Friday, December 5, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

รีวิว realme 15 Series 5G ใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อตกับ AI Party Phone แต่งรูปด้วยเสียง AI Edit Genie แบตเตอรี่ 7000mAh บนตัวเครื่องบางเฉียบ

Jackrich T. by Jackrich T.
September 18, 2025
in Feature, NEWS, Recommended, Review & Preview
166
SHARES
23.4k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

realme เปิดตัวสมาร์ตโฟน realme 15 Series 5G อย่างทางการในประเทศไทยมาพร้อมกัน 3 รุ่นได้แก่ realme 15, realme 15 Pro และ realme 15T โดยนำเสนอฟีเจอร์เด่นอย่าง AI Party Mode เติมเต็มไลฟ์สไตล์ทั้งสายถ่ายภาพ สายคอนเทนต์ และ สายปาร์ตี้ตัวจริง พร้อมกล้อง 50 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหลักและกล้องหน้า อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ AI Edit Genie ช่วยให้ผู้ใช้งานแต่งรูปได้อย่างง่ายดายเพียงใช้คำสั่งเสียง และรองรับการใช้งานที่ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ Titan ความจุสูงถึง 7000mAh บนตัวเครื่องที่มีความบางเฉียบ

แกะกล่อง realme 15 Series 5G

realme 15 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น จัดส่งมาในกล่องสีเหลืองตามสไตล์ของ realme หน้ากล่องพิมพ์ตัวเลข 15 ขนาดใหญ่ สำหรับ realme 15 5G โดยมีสัญลักษณ์ 5G กำกับไว้ที่มุมบน ขณะที่หน้ากล่องของ realme 15 Pro 5G จะพิมพ์เลข 15 มีคำว่า Pro อยู่ข้างล่าง และวางสัญลักษณ์ AI ไว้ที่มุมบน บ่งบอกถึงความสามารถด้าน AI ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รุ่นก่อน

หลังกล่อง realme 15 5G ระบุจุดเด่นไว้ 6 รายการ ได้แก่ ใช้ชิป Dimensity 7300+ 5G ของ MediaTek, กล้องเซลฟี่ 50 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh พร้อมชาร์จไว 80W, กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony, จอแสดงผล AMOLED ให้อัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz, ป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP66 + IP68 + IP69

พลิกมาดูหลังกล่องของ realme 15 Pro 5G จะพบจุดเด่นที่สำคัญ 6 รายการ ได้แก่ ชิป Snapdragon 7 Gen 4 5G ของ Qualcomm, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, จอแสดงผล AMOLED ดีไซน์ขอบจอโค้ง 4D Curve+ ให้อัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz, กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony, กล้องเซลฟี่ 50 ล้านพิกเซล และ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh รองรับชาร์จไว 80W

เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา จะพบกับกล่องเอกสารสีเหลืองแบนๆ วางอยู่บนสุด พร้อมสโลแกน Make it real เมื่อแกะซองออกจะพบเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด, คู่มือ, ข้อมูลสำคัญ และ แถมเคสมาให้ด้วย 

ถัดลงมาพบสมาร์ตโฟน realme 15 Series 5G ถูกเก็บไว้ในซองอย่างดี และชั้นล่างสุดของกล่องเป็นช่องเก็บสายชาร์จ USB Type-C และ หัวชาร์จแบตเตอรี่ 80W Power Adapter 

realme 15 Pro 5G

realme 15 Pro 5G ถูกยกระดับการถ่ายภาพขึ้นไปอีกขั้นด้วยกล้อง 50 ล้านพิกเซล ทั้งกล้องหน้า, กล้องหลัก และ กล้อง Ultra Wide สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะทั้ง AI Party Mode, AI Edit Genie, AI Multi-Tasker ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 5G พร้อมระบบระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่ และแบตเตอรี่ความจุสูง 7000mAh ชาร์จครั้งเดียวใช้งานได้นานข้ามวัน

สเปก realme 15 Pro 5G

  • จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.8 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 144Hz
  • กล้องหลัก 50MP Sony IMX896 + OIS
  • กล้องหน้า 50MP Selfie Camera
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 7 Gen 4 5G
  • ความจำ RAM 12GB (LPDDR4X) + ROM 256GB (UFS 3.1)
  • ขยายความจำ RAM ได้อีก 14GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion 
  • การเชื่อมต่อ 5G, Dual Nano SIM, WI-Fi 6, Bluetooth 5.4, USB-C
  •  สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Optical Fingerprint Sensor)
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, E-compass, Gyroscope, Ambient light sensor, Color temperature sensor, Infrared remote control
  • ระบุตำแหน่ง GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 (บนพื้นฐาน Android 15)
  • มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP69
  • แบตเตอรี่ 7000mAh 
  • ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge
  • มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Flowing Silver และ Velvet Green 
  • น้ำหนัก 187 กรัม  

ดีไซน์จากแฟชันชั้นสูงของโอตกูตูร์

โอตกูตูร์ (Haute Couture) ถือเป็นที่สุดของแฟชันจากกรุงปารีส บ่งบอกถึงผลงานการตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูง ที่ต้องผ่านทุกขั้นตอนด้วยมือทั้งหมด เสื้อผ้าจะถูกดีไซน์มาเฉพาะบุคคล โดยไซเนอร์ระดับแถวหน้าวงการแฟชันของฝรั่งเศส และผ่านฝีมือช่างตัดเย็บที่มากประสบการณ์ มีเพียง 16 แบรนด์เท่านั้น ที่ได้รับการรับรองให้สามารถนำเสนอคอลเลคชันโอตกูตูร์ได้ เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะได้สัมผัสกับเสื้อผ้าของโอตกูตูร์ แต่ realme ได้นำแฟชันโอตกูตูร์มาให้ทุกคนได้สัมผัสแล้ว

