Infinix ปลุกตลาดสมาร์ทโฟนให้ร้อนแรงด้วย Infinix HOT 60 Pro+ สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้ง 3D ที่บางที่สุดในโลก โดยมีความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 155 กรัม และยังให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ มีความจุถึง 5160mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ตอบสนองการใช้งานได้อย่างราบรื่นด้วยชิปประมวลผล Helio G200 ของ MediaTek ทำงานบนพื้นฐาน XOS 15.1.1 เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมเครื่องมือ AI เต็มรูปแบบ

สเปก Infinix HOT 60 Pro+

- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 144Hz
- กล้องหลัก 50MP Sony IMX882
- กล้องหน้า 13MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G200
- ความจำ RAM 8GB (LPDDR4X) + ROM 128GB / 256GB (UFS 2.2)
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 8GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- การเชื่อมต่อ 4G, WI-Fi 5, Bluetooth 5.4, NFC, USB Type-C, OTG
- เซ็นเซอร์ G-Sensor, Gyroscope, E-Compass, Ambient Light Sensor, Proximity, Infrared
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- ระบบปฏิบัติการ XOS 15.1.1 (บนพื้นฐาน Android 15)
- ลำโพงคู่สเตอริโอ Sound by JBL
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP64
- แบตเตอรี่ 5160mAh ชาร์จเร็ว 45W
- รองรับ Reverse Charging สูงสุด 10W
- ขนาดตัวเครื่อง 164 x 75.8 x 5.95 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 155 กรัม
- มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ Sleek Black, Titanium Silver, Coral Tides, Misty Violet, Sonic Yellow และ Moco Cyber Green
สมาร์ทโฟนหน้าจอโค้ง 3D บางที่สุดในโลก

จุดเด่นของ Infinix HOT 60 Pro+ คืองานดีไซน์ที่มีความสวยงามพรีเมียม ขอบมุมโค้งมนแบบฉบับสมาร์ทโฟนเรือธง โดยมีความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าเป็น “สมาร์ทโฟนดีไซน์บางที่สุดในโลก ที่ใช้จอแสดงผลแบบขอบโค้ง” อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา 155 กรัม ให้ความรู้สึกดีเวลาจับถือ โดยเฉพาะส่วนขอบที่มีความโค้งมนรับกับฝ่ามือพอดี

ผลิตออกมาให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีดำ Sleek Black, สีส้ม Coral Tides, สีม่วง Misty Violet, สีเหลือง Sonic Yellow, สีเขียว Moco Cyber Green และทีมงาน @flashfly ได้รับสีเงิน Titanium Silver มารีวิว ซึ่งมีลักษณะพื้นผิวด้าน ให้ความรู้สึกเรียบหรู

ด้วยดีไซน์ขอบหน้าจอโค้ง ทำให้ Infinix HOT 60 Pro+ มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.40% ซึ่งหมายถึงมีพื้นที่ขอบหน้าจอที่บางเป็นพิเศษ ให้ประสบการณ์การรับชมแบบไร้กรอบ อีกทั้งยังรองรับการสัมผัสแม้นิ้วมือเปียก และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i

ด้านหลังวางโมดูลกล้อง 3 ตัว ในแนวตั้ง โดยมีกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony IMX882 และที่โมดูลกล้องตัวล่างสุด ยังซ่อนไฟ Halo Light ไว้รอบกรอบ สามารถตั้งค่าให้กะพริบตามสถานการณ์ต่างๆ เช่น เมื่อมีสายเรียกเข้า, ได้รับการแจ้งเตือนจากแอปหรือมีสายที่ไม่ได้รับ, เมื่อพลิกตัวเครื่อง, ระดับแบตเตอรี่ต่ำ เป็นต้น

มุมมองด้านข้าง จะเห็นว่าส่วนขอบหน้าจอกับฝาหลังโค้งลงมาบรรจบกับกรอบตัวเครื่องชั้นกลาง

ปุ่มเพาเวอร์ถูกเน้นด้วยสีเขียว เหนือขึ้นไปเป็นปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านบนมีลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง) ข้างกันติดโลโก้ Sound by JBL และมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง

ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนตัวหลัก และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม Dual Nano-SIM

นอกจากนี้ Infinix HOT 60 Pro+ ยังได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อฝุ่นและน้ำในระดับ IP64 โดยเลขหลักแรกหมายถึง ความสามารถในการป้องกันฝุ่นอย่างเต็มรูปแบบ และเลขหลักที่สอง เป็นมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX4 เพียงพอสำหรับการป้องกันน้ำกระเด็นใส่ รวมถึงละอองฝน
หน้าจอ AMOLED ขอบโค้ง รีเฟรช 144Hz

จอแสดงผลของ Infinix HOT 60 Pro+ ให้ประสบการณ์แบบเดียวกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ด้วยดีไซน์ขอบหน้าจอโค้งมน 3D-Curved ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมเล็กๆ บนหน้าจอ ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล รองรับการสัมผัสแม้นิ้วมือเปียก และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i

Infinix HOT 60 Pro+ มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 1.5K ขนาด 6.78 นิ้ว รองรับขอบเขตสี 100% DCI-P3 ความสว่างทั่วไป 700 นิต ความสว่างสูงสุด 4500 นิต ให้อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 60Hz / 90Hz / 120Hz / 144Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 240Hz แต่มีฟีเจอร์ Instant Touch Sampling Rate ที่สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้สูงถึง 2160Hz ระหว่างเล่นเกม


