หัวเว่ยเปิดตัว Ascend Mate7 ในงาน Internationale Funkausstellung Berlin (IFA) ประจำปี 2557 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ FHD ใหญ่ 6 นิ้ว เพื่อการรับชมความบันเทิงอย่างเต็มตา ตัวเครื่องจับสะดวกขึ้นด้วยความบางเพียง 7.9 มม. ภายในมีชิปเซ็ต octa-core อันทรงพลัง เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่มากกว่า และแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้น นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีอ่านลายนิ้วมือแบบ single-touch และยูสเซอร์อินเตอร์เฟส EMUI 3.0 ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และง่ายดายขึ้น Ascend Mate7 เป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่รุ่นล่าสุดจากหัวเว่ย ซึ่งสะท้อนถึงเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสามของโลก
“วันนี้ เราขอเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอใหญ่ที่เร็วแรงและน่าทึ่งที่สุดสู่สายตาลูกค้าทุกท่าน สมาร์ทโฟนตัวนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละในการทำให้ทุกคนทั่วโลกได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมของเรา” ริชาร์ด หยู ซีอีโอของหัวเว่ย คอนซูเมอร์ บิสิเนส กรุ๊ป กล่าว “Huawei Ascend Mate7 เป็นผู้นำในแวดวงสมาร์ทโฟนจอใหญ่อย่างแท้จริง ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อัตราการใช้พลังงานที่น่าประทับใจ ตลอดจนความสะดวกสบายที่มากกว่าด้วยเทคโนโลยีอ่านลายนิ้วมือแบบ single-touch สุดทันสมัย”
ประสิทธิภาพการทำงานอัจฉริยะ
สมาร์ทโฟน Ascend Mate7 มีโครงสร้างแบบ octa-core ที่ใช้หน่วยประมวลผลอัจฉริยะ Huawei Kirin 925 ซึ่งประกอบด้วยชิปเซ็ต A15 1.8 GHz ขนาดใหญ่ 4 ตัว และ A7 1.3 GHz ขนาดเล็กอีก 4 ตัว ซึ่งมีการทำงานที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการพลังงานของแต่ละแอพหรือฟังก์ชั่น ทำให้สมาร์ทโฟนบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้สูงสุดถึง 50% ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ชิป A7 ขนาดเล็กโดยอัตโนมัติ เมื่อมีการใช้งานแอพพื้นฐานที่ผู้บริโภคใช้งานอย่างน้อย 80% ของเวลาที่ใช้ทั้งหมด และเปลี่ยนไปใช้ชิป A15 ขนาดใหญ่เมื่อมีการใช้งานแอพที่มีความละเอียดสูงกว่า เช่น เกม เป็นต้น นอกจากนี้ หน่วยประมวลผลยังเปิดการใช้งานชิปเพิ่มเติมโดยอัตโนมัติ เมื่อชิปประมวลผลตัวใดตัวหนึ่งมีการทำงานแตะระดับ 85-95%
Ascend Mate7 น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้วเครื่องแรกในตลาดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอ่านลายนิ้วมือแบบ single-touch สำหรับใช้ปลดล็อกหน้าจอแทนการกรอกรหัสผ่าน ผู้ใช้จึงสามารถปลดล็อกหน้าจอได้เร็วกว่าการปลดล็อกหน้าจอด้วยวิธีลากนิ้วอย่างน้อย 80% โดยตัวอ่านลายนิ้วมือขนาด 9.16 X 9.16 มม. จะอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง และสามารถบันทึกลายนิ้วมือที่แตกต่างกันได้ถึง 5 ชุด ทั้งยังสามารถจำแนกเป็น normal mode และ guest mode ผู้ใช้จึงสามารถปรับเปลี่ยนโหมดเพื่อยกระดับความปลอดภัย เพื่อปกป้องโฟลเดอร์ส่วนตัว แอพพลิเคชั่นต่างๆ หรือข้อมูลการชำระเงินได้ นอกจากนี้ อัตราส่วนความละเอียดที่เพิ่มเป็น 508PPI ยังช่วยเพิ่มความแม่นยำของการอ่านลายนิ้วมือ ผู้ใช้จึงไม่จำเป็นต้องเลื่อนนิ้วซ้ำหลายครั้งเพื่อปลดล็อกหน้าจอ แม้ว่านิ้วมือจะเปียกน้ำหรือยามใช้งานขณะฝนตกปรอยๆก็ตาม ขณะเดียวกัน ARM TrustZone ก็เพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบปฏิบัติการ SecureOS ด้วยการเก็บบันทึกข้อมูลลายนิ้วมือที่เข้ารหัสไว้ภายในชิปเซ็ท และช่วยป้องกันการเข้าเครื่องโดยตรงจากบุคคลที่สาม
