เชื่อว่า iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะเป็นไฮไลท์ในกิจกรรม It’s Glowtime ของ Apple ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ เวลา 0:00 น. ตามเวลาของประเทศไทย โดยมีการปรับปรุงกล้องที่สำคัญอย่างน้อย 7 รายการ ตามรายงานต่อไปนี้
ปรับปรุงกล้อง Ultra Wide
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ถูกอ้างว่า จะได้รับกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ช่วยให้จับแสงได้มากขึ้น ส่งผลให้ภาพถ่ายได้รับการปรับปรุงเมื่อถ่ายภาพในโหมด 0.5x และคาดว่าจะรองรับการถ่ายภาพ ProRAW ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ในโหมด Ultra Wide และยังช่วยปรับปรุงการถ่าภาพในโหมดมาโคร หรือ การถ่ายภาพในระยะใกล้วัตถุ
ปรับปรุงการถ่ายวิดีโอ
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max จะสามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้สูงสุด 120FPS ขณะที่ iPhone 15 Series ทั้ง 4 รุ่น สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ได้สูงสุด 60FPS
นอกจากนี้ Apple ยังถูกอ้างว่ากำลังทดสอบถ่ายวิดีโอระดับ 8K บน iPhone 16 Pro แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า Apple จะเปิดใช้งานวิดีโอระดับ 8K ให้กับ iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้หรือไม่
ปรับปรุงระบบซูมออปติคัล
ปีที่แล้ว iPhone 15 Pro Max เป็น iPhone รุ่นแรกและรุ่นเดียว ที่ได้รับกล้อง Telephoto แบบ Tetraprism ช่วยให้รองรับการซูมออปติคอล 5 เท่า และซูมดิจิทัล 25 เท่า ซึ่งแน่นอนว่า iPhone 16 Pro Max ก็จะได้รับการปรับปรุงเช่นเดียวกัน
ข่าวดีก็คือ iPhone 16 Pro ทายาทโดยตรงของ iPhone 15 Pro ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับกล้อง Telephoto แบบ Tetraprism ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า iPhone 16 Pro Max จะสร้างความแตกต่างจาก iPhone 16 Pro ด้วยกล้อง Super Telephoto ซึ่งคาดว่าจะมีความยาวโฟกัสมากกว่า 300 มม. (กล้อง Telephoto ใน iPhone 15 Pro Max มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 77 มม.) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในโหมดพอร์ตเทรต รวมถึงการถ่ายภาพกีฬาและสัตว์ป่า
เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน
มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีการเคลือบป้องกันแสงสะท้อนแบบใหม่สำหรับกล้อง iPhone ในอนาคต โดยใช้ ALD (Atomic Layer Deposition) ในกระบวนการผลิตเลนส์กล้อง ซึ่งสามารถปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายได้ โดยการลดสิ่งแปลกปลอมอย่างเอฟเฟกต์แสง Flare และ Ghost
การใช้ ALD ช่วยลดสิ่งรบกวนจากการถ่ายภาพ ที่อาจเกิดขึ้นในภาพสุดท้าย เมื่อแหล่งกำเนิดแสงสว่าง เช่น ดวงอาทิตย์ ส่องเข้าสู่เลนส์กล้องโดยตรง และยังสามารถลดภาพซ้อน ซึ่งเป็นการบิดเบือนภาพประเภทหนึ่ง ทำให้มีภาพรองที่จางๆ ปรากฏขึ้นในภาพถ่าย ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ตรงข้ามกับแหล่งกำเนิดแสงที่สว่าง สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อแสงสะท้อนไปมาระหว่างพื้นผิวของชิ้นเลนส์และเซ็นเซอร์กล้อง
คาดว่า Apple จะนำเทคนิคเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนใหม่มาใช้กับ iPhone 16 Pro แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนไปใช้กับ iPhone 17 Pro ในปีหน้า
ปรับปรุงกล้องหลัก
กล้องหลักของ iPhone 16 Pro Max จะได้รับเซ็นเซอร์กล้องแบบ 2-Layer Stacked (CIS) CMOS image sensor ใหม่ล่าสุดจาก Sony ซึ่งมีการปรับปรุงให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น เนื่องจากสามารถจับแสงได้มากขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์กล้องที่มีอยู่
เซ็นเซอร์ภาพ 2-Layer Stacked ของ Sony มีพิกเซลทรานซิสเตอร์และโฟโตไดโอดแยกออกจากกัน 2 ชั้น (ซึ่งปกติจะรวมกันเป็นชั้นเดียว) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายรูปในสภาวะแสงที่ซับซ้อน เช่น ถ่ายภาพย้อนแสง ถ่ายภาพในอาคาร ถ่ายภาพในเวลากลางคืน ช่วยให้ได้ภาพคุณภาพสูงขึ้น และช่วยลด Noise ได้อย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า iPhone 16 Pro จะได้รับเซ็นเซอร์ใหม่นี้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากมีข่าวลือว่าอาจจะนำมาใช้เฉพาะ iPhone 16 Pro Max
ปุ่ม Capture
iPhone 16 Series ทั้ง 4 รุ่น ถูกลือว่าจะได้รับปุ่มใหม่เพิ่มเข้ามา เรียกว่าปุ่ม Capture วางอยู่ต่ำกว่าปุ่มเพาเวอร์ ช่วยให้การใช้งานกล้องมีความสะดวกขึ้น โดยคาดว่าจะมีฟังด์ชันใหม่ๆ เพื่อควบคุมการถ่ายภาพและวิดีโอ
คาดว่าปุ่ม Capture ของ iPhone 16 Series จะสามารถตรวจจับแรงกด เพื่อจำลองปุ่มชัตเตอร์ 2 จังหวะ แบบเดียวกับที่พบในกล้องถ่ายรูประดับมืออาชีพ เมื่อกดลงเบาๆ เพียงครึ่งหนึ่ง จะเป็นการล็อคโฟกัสหรือค่าแสง และเมื่อกดลงไปจนสุด จึงจะเป็นการจับภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถปัดไปทางซ้ายหรือขวาบนปุ่ม Capture เพื่อซูมเข้าและออกได้
รูปแบบไฟล์ใหม่ JPEG-XL
สุดท้ายนี้ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ถูกอ้างว่า จะสนับสนุนรูปแบบไฟล์ใหม่ที่เรียกว่า JPEG-XL เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่รองรับ JPEG, HEIF, HEIF Max และ ProRaw Max
รูปแบบไฟล์ภาพ JPEG-XL รองรับการบีบอัดได้ทั้งรูปแบบสูญเสียและไม่มีการสูญเสียรายละเอียด รองรับขอบเขตสีกว้าง ช่วงไดนามิกสูง (HDR) และการเรนเดอร์แบบโปรเกรสซีฟ
ที่มา – 9to5Mac