และยังรองรับโหมด Always-On Display แสดงข้อมูลที่สำคัญอยู่ตลอดเวลา เช่น นาฬิกา การแจ้งเตือน สภาพอากาศ และผ่านการรับรองด้านถนอมดวงตา Low Blue Light ระดับฮาร์ดแวร์จาก SGS

นอกจากดีไซน์หน้าจอแบบไร้กรอบ ที่ให้สีสันสดใส ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหล Infinix HOT 60 Pro+ ยังจัดเต็มด้านเสียงด้วยลำโพงคู่สเตอริโอจาก JBL แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก ให้เสียงดังที่ชัดใสไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือ เล่นเกม
MediaTek Helio G200

Infinix HOT 60 Pro+ ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G200 ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการ 6 นาโนเมตร ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ Octa Core (2x Arm Cortex-A76 ความเร็วสูงสุด 2.2GHz + 6x Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz) พร้อม GPU ของ Arm Mali-G57 MC2 ความเร็วสูงสุด 1.1GHz ทำให้ Infinix HOT 60 Pro+ ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างราบรื่น และยังจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านความจำ Infinix HOT 60 Pro+ ได้รับ RAM 8GB (LPDDR4X) จับคู่กับ ROM ขนาด 256GB (UFS 2.2) และยังมีฟีเจอร์ Extended RAM สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ชั่วคราวได้ 3 ขนาด 3GB / 5GB / 8GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงถึง 16GB ช่วยให้การทำงานแบบ Multitasking ลื่นไหลยิ่งขึ้น
ระบบปฏิบัติการ Infinix XOS 15.1.1 พร้อม AI เต็มรูปแบบ

Infinix HOT 60 Pro+ ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย XOS 15.1.1 เวอร์ชันล่าสุดของ Infinix ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ช่วยให้การตกแต่งภาพเป็นเรื่องง่าย ตัวอย่างเช่น “ตัวลบ AI” สามารถลบบุคคลหรือวัตถุในภาพถ่ายได้เพียงลากนิ้วล้อมรอบ และ AI จะเติมฉากหลังที่หายไปโดยอัตโนมัติ กรณีถ่ายภาพแนบตั้งหรือมุมแคบ แล้วต้องการขยายภาพให้กว้างขึ้น ก็มีเครื่องมือ “ตัวขยายภาพ AI” ที่สามารถเพิ่มพื้นที่ภาพถ่ายให้ใหญ่ขึ้น โดย AI จะเพิ่มรายละเอียดในส่วนที่ขยายออกให้อย่างแนบเนียน
แบตใหญ่ 5160mAh ชาร์จไว 45W

ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่บางเฉียบ 5.95 มิลลิเมตร แต่ Infinix ให้แบตเตอรี่มาไม่น้อย ความจุมากถึง 5160mAh จึงรองรับการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวันได้อย่างไร้กังวล อีกทั้งยังสนับสนุนเทคโนโลยี Reverse Charging สามารถใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นได้สูงสุด 10W ผ่านสาย OTG และยังรองรับการชาร์จไวสูงสุด 45W แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้แล้วในกล่องไม่ต้องหาซื้อแยกต่างหาก

กล้องหลัก 50MP Sony IMX882

Infinix HOT 60 Pro+ ได้รับกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว รูรับแสง F1.79 รองรับโหมดถ่ายภาพ Vlog, AI CAM, Portrait, Super Night, Slow Motion, Time-Lapse, Dual Video, AIGC Portrait, Panorama, Pro, Sky Shop, Documents และโหมด Video รองรับความละเอียดสูงสุด 2K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที หรือ Full HD 1080P ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
สำหรับกล้องหน้าถูกซ่อนไว้ในหลุมบนหน้าจอ มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 ให้มุมมองภาพ 90 องศา สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 2K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที หรือ Full HD 1080P ที่ 60 เฟรมต่อวินาที รวมถึงโหมด Slow Motion ความละเอียด HD 720P ที่ 120 เฟรมต่อวินาที

ตัวอย่างภาพถ่าย
สรุปราคาและการจำหน่าย

Infinix HOT 60 Pro+ ออกมาสานต่อ Infinix HOT 50 Pro+ ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นรอบด้านทั้งดีไซน์ หน้าจอ และ ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะดีไซน์ถูกทำให้บางลงอย่างชัดเจนเพียง 5.95 มิลลิเมตร (รุ่นก่อนบาง 6.8 มิลลิเมตร) จอแสดงผลให้อัตราการรีเฟรชสูงขึ้นจาก 120Hz เป็น 144Hz ด้านประสิทธิภาพก็แรงขึ้นเช่นกัน ด้วยชิปรุ่นใหม่กว่า แบตเตอรี่มีความจุมากกว่า มาพร้อมลำโพงคู่จาก JBL จอภาพคมชัดขนาดใหญ่ ทำให้ Infinix HOT 60 Pro+ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมียม ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างดีทั้งภาพและเสียง

HOT 60 Pro+ ความจุ 256 GB +16GB ราคา 6,499 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ Titanium Silver (เงิน), Sleek Black(ดำ), Misty Violet(ม่วง), Sonic Yellow(เหลือง) และ Coral Tides(ชมพู)






