Thursday, May 29, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

รีวิว iPad Air รุ่นที่ 4 ดีไซน์ใหม่หมดใช้ชิป A14 จอ 10.9 นิ้ว ปลดล็อคด้วย Touch ID ด้านข้าง พร้อมพอร์ต USB-C มีให้เลือก 5 สีเริ่มต้นที่ 19,900 บาท

Jackrich T. by Jackrich T.
December 31, 2020
in Feature, iPhone, NEWS, Recommended, Review & Preview
2k
SHARES
54.2k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Apple พร้อมวางจำหน่าย iPad Air รุ่นที่ 4 อย่างทางการในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา และทีมงาน @flashfly ก็พร้อมรีวิวแล้วเช่นกัน หลังจากเคยนำเสนอแกะกล่องพรีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้ โดย iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุด มีความน่าสนใจหลายอย่างตั้งแต่ประสิทธิภาพภายใน จนถึงดีไซน์ภายนอก

สเปก iPad Air รุ่นที่ 4 

  • จอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว
  • ชิปประมวลผล A14 Bionic
  • ความจุ 64GB และ 256GB
  • กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล
  • ลำโพงสเตอริโอ และ ไมโครโฟนคู่
  • การเชื่อมต่อ Wi‑Fi 6 (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, USB Type-C
  • เฉพาะรุ่น Wi‑Fi + Cellular รองรับ 4G LTE ระดับ Gigabit และมี GPS/GNSS ในตัว
  • Touch ID หรือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ 
  • แบตเตอรี่ Lithium‑Polymer 28.6 Wh
  • ดูวิดีโอออนไลน์ได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง ผ่าน Wi‑Fi
  • ขนาดบอดี้ 247.6 x 178.5 x 6.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 458 กรัม (หรือ 460 กรัม สำหรับรุ่น Wi‑Fi + Cellular)
  • มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สีโรสโกลด์ ,สีเขียว และ สีสกายบลู

ดีไซน์ใหม่หมด

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน iPad Air 4 ถือว่ามีการปรับปรุงด้านดีไซน์แบบยกเครื่องใหม่หมด โดยโครงสร้างหลักเป็นวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ขอบด้านข้างแบนราบและบางเฉียบ 6.1 มิลลิเมตร งานประกอบสวยงามประณีตตามแบบฉบับของ Apple และผลิตออกมาให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สีโรสโกลด์ ,สีเขียว และ สีสกายบลู

ด้านหน้าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน ด้วยจอแสดงผล Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนที่มีขนาด 10.5 นิ้ว พื้นที่ขอบจอด้านบนกับด้านล่างก็บางลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะส่วนล่างไม่มีปุ่มโฮมอีกต่อไปแล้ว

กล้อง FaceTime HD เหนือหน้าจอ มีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ยังไม่ได้รับระบบกล้อง TrueDepth แบบที่พบใน iPad Pro จึงไม่รองรับ Face ID  

ด้านหลังราบเรียบแต่ก็มองเห็นได้ถึงความพรีเมียม โดดเด่นที่โลโก้ Apple ตรงกลางหลัง มุมบนซ้ายมือมีกล้องตัวหลัก ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟน 

ใต้ชื่อ iPad ที่เป็นวงกลม 3 จุด เป็นตำแหน่งของ Smart Connector สำหรับเชื่อมต่อกับ Magic Keyboard แบบ iPad Pro รวมถึง Smart Keyboard Folio

ขอบด้านข้างที่เคยโค้งมนก็ถูกทำให้แบนราบสไตล์เดียวกับ iPad Pro โดยมีความบางเพียง 6.1 มิลลิเมตร มาพร้อมปุ่มปรับระดับเสียง

ตรงกลางเป็นช่องต่อแบบแม่เหล็ก สำหรับแนบติดกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และถ้าเป็นเวอร์ชั่น Wi‑Fi + Cellular จะพบถาดใส่ซิมการ์ดอยู่ที่ส่วนล่าง รองรับขนาด Nano-SIM

