Huawei P9 นี่คือสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุดประจำ 2016 จากทาง Huawei ที่กำลังถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้ ตัวเครื่องนอกจากดีไซน์สวยงามหรูหราแล้วยังมาพร้อมนวัตกรรมกล้องเลนส์คู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องใช้เลนส์จากแบรนด์กล้องระดับโลกอย่าง Leica ที่ขึ้นชื่อด้านการถ่ายภาพ
ทำให้รูปภาพและวิดีโอที่ถ่ายด้วย Huawei P9 นั้นแตกต่างจากที่เคยเห็นมาบนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโหมดการถ่ายภาพขาวดำที่เป็นเอกลักษณ์ของ Leica ซึ่งเครื่องที่ทีมงาน @flashfly ได้มาทดสอบนั้นเป็นเครื่องสีทองสวยงาม หรูหราตามสไตล์แฟลกชิปของค่าย
มาดูกันว่าในกล่องจะมีอุปกรณ์อะไรให้มาบ้าง เริ่มที่ตัวกล่องที่แลดูพรีเมี่ยมจริงๆที่สกรีนสีทองที่ชื่อรุ่นชัดเจน ด้านล่างมีโลโก้ Leica สีแดงและคำว่า Dual Camera
เปิดออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง Huawei P9 และคำว่า Huawei Design

เมื่อถาดใส่ตัวเครื่องออก จะพบกับกล่องอุปกรณ์เสริมอีก 3 กล่องด้วยกัน
ซึ่งจะประกอบไปด้วย กล่องใส่อุปกรณ์เฮดเซ็ท และสายเคเบิล USB-C

อะแดปเตอร์ และอุปกรณ์แปลงสายเป็น USB-C

กล่องใหญ่สุดจะมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น เข็มจิ้มถาดใส่ซิม
แถมเคสแบบใสมาให้ใช้งานได้ทันทีเลย
เมื่อแกะกล่องเสร็จเรียบร้อยแล้วมาดูตัวเครื่อง Huawei P9 กันบ้างกันบ้าง ตัวเครื่องมีหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD กระจกมุมโค้ง 2.5D มีความอิ่มตัวของสีถึง 96% และมีความคมชัดสูง

ใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบ unibody ที่ใช้ในการสร้างยานอวกาศ สวยงามด้วยวิธี diamond-cut edges รอบตัวเครื่อง รูปทรงเพรียวบางและจับกระชับมือเมื่อใช้งานบาง 6.95 มม. หนัก 144 กรัมเท่านั้น
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F2.4) เซลฟี่ได้ดีแม้อยู่ในที่แสงน้อย
ด้านล่างจะมี 3 ปุ่มหลักที่ผู้ใช้งาน Android คุ้นเคยกันดี และโลโก้ Huawei ชัดเจน

ด้านขวาจะมีปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มล็อกหน้าจอ หรือปุ่ม Power
ด้านซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ซิมและ MicroSD ซึ่งต้องใช้เข็มจิ้มออกมาจากตัวเครื่อง

ด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type C และลำโพง ส่วนด้านบนจะมีเพียงรูไมโครโฟนเท่านั้น
พลิกมาดูด้านหลังตัวเครื่องซื้อถือเป็นไฮท์ไลท์เลยทีเดียว กล้องคู่ความละเอียดตัวละ 12 ล้านพิกเซล (F2.2) จาก Leica
ไฟแฟลช LED แบบทูโทน 2 สี และเทคโนโลยีไฮบริดโฟกัสที่ใช้เลเซอร์วัดระดับความตื้น-ลึก และการเปรียบเทียบความต่างของแสง

ถัดลงมาก็จะเป็นเซ็นเซอร์แสกนนิ้วมือที่ปลอดล็อคสมาร์ทโฟนได้รวดเร็วขึ้น ด้วยเซ็นเซอร์ระบบสแกนลายนิ้วมือรุ่นใหม่ล่าสุด
ด้านล่างจะมีโลโก้ Huawei ให้เห็นเด่นชัดกันอีกด้าน โดย Huawei P9 มาพร้อมเทคโนโลยี Signal+ 2.0 มีเสาอากาศ 3 เสาในเครื่อง การเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi+ 2.0 ใน Huawei P9 จะจัดอันดับและเลือกเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi ที่ดีที่สุดอัตโนมัติ
สำหรับสเปคของ Huawei P9 นั้นตัวเครื่องใช้ประมวลผล HUAWEI Kirin 955 (64-bit), Octa-core (4 x 2.5 GHz A72+ 4 x 1.8 GHz A53) แบบ dual-core ISP ที่ทำงานร่วมอย่างรวดเร็วในการประมวลผล การจัดการปรับสีและสิ่งรบกวน
แรม 3GB หน่วยความจำภายใน 32GB ระบบปฎิบัติการ Android 6.0 ครอบด้วย EMUI 4.1 เวอร์ชั่นล่าสุด แบตเตอรี่ 3000mAh เสียดายที่ Huawei P9 ไม่รองรับ NFC
ที่นี้มาดูกันว่าใช้งานกล้องของ Huawei P9 กันบ้าง โดยเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ามาพร้อมนวัตกรรมกล้องเลนส์คู่จาก Leica สามารถเก็บรายละเอียดของแสงสี การไล่สีของสีดำและสีขาวตามอารมณ์ภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของ Leica
โดยเซ็นเซอร์ RGB ใช้เก็บทุกรายละเอียดส่วนที่เป็นสีสัน และเซ็นเซอร์ Monochrome จะช่วยเก็บรายละเอียดต่างๆของภาพ แล้วมาทำการประมวลผลร่วมกันทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีรายละเอียดครบถ้วน แถมยังถ่ายภาพที่แสงน้อยได้ด้วยจุดรับภาพขนาด 1.25 ไมโครเมตร ในกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้ง 2 ตัวโดย Leica ได้ร่วมออกแบบและควบคุมมาตรฐานคุณภาพใน Huawei P9 ด้วย
นอกจากนี้ยังมีโหลดถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่ใช้งานได้แสนง่ายดายพร้อมฟังชันที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เช่นโหมดการถ่ายภาพกลางคืน, โหมดการถ่ายภาพชัดลึก-ชัดตื้น, โหมด Monochrome (ภาพขาวดำ) ที่หลายคนชื่นชอบ และโหมดการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ (แนะนำให้พกขาตั้งกล้องไปด้วย)
และที่จะถูกใจเหล่าช่างภาพทั้งหลายเป็นพิเศษคือ Hauwei P9 สามารถถ่ายไฟล์ RAW ผ่านโหมดถ่ายภาพมืออาชีพ สามารถนำไปปรับแก้ไขภาพโดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพถ่ายนั่นเอง แถมลูกเล่นเสียงชัตเตอร์ของ Huawei P9 ยังเป็นเสียงเดียวกับกล้อง Leica อีกด้วย เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนเป็นพิเศษ และเป็นแฟนๆ Leica อยู่แล้ว Hauwei P9 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากในเวลานี้ แถมยังมีรุ่นจอใหญ่ขึ้นอย่าง Hauwei P9 Plus มาให้เลือกอีกด้วย สำหรับราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท ถ้าจับคู่กับแพคเกจดีๆของค่ายมือถือจะลดราคาลงไปอีกเหลือเพียง 11,900 บาทเท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Huawei P9 ที่ได้ปรับแต่งใดๆเพียงแค่ย่อขนาดลงเท่านั้น

บทความโดย – www.flashfly.net
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ – http://consumer.huawei.com/minisite/th/p9-th/index.html