ดีไซน์ฝาหลังของ realme 15 Pro 5G จึงเป็นการผสานเทคโนโลยีเข้ากับแฟชันชั้นสูงของฝรั่งเศส เปรียบเสมือนนำตัวอย่างผ้าโอตกูตูร์มาอยู่บนฝาหลัง โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Flowing Silver และ Velvet Green ซึ่งทีมงาน @flashfly ได้รับสี Velvet Green มารีวิว เป็นโทนสีเขียวเข้ม

ดีไซน์กล้องหลังของ realme 15 Series 5G ดูคล้ายกันมาก แต่กล้อง Ultra Wide ของ realme 15 Pro 5G มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เท่ากับกล้องตัวหลัก และมาพร้อมไฟ Pulse Light แบบเดียวกับที่พบในรุ่นก่อน

ไฟวงแหวน Pulse Light ที่ล้อมรอบกล้อง Ultra Wide ช่วยแจ้งเตือนตามสถานการณ์ต่างๆ เช่น สายเรียกเข้า, แบตเตอรี่ต่ำ, กำลังชาร์จ, เป็นตัวบ่งชี้การนับถอยหลังในแอปกล้อง หรือกะพริบตามจังหวะเพลง โดยสามารถตั้งค่าการกะพริบและปรับสีของแสงไฟได้

ด้านหน้าเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน เนื่องจาก realme 15 Pro 5G ใช้ดีไซน์หน้าจอของโค้ง 4D Curve+ Display และมีขอบจอที่บางเฉียบ โดยเฉพาะขอบจอด้านล่างก็บางเท่ากับด้านอื่นๆ ทำให้จอแสดงผลของ realme 15 Pro 5G มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 94% และยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass จึงทนทานต่อการสึกหรอและรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น

กล้องหน้าของ realme 15 Pro 5G ติดตั้งไว้ที่ขอบจอด้านบน โดยมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล หมายความว่ากล้องทุกตัวของ realme 15 Pro 5G มีความละเอียดเท่ากันหมด และยังซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบออปติคัลไว้ใต้หน้าจอด้วย

กรอบตัวเครื่องด้านข้างของ realme 15 Pro 5G ดูเหมือนจะมีความบางกว่ารุ่นมาตรฐาน เนื่องจากส่วนขอบหน้าจอกับขอบฝาหลังมีความโค้งมนมาบรรจบกับกรอบตัวเครื่อง ขณะที่ขอบด้านข้างของ realme 15 5G มีความเหลี่ยมมากกว่า ด้วยดีไซน์ที่แบนราบ

เนื่องจากมีกรอบที่บางกว่า ทำให้ปุ่มปรับระดับเสียง และ ปุ่มเพาเวอร์ ของ realme 15 Pro 5G บางกว่า realme 15 5G แต่ไม่เป็นปัญหากับการใช้งาน

มุมมองด้านบนมีช่องลำโพง ให้เสียงสเตอริโอ เมื่อขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง และ ไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวน

ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟนตัว และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม Dual Nano SIM (5G + 5G)

นอกจากดีไซน์สวยงามพรีเมียม realme 15 Pro 5G ยังได้รับการออกแบบให้มีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถป้องกันน้ำในระดับ IP66, IP68 และ IP69 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุด ป้องกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ และต้านทานน้ำที่ความลึกสูงสุด 2 เมตร นาน 30 นาที รวมถึงป้องกันน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80 องศาเซลเซียส หมดกังวลจากเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดจากน้ำ ไม่ว่าจะฝนตก น้ำหกใส่ หรือ เผลอทำตกลงไปในสระว่ายน้ำ

กล้องหลัง 50MP Sony IMX896 OIS Camera

realme 15 Pro 5G ชูจุดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัก กล้อง Ultra Wide รวมถึงกล้องเซลฟี่ โดยกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX896 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ระยะโฟกัสเทียบเท่า 24 มม. รูรับแสง f/1.8 และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ส่วนกล้อง Ultra Wide ใช้เซ็นเซอร์ OmniVision OV50D ขนาด 1/2.88 นิ้ว ระยะโฟกัสเทียบเท่า 16 มม. รูรับแสง f/2.0 

  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX896) มีระบบกันสั่น OIS
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ให้มุมมองภาพ 115.6 องศา

กล้องหลังของ realme 15 5G รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, AI Landscape, Video, Photo, Portrait, Pro, Hi-Res, Panorama, Street, Movie, Slow-motion, Time-lapse, Long Exposure, Dual-view Video, Underwater, Text Scanner, Breeno Scan, Starry Mode และ Tilt-shift

โหมด Photo รองรับการซูมที่ระยะ 0.6x, 1x, 2x จนสูงสุด 20x มาพร้อมฟีเจอร์ Light Effect ทำให้ภาพถ่ายในงานปาร์ตี้โดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเอฟเฟกต์ที่มีให้เลือก 2 แบบ Starburst และ Heart 