ด้านล่างมีตะแกรงลำโพงคู่ ตรงกลางเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C จากรุ่นก่อนที่ใช้พอร์ต Lightning

ด้านบนจะพบกับตะแกรงลำโพงคู่เช่นกัน แต่ที่จริงแล้ว iPad Air 4 มีลำโพง 2 ตัว ไม้ได้มี 4 ตัวเหมือน iPad Pro 

ด้านบนยังติดตั้งไมโครโฟนมาให้อีกตัว และตรงมุมเป็นปุ่มเพาเวอร์ที่มีความพิเศษ เพราะเป็นครั้งแรกที่ Apple รวม Touch ID ไว้กับปุ่มเพาเวอร์ แทนปุ่มโฮมจากรุ่นก่อน

โดยใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่มีขนาดเล็ก พร้อม Secure Enclave ที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

จอภาพ Liquid Retina สวยงามคมชัด

iPad Air รุ่นที่ 4 ได้รับจอแสดงผล Liquid Retina พร้อมเทคโนโลยี iPS ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล ขนาด 10.9 นิ้ว ความหนาแน่น 264 พิกเซลต่อนิ้ว ความสว่าง 500 นิต รองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 การแสดงผลแบบ True Tone  ได้รับการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ

จอแสดงผลของ iPad Air รุ่นใหม่ ยังรองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 แตกต่างจากรุ่นก่อนที่รองรับ Apple Pencil รุ่นแรก และมีช่องต่อแบบแม่เหล็กสำหรับแนบติดกับ Apple Pencil ที่ด้านข้าง เหมือนกับ iPad Pro

ชิปประมวลผลที่ทรงพลัง A14 Bionic

iPad Air รุ่นที่ 4 มาพร้อมชิปประมวลผล A14 Bionic ซึ่งใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร อัดแน่นไปด้วยจำนวนทรานซิสเตอร์มากถึง 1.18 หมื่นล้านตัว ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในทุกด้าน รวมถึงประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย

ชิปประมวลผล A14 Bionic ประกอบด้วยซีพียูแบบ 6‑core จาก 4 คอร์ประสิทธิภาพสูงรองรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน กับอีก 2 คอร์ประสิทธิภาพสูง สำหรับการประมวลผลอย่างหนัก ส่งผลให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น 40% และยังมาพร้อมจีพียูแบบ 4‑core ให้คุณภาพกราฟิกเร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิป A12 Bionic 

ชิปประมวลผล A14 Bionic ยังมาพร้อม Neural Engine แบบ 16‑core สามารถประมวลผลกระบวนการต่างๆ ได้ถึง 11 ล้านล้านรายการต่อวินาที ช่วยให้ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของระบบเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลด้านการเรียนรู้ของระบบถึง 10 เท่า

กล้องหลังระดับ Pro

iPad Air รุ่นที่ 4 ได้รับการปรับปรุงกล้องหลังจากรุ่นก่อน โดยใช้กล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.8 แบบเดียวกับ iPad Pro เพียงแต่ไม่มีกล้อง Ultra-wide กับ LiDAR Scanner ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อการถ่ายภาพมากนัก

กล้องหลักของ iPad Air 4 ได้รับคุณสมบัติแบบเดียวกับ iPad Pro ทั้งโหมดถ่ายภาพ Panorama สูงสุด 63 ล้านพิกเซล, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง, Smart HDR, Live Photos พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว 

สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที, ถ่ายภาพนิ่ง 8 ล้านพิกเซล ในระหว่างบันทึกวิดีโอระดับ 4K รองรับโหมด Slow Motion ความละเอียด 1080p สูงสุด 240 เฟรมต่อวินาที และโหมด Time-lapse พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว

กล้องหน้า FaceTime HD

กล้องหน้าของ iPad Air 4 ยังคงใช้ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล เท่าเดิม แต่ได้รับการปรับปรุงให้มีความคมชัดมากขึ้น พร้อมรองรับฟีเจอร์ Smart HDR, Live Photos ด้วยขอบเขตสีกว้าง และสามารถถ่ายวิดีโอในระดับ 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ขณะที่รุ่นก่อนจำกัดที่ 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ กล้องหน้าของ iPad Air 4 ยังสนับสนุน FaceTime การโทรแบบวิดีโอ สามารถเห็นใบหน้าชัดขึ้นเมื่อโทรคุยในที่แสงน้อย

ระบบเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 6 และพอร์ต USB-C

iPad Air รุ่นที่ 4 สนับสนุนการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุด 802.11a/b/g/n/ ac/ax ด้วยความเร็วสูงสุด 1.2Gbps (รุ่นก่อนรองรับ Wi-Fi 5 ความเร็วสูงสุด 866Mbps) และรองรับ 2 ย่านความถี่พร้อมกัน สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Wi-Fi ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน จึงสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตท่องเว็บไซต์ พร้อมเชื่อมต่อกับ Apple TV ในเวลาเดียวกัน

สำหรับ iPad Air 4 รุ่น Wi‑Fi + Cellular รองรับ LTE ระดับ Gigabit สามารถใช้งานได้ทั่วโลกสูงสุด 30 ย่านความถี่ และให้ความเร็วในการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 60% โดยสามารถใช้ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM หรือจะใช้ eSIM ผู้ให้บริการเครือข่ายฯ รายใหญ่ในประเทศไทยก็มีให้บริการเช่นกัน

iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุดยังเปลี่ยนมาใช้ช่องต่อ USB-C แทนที่ Lightning แบบ iPad Pro ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้เร็วขึ้น 10 เท่า ด้วยความเร็ว 5Gbps และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ๋ต่อพ่วงหรืออุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กล้องดิจิตอล จอมอนิเตอร์ หรือ ตัวจัดเก็บข้อมูลภายนอก

iPadOS 14

iPad Air รุ่นที่ 4 เปิดตัวในช่วงที่ Apple ปล่อยระบบปฏิบัติการ iPadOS 14 ออกมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัพเดทพอดี โดยมีพื้นฐานแบบเดียวกับ iOS 14 แต่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้ใช้งานบนอุปกรณ์จอสัมผัสขนาดใหญ่โดยเฉพาะ และถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ Apple Pencil อย่างมีประสิทธิภาพ

iPadOS 14 ช่วยให้ iPad Air 4 รู้จักรูปทรงต่างๆ ผู้ใช้งานจึงสามารถวาดรูปทรงเรขาคณิตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยที่รูปทรงนั้นจะยึดเข้ากับตำแหน่งที่ต้องการพอดีเมื่อผู้ใช้เพิ่มแผนภาพและภาพประกอบลงในโน้ต และตัวตรวจหาข้อมูลจะทำงานร่วมกับข้อความที่เขียนด้วยลายมือได้อย่างราบรื่น จึงรู้ว่าข้อความใดคือหมายเลขโทรศัพท์ วันที่ ที่อยู่ และลิงก์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น การแตะหมายเลขโทรศัพท์ที่เขียนด้วยลายมือเพื่อโทรออก 

ฟีเจอร์ Scribble หรือเขียนด้วยนิ้ว ช่วยให้ผู้ใช้งาน Apple Pencil สามารถเขียนด้วยลายมือลงในช่องข้อความใดๆ ก็ตามได้โดยตรง ช่วยให้การทำสิ่งต่างๆ อย่างการตอบกลับ iMessage หรือการค้นหาใน Safari เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ฟีเจอร์เขียนด้วยนิ้ว ใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแปลงลายมือเป็นข้อความในรูปแบบตัวพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์ ข้อความที่ผู้ใช้งานเขียนจึงปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

