (ฟังเสียงภายนอก)

ตัดเสียงรบกวนระหว่างสนทนา

นอกจากจะมีระบบตัดเสียงรบกวนระหว่างฟังเพลง realme Buds Air 2 ยังมาพร้อมไมโครโฟนคู่ Dual Mic Noise Cancellation พร้อมด้วยอัลกอริทึมการตัดเสียงรบกวนสภาพแวดล้อมภายนอก สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างในระหว่างการโทร ทำให้เสียงสนทนาคมชัดมากยิ่งขึ้น

โหมดเกม

โหมดเกม Super Low Latency เหมาะสำหรับใช้งานในระหว่างเล่นเกม หรือรับชมภาพยนตร์ เพราะสามารถลดความหน่วงได้ถึงระดับต่ำเพียง 88 มิลลิวินาที ลดลงถึง 35% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และเป็นระดับความหน่วงที่ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้ภาพและเสียงตรงกันมากที่สุด

คุณภาพเสียง

หูฟัง realme Buds Air 2 ทั้ง 2 ข้าง มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10 มิลลิเมตร ที่ได้รับการเคลือบสารคาร์บอนคล้ายเพชร (Diamond-like Carbon) ซึ่งมีความแข็งและความต้านคล้ายกับเพชร 

ส่วนขยายด้านหน้าและด้านหลังที่โดดเด่น มีความไวต่อการตอบสนองที่มีคุณภาพ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับฟังของเสียง ด้วยคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ นอกจากนี้ อัตราการบิดเบือนของ realme Buds Air 2 ยังลดลงเหลือน้อยกว่า 0.5% ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรม

จับคู่ได้อย่างง่ายดาย

realme Buds Air 2 และ realme Buds Air 2 Neo รองรับ Google Fast Pair ช่วยให้การจับคู่ครั้งแรกระหว่างสมาร์ทโฟนกับหูฟังเป็นเรื่องง่าย เพียงเปิดฝาเคสชาร์จใกล้กับสมาร์ทโฟน และในการเชื่อมต่อครั้งถัดไปก็แค่เพียงเปิดฝาเคสชาร์จเท่านั้น 

ทั้งนี้ realme Buds Air 2 มาพร้อมชิป R2 และการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ทำให้การเชื่อมต่อมีความเสถียร ประหยัดพลังงานมากขึ้น และสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายเครื่อง โดยมีระยะการรับ-ส่งข้อมูลสูงสุด 10 เมตร

แอพ realme Link

เมื่อจับคู่ realme Buds Air 2 กับสมาร์ทโฟนที่มีแอพพลิเคชั่น realme Link ผู้ใช้งานจะสามารถตั้งค่าการใช้งานหูฟังได้อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการปรับเสียง EQ, เปลี่ยนแปลงการควบคุมระบบสัมผัส, การตั้งค่าโหมดเกม, เปิดใช้งานโหมดต่างๆ รวมไปถึงเปิดใช้งานโหมด Bass Boost+  

ปรับแต่งเสียงโดย The Chainsmokers

โหมด Bass Boost+ ใน realme Buds Air 2 ได้รับการอัพเกรดใหม่ โดยได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่าง realme Music Studio กับ The Chainsmokers ดีเจชาวอเมริกัน ที่ทำงานกัน 2 คน คือ Alex Pall กับ Andrew Taggart ปัจจุบันทั้งคู่ถือเป็นดีเจในอันดับที่ 27 จากการจัดอันดับสุดยอดดีเจ 100 อันดับแรกของโลก และมีเพลงฮิตอย่าง “Closer” และ “Something Just Like This” ที่ติดชาร์ททั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา

โหมด Bass Boost+ ช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถเพิ่มเสียงเบสสำหรับการบันทึกดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ร็อค และเสียงอื่นๆ ที่ชื่นชอบได้ โดยเปิดใช้งานผ่านแอพ realme Link  และเลือกโหมด Bass Boost+ ที่ต้องการระหว่าง โหมด Dynamic กับ โหมด Bright

  • โหมด Dynamic จะมีการปรับสมดุลของเสียงเบส และเสียงในย่านแหลมและกลาง 
  • โหมด Bright ช่วยเพิ่มเสียงพูดของมนุษย์ เหมาะสำหรับการฟัง Podcasts หรือ Audiobooks 