ถัดลงมาจากไอคอน Light Effect เป็นฟีเจอร์ Soft Light ซึ่งทำงานร่วมกับแฟลช ประกอบด้วยเอฟเฟกต์ Deja vu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy โดย 2 แบบแรกจะเป็นการเปิดไฟแฟลชคู่ที่ด้านหลังสำรับถ่ายตอนกลางคืนอีกด้วย

Filters ในโหมด Photo ได้รับการอัปเกรดให้ถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวได้สวยงามยิ่งขึ้นด้วย Filters ใหม่ๆ เช่น Mountain, Island, City รวมถึง Filters ที่มีอยู่ก่อนแล้วอย่าง Fresh, Emerald, Clear, Tone of Light, Vivid, Radian ส่วนไอคอนรูปใบหน้าเป็นฟีเจอร์ Retouch สำหรับปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น

เมื่อแตะที่ชื่อโหมด Photo จะพบกับฟีเจอร์ Smart Scenes ช่วยปรับค่ากล้องตามฉากที่ต้องการถ่าย ได้แก่ Party, Stage, Silhouette, Firework แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Photo มีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสงในช่วง -2.0 ถึง +2.0 ข้างกันเป็นฟิลเตอร์สี (Vibrant และ Crisp) ตามด้วยโหมดถ่ายภาพ Livephoto ซึ่งรองรับความละเอียด 2K และแชร์ไปยัง IG Story ได้

โหมด Portrait สามารถซูมได้ที่ระยะ 1x, 2x รองรับฟีเจอร์ Soft Light, Filters, Retouch แบบเดียวกับโหมด Photo และสามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ในช่วง F1.4 ถึง F16 ส่วนแถบเครื่องมือด้านบน สามารถปรับความสว่างและอุณหูมิสีโทนอุ่นของไฟแฟลชได้

โหมด AI Landscape พัฒนาขึ้นมาเพื่อยกระดับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ เช่น ภาพอาคารต่างๆ ที่ถ่ายจากมุมสูง ซึ่งปกติจะพบกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สภาพอากาศมืดครึ้ม มีหมอกหนา หรืออยู่ในสภาวะแสงที่ซับซ้อน ต้องถ่ายย้อนแสง เป็นต้น แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เนื่องจากโหมด AI Landscape จะช่วยเพิ่มความคมชัดและความโปร่งใสของภาพถ่าย รวมถึงแก้ไของค์ประกอบโดยรวมของภาพ ทำให้ได้ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบมากที่สุด

โหมด AI Landscape ยังสามารถซูมได้ที่ระยะ 0.6x, 1x, 2x รองรับ Filters แบบเดียวกับโหมด Photo อย่าง Mountain, Island, City และมีฟีเจอร์ Retouch ให้ใช้งานอีกด้วย

โหมด Night สามารถซูมได้ในช่วง 0.6x, 1x, 2x จนสูงสุด 10x มีฟีเจอร์ Soft Light ที่มาพร้อมเอฟเฟกต์ Deja vu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy และ Filters ที่ช่วยทำให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น Gloden, Warm & Cool, Pink & Teal และ Night City  

โหมด Video รองรับการซูมที่ระยะ 1x, 2x จนสูงสุด 10x สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที หรือ Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสง EV แบบโหมด Photo ถัดมาเป็นฟีเจอร์ Ultra Stedy ซึ่งเป็นการเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว และฟีเจอร์ AI Highlight Video (ไอคอน AI) ช่วยจัดการแสงตามสภาวะแสงระหว่างการบันทึกวิดีโอ ไม่ว่าจะมีแสงมากหรือแสงน้อย AI ก็ช่วยปรับแสงให้ออกมาสมบูรณ์แบบโดยอัตโนมัติ

โหมด Underwater สำหรับถ่ายภาพนิ่งหรือบันทึกวิดีโอใต้น้ำ ที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร และอยู่ใต้น้ำได้นานสูงสุด 30 นาที ตามมาตรฐาน IP68 และ IP69 สามารถควบคุมการถ่ายภาพด้วยปุ่มกดด้านข้าง 

กล้องหน้า 50MP Selfie AI Camera

realme 15 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ได้รับกล้อง 50 ล้านพิกเซล ทุกตัว รวมถึงกล้องหน้า โดยใช้เซ็นเซอร์ OmniVision OV50D ขนาด 1/2.88 นิ้ว รูรับแสง f/2.4 ให้มุมมองภาพ 87 องศา และสามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูง 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที เช่นเดียวกับกล้องหลัง

โหมด Photo สามารถปรับระยะการซูมได้ 3 ระยะ 0.8x, 1x และ 2x ขณะที่ฟีเจอร์ Smart Scenes ของกล้องหน้า มีให้เลือกเฉพาะ Party แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสง EV ในช่วง -2.0 ถึง +2.0 ข้างกันเป็นโหมดถ่ายภาพ Livephoto

โหมด Photo ของกล้องหน้ามีฟีเจอร์ Light Effect ให้เลือก 2 แบบ Starburst และ Heart เช่นเดียวกับกล้องหลัง รวมถึงฟีเจอร์ Soft Light ที่ประกอบด้วยเอฟเฟกต์ Deja vu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy 

โหมด Portrait ของกล้องหน้า รองรับการซูมที่ระยะ 0.8x และ 1x  สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ มีฟีเจอร์ Soft light, Filters และ Retouch เหมือนโหมด Photo โดยฟีเจอร์ Retouch สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง 

โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที สามารถปรับระยะการซูมได้ 3 ระยะ 0.8x, 1x และ 2x รองรับฟีเจอร์ Filters และ Retouch รวมถึงปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง ขณะที่แถบเครื่องมือด้านบนมีไอคอนสำหรับปรับค่าชดเชยแสง EV และเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว

ตัวอย่างภาพถ่าย

ชิป Snapdragon 7 Gen 4 5G พร้อมระบบระบายความร้อน AirFlow VC

realme 15 Pro 5G ตอบสนองการใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 7 Gen 4 5G ของ Qualcomm ซึ่งผลิตบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 8-core โดยมีคอร์หลัก ARM Cortex-A720  ทำงานที่ความเร็วสูงสุด 2.8GHz + ARM Cortex-A720 จำนวน 4-core ความเร็วสูงสุด 2.4GHz + ARM Cortex-A520 จำนวน 3-core ความเร็วสูงสุด 1.8GHz ให้ประสิทธิภาพเร็วขึ้น 15% ขณะที่ GPU เร็วขึ้น 45% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน 

เช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน realme 15 Pro 5G ก็มีระบบระบายความร้อน AirFlow VC เช่นเดียวกัน สามารถลดอุณหภูมิของ CPU ได้ถึง 20 องศาเซลเซียส และลดอุณหภูมิระหว่างเล่นเกมได้ 3.2 องศาเซลเซียส เนื่องจากมีขนาดใหญ่ถึง 57% ของอุปกรณ์ ครอบคลุมพื้นที่ 7,000 ตารางมิลลิเมตร 

ด้านความจำ realme 15 Pro 5G มาพร้อม RAM 12GB รองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 14GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 26GB จึงตอบสนองการทำงานหลายแอปอย่างพร้อมกัน (Multitasking) ได้อย่างราบรื่น โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 256GB 

จากการทดสอบประสิทธิภาพพบว่า realme 15 Pro 5G สามารถทำคะแนนจากแอปพลิเคชัน AnTuTu ทะลุ 1 ล้านคะแนน โดยจำแนกเป็นคะแนนด้าน CPU ทำได้ 313,837 คะแนน, GPU ทำได้ 327,488 คะแนน, Memory ทำได้ 222,227 คะแนน และด้าน User Experience ทำได้ 230,770 คะแนน

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge

realme 15 Pro 5G ได้รับแบตเตอรี่ Titam ขนาดใหญ่ 7000mAh โดยยังคงรักษาขนาดตัวเครื่องให้มีความบางเป็นพิเศษ และมีน้ำหนักเบาเพียง 187 กรัม ช่วยให้พกพาได้อย่างสะดวก และถือจับได้เป็นเวลานาน 

ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้ realme 15 Pro 5G สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60FPS ได้นานต่อเนื่อง 4.46 ชั่วโมง หรือ ดูวิดีโอ YouTube ได้นานสูงสุด 22 ชั่วโมง หรือ ฟังเพลงบน Spotify ได้นานถึง 113 ชั่วโมง 

realme 15 Pro 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ชาร์จจาก 0 ถึง 50% ในเวลาเพียง 25 นาที หรือ ชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 61 นาที และถ้าหากใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็เพียงพอสำหรับเล่นเกมนาน 1.15 ชั่วโมง หรือ  ดูวิดีโอ YouTube ได้นานสูงสุด 3.3 ชั่วโมง แถมสายชาร์จ และหัวชาร์จ 80W Power Adapter มาให้แล้ว

หน้าจอขอบโค้ง 4D Curve+ Display ความสว่างสูงสุด 6500 นิต

จอแสดงผลของ realme 15 Pro 5G มีความพรีเมียมกว่ารุ่นมาตรฐาน ด้วยดีไซน์ขอบจอโค้ง 4D Curve+ Display โดยมีพื้นที่ขอบจอด้านข้างบางเฉียบ 1.48 มิลลิเมตร ขอบมุมโค้ง 44.8 องศาทั้งซ้ายขวา ขอบจอล่างบาง 1.72 มิลลิเมตร ขอบจอบนบางเพียง 1.64 มิลลิเมตร ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 94%

realme 15 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ที่มีความลึกสี 1.07 พันล้านสี (1.07 พันล้านสี) ความละเอียด 1280 x 2800 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 19.8:9 ความหนาแน่นของพิกเซล 453 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1 ความสว่างสูงสุดถึง 6500 นิต สนับสนุนขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 100% และถนอมดวงตาด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูง 4608Hz

จอแสดงผลของ realme 15 Pro 5G ยังรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 144Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 240Hz มีฟีเจอร์ Instant Touch Sampling Rate ที่สามารถตอบสนองต่อการสัมผัสได้สูงถึง 2500Hz ระหว่างเล่นเกม และยังได้รับลำโพงคู่สเตอริโอเช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน ทำให้การเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง สมบูรณ์แบบมากขึ้น

realme 15 5G

realme 15 5G ชูจุดเด่นที่กล้องเซลฟี่ 50 ล้านพิกเซล ความละเอียดเท่ากับกล้องตัวหลัก สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมด้วยโหมด AI Party สำหรับถ่ายภาพพอร์ตเทรตในที่มืดให้ออกมาสว่างคมชัด เพิ่มความโดดเด่นในงานปาร์ตี้ ปรับแต่งแก้ไขภาพถ่ายก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยคำสั่งเสียงจาก AI Edit Genie โดยใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7300+ 5G ที่มีประสิทธิภาพสูง ทำงานร่วมกับระบบระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่ มี AI Multi-Tasker ช่วยให้เรียกใช้แอปโปรดได้เร็วขึ้น และให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานด้วยความจุสูงถึง 7000mAh