ฟีเจอร์ Smart Selection ใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแยกแยะระหว่างลายมือและรูปวาด จึงสามารถเลือก ตัด และวางข้อความที่เขียนด้วยลายมือลงในเอกสารอีกฉบับในรูปแบบของตัวพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย 

iPadOS 14 ได้รับการออกแบบใหม่หมดสำหรับสาย FaceTime หรือโทรศัพท์ที่ได้รับ, การโต้ตอบกับ Siri และ การค้นหา ช่วยให้การแจ้งเตือนหรือใช้งานฟีเจอร์เหล่านั้น ไม่รบกวนฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานอยู่ก่อนแล้ว

การค้นหาแบบโดยรวมจะค้นหาแทบทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นค้นหาหรือเปิดแอพ ไปจนถึงการดูรายชื่อผู้ติดต่อ ไฟล์ และข้อมูล หรือแม้แต่การหาคำตอบของคำถามทั่วไปเกี่ยวกับผู้คนหรือสถานที่

แถบด้านข้างใหม่สำหรับหลายแอพ เช่น แอพรูปภาพและแอพไฟล์ และแถบเครื่องมือที่ปรับให้เรียบง่ายขึ้นโดยรวมการควบคุมต่างๆ ไว้ในที่เดียว ช่วยให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นกว่าที่เคย

วิดเจ็ตได้รับการออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงาม โดยจะแสดงข้อมูลที่ใช่ในจังหวะที่ต้องการให้ผู้ใช้เหลือบมองได้ง่ายๆ บนหน้าจอโฮม

iPadOS มาพร้อม App Store ที่มีแอพพลิเคชั่นรอให้ดาวน์โหลดมากกว่า 1 ล้านแอพ โดยทีมงานของ Apple จะช่วยคัดเลือกแอพที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน หรือค้นหาด้วยตัวเองตามหมวดหมู่ที่ต้องการ โดยมีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPad ทำงานได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word, Pages, Keynotes และ Adobe Photoshop CC

อุปกรณ์เสริมจัดเต็ม Magic Keyboard และ Apple Pencil 2

iPad Air 4 รองรับ Magic Keyboard เช่นเดียวกับ iPad Pro ขนาด 11 นิ้วซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อยก iPad Air 4 ให้ลอยขึ้นอีกเล็กน้อย ทำให้มองหน้าจอได้ถนัดขึ้น และบานพับยังสามารถปรับมุมได้ 90 – 130 องศา อีกทั้งยังมีช่องต่อ USB-C สำหรับการชาร์จแบบส่งผ่าน อีกทั้งยังช่วยปกป้อง iPad ได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

Magic Keyboard มาพร้อมปุ่มแบบแบ็คไลท์ขนาดมาตรฐานและกลไกแบบกรรไกรที่มีการขยับขึ้นลงของปุ่มที่ระยะ 1 มิลลิเมตร รวมถึงติดตั้ง Trackpad มาให้ในตัว รองรับคำสั่งนิ้ว Multi-Touch และเคอร์เซอร์ใน iPadOS

iPad Air 4 ยังรองรับ Smart Keyboard Folio และ Smart Folio รุ่นใหม่ที่ใช้ปกป้องตัวเครื่อง และใช้เป็นที่ตั้ง หรือวางนอนเพื่อใช้งานพิมพ์บนหน้าจอได้ง่ายๆทันที

iPad Air 4 รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 แบบเดียวกับ iPad Pro ซึ่งออกแบบมาให้ยึดติดของด้านข้าง iPad ด้วยแม่เหล็ก และเมื่อยึดติดกันแล้วจะเป็นการจับคู่โดยอัตโนมัติ รวมถึงชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ Apple Pencil ในแบบไร้สาย

Apple Pencil รุ่นที่ 2 ถูกออกแบบมาให้มีขนาด น้ำหนัก เหมือนกับดินสอจริง มีความไวต่อแรงกดและการเอียง จึงรองรับการวาดแบบแรเงา ลงลายเส้นหนักเบา บางหนา เหมือนใช้ดินสอกับแผ่นกระดาษจริง