แบตเตอรี่

หูฟัง realme Buds Air 2 ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 5 ชั่วโมง จากการฟังเพลงในรูปแบบ AAC ปรับความดังของหูฟังไว้ที่ 50% และปิดระบบตัดเสียงรบกวน กรณีเปิดระบบตัดเสียงรบกวน จะให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 4 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม เมื่อพกพาเคสชาร์จที่มีแบตเตอรี่เต็มติดตัวไปด้วย จะช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 25 ชั่วโมง จากการฟังเพลงในรูปแบบ AAC ปรับความดังของหูฟังไว้ที่ 50% และปิดระบบตัดเสียงรบกวน กรณีเปิดระบบตัดเสียงรบกวน จะให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 22.5 ชั่วโมง

สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ทั้งเคสและหูฟังพร้อมกันจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่กรณีชาร์จหูฟังอย่างเดียว ใช้เวลา 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังรองรับชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถใช้ฟังเพลงได้นาน 120 นาที เมื่อปรับความดังเสียงที่ 50% ปิดระบบตัดเสียงรบกวน และเล่นเพลงในรูปแบบ AAC

สรุป

realme Buds Air 2 Neo ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามทันสมัยไร้ก้าน มีจุดเด่นที่ระบบตัดเสียงรบกวน โหมดฟังเสียงภายนอก สนทนาชัดเจน และให้อายุการใช้งานนานสูงสุดถึง 28 ชั่วโมง ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ขณะที่ realme Buds Air 2 เน้นความเรียบหรูพรีเมียม เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติทุกอย่างที่พบใน realme Buds Air 2 Neo แต่เหนือกว่าที่คุณภาพเสียง

สรุปแล้ว realme Buds Air 2 Neo เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ส่วน realme Buds Air 2 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นฟังเพลงเป็นพิเศษ

realme Buds Air 2 Neo พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ มาในราคาเพียง 1,299 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Active Black และ Calm Grey สามารถเป็นเจ้าของได้ผ่านช่องทาง E-Commerce เท่านั้น

realme Buds Air 2 วางจำหน่ายแล้วเช่นกัน สามารถหาซื้อได้ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ราคา 2,499 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Closer Black และ Closer White






Tags: Realmerealme buds air 2realme Buds Air 2 NeoReview
ShareTweetShare

Related Posts

รีวิว vivo X300 Series แฟลกชิปที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมกล้อง ZEISS APO Telephoto 200MP และชุดเลนส์เสริม ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6
Feature

รีวิว vivo X300 Series แฟลกชิปที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมกล้อง ZEISS APO Telephoto 200MP และชุดเลนส์เสริม ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6

November 28, 2025
รีวิว realme C85 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ 7000mAh กันน้ำขั้นสุด IP69 Pro จอ 6.8 นิ้วรีเฟรช 144Hz อัดแน่นด้วย AI และ realme Buds Clip หูฟังไร้สายรุ่นใหม่
Feature

รีวิว realme C85 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ 7000mAh กันน้ำขั้นสุด IP69 Pro จอ 6.8 นิ้วรีเฟรช 144Hz อัดแน่นด้วย AI และ realme Buds Clip หูฟังไร้สายรุ่นใหม่

November 26, 2025
รีวิว Samsung Galaxy Tab A11+ แท็บเล็ตโทรได้ แบตอึด การันตี อัปเกรดซอฟต์แวร์ 7 เวอร์ชั่นพร้อม AI เป็นครั้งแรก
Feature

รีวิว Samsung Galaxy Tab A11+ แท็บเล็ตโทรได้ แบตอึด การันตี อัปเกรดซอฟต์แวร์ 7 เวอร์ชั่นพร้อม AI เป็นครั้งแรก

November 25, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • เปรียบเทียบ 2 เรือธงแห่งปี Galaxy S25 Ultra vs iPhone 17 Pro Max

    788 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

ฟิล์มกันรอยหน้าจอทั่วไป อาจทำให้การป้องกันแสงสะท้อนของ iPhone 17 Series ลดลง

ฟิล์มกันรอยหน้าจอทั่วไป อาจทำให้การป้องกันแสงสะท้อนของ iPhone 17 Series ลดลง

December 6, 2025
iPhone 17 Pro ไม่มีโหมด Night ในโหมด Portrait ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่น Pro ตั้งแต่ปี 2020

iPhone 17 Pro ไม่มีโหมด Night ในโหมด Portrait ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ในรุ่น Pro ตั้งแต่ปี 2020

December 6, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');