สเปก realme 15 5G

  • จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 144Hz
  • กล้องหลัก 50MP Sony IMX882 + OIS 
  • กล้องหน้า 50MP Selfie Camera
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ, ไมโครโฟนคู่ตัดเสียงรบกวน
  • ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7300+ 5G
  • ความจำ RAM 12GB (LPDDR4X) + ROM 256GB (UFS 3.1)
  • ขยายความจำ RAM ได้อีก 14GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion 
  • การเชื่อมต่อ 5G, WI-Fi 6, Bluetooth 5.4, USB-C
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, E-compass, Gyroscope, Ambient light sensor, Color temperature sensor, Infrared 
  • ระบุตำแหน่ง GPS, Glonass, Beidou, Galileo, QZSS
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 (บนพื้นฐาน Android 15)
  • มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP69
  • แบตเตอรี่ 7000mAh
  • ชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge 
  • ขนาดตัวเครื่อง 162.27 x 76.16 x 7.66 มิลลิเมตร  
  • น้ำหนัก 185 กรัม 
  • มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Suit Titanium และ Silk Pink

ดีไซน์พรีเมียม กันน้ำ IP69

นอกเหนือจากสีสันที่ต่างออกไป ดีไซน์โดยรวมของ realme 15 5G ได้รับการถ่ายทอดความเป็นแฟชันชั้นสูงโอตกูตูร์ เช่นเดียวกับรุ่น Pro องค์ประกอบต่างๆ ก็ดูคล้ายกัน โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Suit Titanium และ Silk Pink ซึ่งทีมงาน @flashfly ได้รับสีชมพู Silk Pink มารีวิว เป็นเฉดสีที่สดใส จำลองมาจากความพริ้วไหวของผ้าไหมสีชมพู

ด้านหลังของ realme 15 5G ติดตั้งกล้องหลังไว้บนกรอบสี่เหลี่ยม ภายในประกอบด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล และ กล้อง Ultra Wide ถูกล้อมรอบด้วยไฟแจ้งเตือน Pulse Light เช่นเดียวกับรุ่น Pro เหนือขึ้นไปพบแฟลช LED และใต้ Pulse Light เป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิสี 

ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว และมีกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซลที่ขอบด้านบนตัวเครื่อง

ส่วนขอบด้านข้างมีดีไซน์เรียบแบน บางเพียง 7.66 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับขนาดแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 7000mAh

ปุ่มปรับระดับเสียง ติดตั้งอยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์

ด้านบนมีช่องลำโพง ให้เสียงสเตอริโอ เมื่อขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง และ ไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวน

ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟนตัว และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม Dual Nano SIM (5G + 5G)

นอกจากนี้ realme 15 5G ยังสามารถอยู่รอดในน้ำที่ความลึกสูงสุด 2 เมตร นาน 30 นาที รวมถึงป้องกันน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80 องศาเซลเซียส และป้องกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย หมดกังวลเรื่องน้ำ ไม่ว่าถูกสาด ฝนตก หรือ เผลอทำหล่นลงในสระ แต่ต้องไม่เกินที่มาตรฐานกำหนด

กล้องหลัง 50MP Sony IMX882 AI Camera

ด้านการถ่ายภาพ realme 15 5G มีจุดเด่นที่กล้องตัวหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว ระยะโฟกัสเทียบเท่า 26 มม. รูรับแสง f/1.8 และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) เหมาะสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตและวิวทิวทัศน์ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืน ช่วยเพิ่มความคมชัด ความสว่าง และให้สีสันที่แม่นยำเป็นธรรมชาติ วางคู่กับกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัสเทียบเท่า 16 มม. รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองภาพ 112 องศา

  • กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX882) มีระบบกันสั่น OIS
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ให้มุมมองภาพ 112 องศา

โหมดถ่ายภาพต่างๆ ของ realme 15 5G แทบไม่มีความแตกต่างไปจาก realme 15 Pro 5G แต่สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ขณะที่รุ่น Pro รองรับ 60 เฟรมต่อวินาที

กล้องหน้า 50MP Selfie AI Camera

realme 15 5G ได้รับกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ OmniVision OV50D ขนาด 1/2.88 นิ้ว รูรับแสง f/2.4 ให้มุมมองภาพ 87 องศา สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูง 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที โดยใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization)

ตัวอย่างภาพถ่าย

ชิป 5G สำหรับเล่นเกม

realme 15 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7300+ 5G ที่ผลิตขึ้นบนเทคโนโยี 4 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 8-core ที่มี Arm Cortex-A78 จำนวน 4-core ทำงานที่ความเร็วสูงสุดถึง 2.5GHz พร้อม Arm Cortex-A55 จำนวน 4-core และ GPU – Mali-G615 ทำงานที่ความเร็วสูงสุด 1.047GHz