ราคา

iPad Air 4 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Space Gray, Silver, Rose Gold, Green, Sky Blue โดยแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น 2 ความจุ และมีราคาแตกต่างกันดังนี้

  • Wi-Fi 64GB ราคา 19,900 บาท
  • Wi-Fi 256GB  ราคา 24,900 บาท
  • Wi-Fi + Cellular 64GB ราคา 24,400 บาท
  • Wi-Fi + Cellular 256GB ราคา 29,400 บาท

ราคาอุปกรณ์เสริม

  • Magic Keyboard ราคา 9,990 บาท 
  • Smart Keyboard Folio ราคา 5,990 บาท
  • Smart Folio ราคา 2,990 บาท
  • Apple Pencil รุ่นที่ 2 ราคา 4,490 บาท

สรุป

iPad Air รุ่นที่ 4 มาพร้อมประสิทธิภาพที่ทรงพลัง รองรับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยยกระดับให้ iPad Air รุ่นใหม่ สามารถทำงานได้แบบคอมพิวเตอร์ แต่คล่องตัวมากกว่าจึงทำงานได้ทุกที่ โดยมีดีไซน์สวยงามพรีเมียมแบบ iPad Pro แต่มีสีสันสดใสกว่า และมีให้เลือกถึง 5 สี นอกจากนี้ ยังตอบสนองการใช้งานด้านความบันเทิงด้วยลำโพงสเตอริโอแบบกว้าง ขยายมิติเสียงให้กว้างขึ้น เมื่อวาง iPad ในแนวนอน ขณะที่แบตเตอรี่ก็ให้อายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง

iPad Air รุ่นใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาอุปกรณ์จอสัมผัสขนาดใหญ่ ที่มีประสิทธิภาพไว้ทำงานบางอย่างนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก โดยที่มีราคาประหยัดกว่า iPad Pro แต่มีประสิทธิภาพกว่า iPad รุ่นที่ 8




Tags: iPad Air 4iPad Air รุ่นที่ 4PreviewReview
ShareTweetShare

Related Posts

รีวิว OPPO Watch X2 สมาร์ตวอตช์ระดับพรีเมียม สร้างสรรค์เพื่อความเป็นเลิศ แรงบันดาลใจแห่งท้องฟ้า
Feature

รีวิว OPPO Watch X2 สมาร์ตวอตช์ระดับพรีเมียม สร้างสรรค์เพื่อความเป็นเลิศ แรงบันดาลใจแห่งท้องฟ้า

May 26, 2025
รีวิว Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 แบตเตอรี่พกพาความจุสูง ชาร์จเร็วสูงสุด 212W พกพาขึ้นเครื่องบินได้
Feature

รีวิว Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 แบตเตอรี่พกพาความจุสูง ชาร์จเร็วสูงสุด 212W พกพาขึ้นเครื่องบินได้

May 20, 2025
รีวิว Sonos Arc Ultra สุดยอดลำโพง Soundbar ระดับพรีเมียม ระบบเสียงรอบทิศทาง 9.1.4 CH รองรับการควบคุมทั้ง iOS และ Andorid
Feature

รีวิว Sonos Arc Ultra สุดยอดลำโพง Soundbar ระดับพรีเมียม ระบบเสียงรอบทิศทาง 9.1.4 CH รองรับการควบคุมทั้ง iOS และ Andorid

May 19, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

HBO เผยโฉมนักแสดงซีรีส์ Harry Potter ที่จะรับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ รอน วีสลีย์

HBO เผยโฉมนักแสดงซีรีส์ Harry Potter ที่จะรับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และ รอน วีสลีย์

May 28, 2025
OPPO Pad SE วางจำหน่ายแล้ววันนี้! สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบพร้อมการใช้งานสุดสมาร์ท ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท!

OPPO Pad SE วางจำหน่ายแล้ววันนี้! สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบพร้อมการใช้งานสุดสมาร์ท ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท!

May 28, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');