ด้านความจำ realme 15 5G มาพร้อม RAM 12GB จับคู่กับ ROM 256GB รองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 14GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 26GB ช่วยให้การใช้งานแบบ Multitasking ลื่นไหล และสลับการใช้งานระหว่างแอปได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากชิปประมวลผล realme 15 5G ยังมีระบบระบายความร้อน AirFlow VC (Vapor Chamber) ขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 7,000 ตารางมิลลิเมตร หรือ คิดเป็น 57% ของอุปกรณ์ สามารถลดอุณหภูมิของ CPU ได้ถึง 20 องศาเซลเซียส และลดอุณหภูมิระหว่างเล่นเกมได้ 3.2 องศาเซลเซียส

ชิป Dimensity 7300+ 5G ของ MediaTek ถูกสร้างมาสำหรับเกมมิ่งสมาร์ตโฟน รองรับการเล่นเกมด้วยอัตราเฟรมสูงสุด 120 เฟรมต่อวินาที สามารถทำคะแนนจากแอปพลิเคชันวัดประสิทธิภาพ AnTuTu ได้ประมาณ 740,000 คะแนน โดยจำแนกเป็นคะแนนด้าน CPU ทำได้ 217,718 คะแนน, GPU ทำได้ 150,842 คะแนน, Memory ทำได้ 188,163 คะแนน และด้าน User Experience ทำได้ 183,840 คะแนน

แบตเตอรี่ 7000mAh บนดีไซน์ที่บางที่สุด

ขอบตัวเครื่อง realme 15 5G มีความบางเพียง 7.66 มิลลิเมตร แต่มีความจุแบตเตอรี่มากถึง 7000mAh ทำให้เป็นสมาร์ตโฟนที่บางที่สุดในเซ็กเมนต์ ที่มีความจุแบตเตอรี่ 7000mAh โดยใช้แบตเตอรี่กราไฟต์ที่มีความหนาของพลังงานแน่นสูงที่สุดในอุตสาหกรรม 813 Wh/L (เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน) ทำให้มีความจุเพิ่มขึ้น แต่ตัวเครื่องยังคงบางเฉียบ

ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ทำให้ realme 15 5G สามารถเล่นเกมได้นานต่อเนื่อง 9.8 ชั่วโมง (ทดสอบจากเกม Mobile Legends: Bang Bang) หรือ ดูวิดีโอ YouTube ได้นานสูงสุด 22.4 ชั่วโมง หรือ ฟังเพลงบน Spotify ได้นานถึง 83.1 ชั่วโมง 

realme 15 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ชาร์จจาก 0 ถึง 50% ในเวลาเพียง 25 นาที หรือ ชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 61 นาที และถ้าหากใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ก็เพียงพอสำหรับเล่นเกมนาน 1.4 ชั่วโมง หรือ  ดูวิดีโอ YouTube ได้นานสูงสุด 3.3 ชั่วโมง โดยแถมสายชาร์จ และหัวชาร์จ 80W Power Adapter มาให้แล้วในกล่อง ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก

จอแสดงผล AMOLED อัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz

realme 15 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความลึกสี 10-bit (1.07 พันล้านสี) ความละเอียด 1080 x 2392 พิกเซล ขนาด 6.77 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 144Hz ความสว่างสูงสุด 4500 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1 สนับสนุนขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 100% และถนอมดวงตาด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูง 3840Hz ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานนานต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีลำโพงคู่สเตอริโอ ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ทั้งภาพและเสียง ถูกใจสายปาร์ตี้ 

AI Party Mode

ครั้งแรกในอุตสาหกรรมกับฟีเจอร์ “AI Party Mode” เปิดตัวครั้งแรกกับ AI Party Mode ฟีเจอร์ที่พัฒนาเพื่อคนรักการถ่ายภาพในงานสังสรรค์และกิจกรรมในที่แสงน้อย ตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการแชร์โมเมนต์ลงโซเชียลสามารถถ่ายภาพบุคคลได้อย่างชัดเจนและสดใสในสภาพแสงน้อย จับภาพอารมณ์ที่รวดเร็วได้ในทันที และเพิ่มบรรยากาศด้วยลายน้ำที่สร้างสรรค์ ด้วยการใช้ AI HyperRAW อัลกอริทึมช่วยให้ภาพบุคคลดูสมจริงด้วยโทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติ รายละเอียดที่ชัดเจนในแสงสลัว และเงาสามมิติเป็นธรรมชาติ

อัลกอริธึม AI ฟื้นฟูโทนสีผิวให้ดูเป็นธรรมชาติและนุ่มนวล ลดรอยหมองคล้ำและซีด เพื่อผิวที่สมดุล และอัลกอริทึมการถ่ายภาพทิวทัศน์กลางคืนที่คมชัดเป็นพิเศษช่วยให้เห็นรายละเอียดใบหน้าและเสื้อผ้าได้ชัดเจนแม้ในแสงสลัว เพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษ เช่น Starburst Effect (รัศมีแฉกรูปดาว) และ Heart Effect (รัศมีรูปหัวใจ) เติมสีสันสุดว้าวให้กับทุกภาพถ่าย

Party Time ลายน้ำใหม่ สำหรับสายปาร์ตี้ เพิ่มกรอบรูปภาพให้กับภาพถ่ายในงานสังสรรค์ได้ 3 แบบ แต่ละแบบสามารถปรับแต่งกรอบได้หลากหลาย ทั้งรูปภาพ ข้อความ สีพื้นหลังพิ่มบรรยากาศเฉลิมฉลอง พร้อมแชร์ลงโซเชียลทันที

AI Edit Genie 

realme นำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการตกแต่งแก้ไขภาพถ่ายมาแล้วหลายรุ่น แต่สำหรับ realme 15 Series 5G ถูกยกระดับให้ล้ำหน้าไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ AI Edit Genie ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตกแต่งแก้ไขภาพถ่ายได้ง่ายๆ เพียงแค่พูดบอกกับ AI เท่านั้น

ผู้ใช้ realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G สามารถออกคำสั่งเสียงเป็นภาษาไทย เพื่อให้ AI Edit Genie ช่วยปรับแต่งภาพถ่ายได้มากกว่า 20 คำสั่ง เช่น “ปรับผิวให้เรียบเนียน”, “ลบคนอื่นที่โผล่มาในรูป” หรือ “ใส่ฟิลเตอร์สไตล์ภาพยนตร์” นอกจากภาษาไทย ยังรองรับภาษาอื่นๆ อีกกว่า 20 ภาษา

นอกจากนี้ realme 15 Series 5G ยังมีเครื่องมือ AI มากมาย ที่ช่วยให้การตกแต่งแก้ไขภาพถ่ายเป็นเรื่องง่าย เช่น… 

  • AI Glare Removal สามารถลบแสงสะท้อนในภาพถ่ายได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ช่วยทำลายข้อจำกัดทางกายภาพของเลนส์และแหล่งกำเนิดแสง
  • AI Eraser ตัวช่วยในการลบบุคคลหรือวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่ายอย่างแม่นยำ
  • AI Motion Deblur ช่วยปรับปรุงภาพถ่ายที่มีความเบลอให้คมชัดขึ้น เช่น ภาพถ่ายคนกำลังวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน 
  • AI Reflection Remover สามารถลบแสงสะท้อนในกระจกได้

realme UI6 + NEXT AI

realme 15 Series 5G ทำงานบนบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย realme UI 6.0 ซึ่งมาพร้อมไอคอนดีไซน์ใหม่ วอลเปเปอร์ชุดใหม่ที่รองรับมิติเชิงลึก สามารถวางภาพซ้อนวิดเจ็ตบนหน้าจอล็อกได้ เพิ่มตัวเลือกใหม่ให้กับมุมมองแผงการแจ้งเตือนและการตั้งค่าด่วน 

realme UI 6.0 ยังมาพร้อมเครื่องมือ AI ใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับสมาร์ตโฟน และช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น เช่น AI Multi-Tasker, AI Gaming Coach และ GT Boost ก็ได้รับการอัปเกรดให้ดียิ่งขึ้น

AI Multi-Tasker ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองการใช้งานหลายแอปในเวลาเดียวกัน และสามารถเปิดแอปที่ใช้งานบ่อยได้เร็วขึ้น 3 วินาที

AI Gaming Coach ใช้อัลกอริทึม Smart Danger Alerts ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และอัลกอริทึม In-Game Status Updates นำเสนอการเตือนเกี่ยวกับสถานะของเพื่อนร่วมทีม ความทนทานของอุปกรณ์ ความก้าวหน้าในโซน และปัจจัยสำคัญอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้ realme 15 Series 5G กลายเป็นเกมเมอร์ระดับโปร

GT Boost ช่วยรีดประสิทธิภาพ realme 15 Series 5G ให้ถึงขีดสุด มอบอัตราการรีเฟรชสูงถึง 120 เฟรมจ่อวินาที และตอบสนองการสัมผัสได้ทันใจ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งความเร็วของ CPU และ GPU ได้ตามต้องการ 

realme Buds T200

ในโอกาสเดียวกันนี้ realme จะได้เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบ TWS รุ่นใหม่ realme Buds T200 ที่ไม่เพียงแต่จับคู่กับ realme 15 Series 5G ได้อย่างลงตัว แต่สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์อื่นที่มี Bluetooth ได้เช่นกัน

realme Buds T200 มาพร้อมไดรเวอร์แบบไดนามิกขนาด 12.4 มิลลิเมตร ให้เสียงคุณภาพสูงด้วยมาตรฐาน Hi-Res Audio Wireless รองรับเทคโนโลยีการเข้ารหัสเสียง LDAC และยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation สามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุด 32 เดซิเบล

realme Buds T200 ถูกออกแบบมาให้ป้องกันน้ำในระดับ IP55 สนับสนุนการเชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน สามารถสลับการจับคู่ระหว่าง 2 อุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จ สามารถฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง

สรุปราคาและการจำหน่าย

realme 15 Series 5G ได้รับการออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสายปาร์ตี้ ด้วยกล้องความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ทั้งกล้องหลักและกล้องเซลฟี่ เสริมด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้การถ่ายภาพยามค่ำคืนออกมาสว่างคมชัด พร้อม Light Effect เปลี่ยนแสงไฟเบื้องหลังให้เป็นเอฟเฟกต์แสงดาวหรือรูปหัวใจ ยิ่งทำให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และยังยกระดับการถ่ายวิดีโอให้คุณภาพดีขึ้นระดับ 4K ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า

realme 15 Series 5G ยังมีจุดเด่นที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยมีความจุมากถึง 7000mAh แต่ตัวเครื่องกลับมีดีไซน์บางเบา พกพาสะดวก และสามารถเติมพลังงานได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว 80W Ultra Charge นอกจากนี้ ยังตอบสนองการใช้งานได้อย่างราบรื่นจากชิปประมวลผลรุ่นใหม่ของ MediaTek และ Qualcomm พร้อมระบบระบายความร้อน AirFlow VC ที่หาได้อยากในคู่แข่งระดับเดียวกัน ทำให้ realme 15 Series 5G ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพและความบันเทิงได้อย่างดี

อย่างไรก็ตาม realme 15 Pro 5G ถูกวางตำแหน่งไว้เหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน โดยมาพร้อมจอแสดงผลแบบขอบโค้ง ที่ให้ภาพลักษณ์พรีเมียมกว่า ได้รับกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า แต่แน่นอนว่าต้องข่ายแพงกว่ารุ่นมาตรฐานอีกเล็กน้อย

realme 15 Series 5G นำเสนอทั้งรุ่น

  • realme 15 Pro 5G เลือกได้ทั้งสี Flowing Silver และ Velvet Green สเปก 12GB/256GB ในราคา 14,999 บาท และ สเปก 12GB/512GB ในราคา 16,999 บาท
  • realme 15 5G เลือกได้ทั้งสี Suit Titanium และ Silk Pink สเปก 12GB/256GB ในราคา 12,999 บาท
  • realme 15T เลือกได้ทั้งสี Flowing Silver และ Suit Titanium สเปก 8GB/256GB ราคา 9,999 บาท และ 12GB/512GB ในราคา 11,999 บาท
  • realme Buds T200 ราคา 1,199 บาท
  • realme Watch 5 ราคา 1,999 บาท

โดยสามารถพรีออเดอร์ realme 15 Pro 5G และ realme 15 5G ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 18 – 26 กันยายน และสามารถเป็นเจ้าของพร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 27 กันยายน

  • ผ่านช่องทางโอเปอเรเตอร์ พิเศษ! เป็นเจ้าของผ่านช่องทาง AIS ราคาเครื่องพร้อมแพคเกจสุดคุ้ม realme 15 Pro 5G (12GB/256GB) เริ่มต้นเพียง 10,399 บาท realme 15 Pro 5G (12GB/512GB)  เริ่มต้นเพียง 10,399 บาท และ realme 15 5G (12GB/256GB) เริ่มต้นเพียง 8,499 บาท
  • ช่องทางออนไลน์ พิเศษ! สำหรับ realme 15 Pro 5G (12GB/512GB) Exclusive เฉพาะ Shopee เท่านั้น

พร้อมทั้งรับของแถม realme Special Backpack, realme Premium Fruit Mix, ประกันจอแตก 1 ครั้งใน 180 วัน และขยายประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี   (realme 15T เริ่มจำหน่ายในวันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นไป)






Tags: AI Party Phonerealme 15realme 15 Prorealme 15 Series 5GReviewใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อต
ShareTweetShare

Related Posts

รีวิว vivo X300 Series แฟลกชิปที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมกล้อง ZEISS APO Telephoto 200MP และชุดเลนส์เสริม ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6
Feature

รีวิว vivo X300 Series แฟลกชิปที่ทุกคนรอคอย มาพร้อมกล้อง ZEISS APO Telephoto 200MP และชุดเลนส์เสริม ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6

November 28, 2025
รีวิว realme C85 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ 7000mAh กันน้ำขั้นสุด IP69 Pro จอ 6.8 นิ้วรีเฟรช 144Hz อัดแน่นด้วย AI และ realme Buds Clip หูฟังไร้สายรุ่นใหม่
Feature

รีวิว realme C85 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ 7000mAh กันน้ำขั้นสุด IP69 Pro จอ 6.8 นิ้วรีเฟรช 144Hz อัดแน่นด้วย AI และ realme Buds Clip หูฟังไร้สายรุ่นใหม่

November 26, 2025
รีวิว Samsung Galaxy Tab A11+ แท็บเล็ตโทรได้ แบตอึด การันตี อัปเกรดซอฟต์แวร์ 7 เวอร์ชั่นพร้อม AI เป็นครั้งแรก
Feature

รีวิว Samsung Galaxy Tab A11+ แท็บเล็ตโทรได้ แบตอึด การันตี อัปเกรดซอฟต์แวร์ 7 เวอร์ชั่นพร้อม AI เป็นครั้งแรก

November 25, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • เปรียบเทียบ 2 เรือธงแห่งปี Galaxy S25 Ultra vs iPhone 17 Pro Max

    788 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Apple Watch พร้อมให้บริการการแจ้งเตือนภาวะความดันโลหิตสูงในประเทศไทยแล้ววันนี้

Apple Watch พร้อมให้บริการการแจ้งเตือนภาวะความดันโลหิตสูงในประเทศไทยแล้ววันนี้

December 4, 2025
OPPO A6 Series จำหน่ายแล้ววันนี้! สมาร์ตโฟนสมูทเกินต้านทนทานทุกดาเมจ ครอบคลุมทุกการใช้งาน ในราคาสุดคุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 3,499 บาทเท่านั้น!

OPPO A6 Series จำหน่ายแล้ววันนี้! สมาร์ตโฟนสมูทเกินต้านทนทานทุกดาเมจ ครอบคลุมทุกการใช้งาน ในราคาสุดคุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 3,499 บาทเท่านั้น!

December 4, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');