Ascend Mate7 เชื่อมต่อเครือข่าย LTE Cat6 ที่เร็วที่สุด ด้วยความเร็วการดาวน์โหลดสูงถึง 300 Mbps ทำให้สามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ HD ภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที ขณะเดียวกันก็มีแบตเตอรี่ Li-Polymer จิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยความจุถึง 4100 mAh รองรับการใช้งานปกติแบบนอนสต็อปได้ยาวนานมากกว่า 2 วัน พร้อมด้วยเทคโนโลยีประหยัดพลังงานของหัวเว่ยซึ่งแบ่งเป็น 3 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดอัจฉริยะ และโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด
รูปลักษณ์และวัสดุ
Ascend Mate7 ผลิตจากโลหะมากกว่า 95% ซึ่งถือว่าหาได้ยากในสมาร์ทโฟนขนาดเดียวกัน ขณะที่โครงสร้างภายในทำจากอลูมิเนียมอัลลอยที่แข็งแกร่งซึ่งช่วยลดความร้อนได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมีความบางเพียง 7.9 มม. น้ำหนักเพียง 185 กรัม และมีความโค้งมนได้รูป ทำให้ใช้งานได้ถนัดด้วยมือเดียว นอกจากนี้ ขอบหน้าจอที่กว้างเพียง 2.9 มม. ยังทำให้หน้าจอมีสัดส่วนถึง 83% ของตัวเครื่อง ทั้งนี้ Ascend Mate7 มีให้เลือกถึง 3 เฉดสีสุดชิค ได้แก่ moonlight silver, obsidian black และ amber gold
Ascend Mate7 ยังมีหน้าจอแสดงผลแบบ FHD LTPS ขนาด 6 นิ้วที่ใช้พลังงานน้อยลง บวกกับเทคโนโลยี Nega-NEO ของ JDI ที่มีอัตราส่วนความเปรียบต่าง 1500:1 ทำให้ภาพคมชัดอย่างเหลือเชื่อ นอกจากนั้นยังมีกล้องหลังความละเอียด 13MP พร้อมเซ็นเซอร์ BSI รุ่นที่ 4 จาก Sony และรูรับแสง f/2.0 ที่จะช่วยให้ถ่ายภาพปาร์ตี้แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงกล้องหน้าความละเอียด 5MP ซึ่งใช้เลนส์ 5P non-spherical ชั้นนำของวงการ เพื่อเพิ่มความคมชัดและลดการบิดเบือนของภาพได้ดียิ่งขึ้น
ใช้งานง่ายเป็นธรรมชาติ
สมาร์ทโฟน Ascend Mate7 มาพร้อมกับ EMUI 3.0 ซึ่งเป็นยูสเซอร์อินเตอร์เฟสเวอร์ชั่นใหม่ของหัวเว่ยที่ใช้งานง่ายขึ้นด้วยมือเดียว ขณะที่หน้าตาของซอฟต์แวร์อินเตอร์เฟสก็ถูกปรับโฉมใหม่ทั้งหมด สำหรับรูปแบบไทม์ไลน์ใหม่ถูกใช้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความสอดคล้องมากยิ่งขึ้นในแอพต่างๆ นอกจากนี้ Ascend Mate7 ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ด้วยรายละเอียดหน้าตาที่ดึงดูดความสนใจและใช้งานได้จริง เช่น การผสานฟังก์ชั่นหลักๆของสมาร์ทโฟนเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ การโทร รายชื่อผู้ติดต่อ และการส่งข้อความ โดยสามารถสลับการใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงลากนิ้วตามแนวนอนครั้งเดียว
การวางจำหน่ายและอุปกรณ์เสริม
ราคาแนะนำของเครื่อง Huawei Ascend Mate7 รุ่นสแตนดาร์ด (2GB RAM และ 16GB ROM) อยู่ที่เครื่องละ 499 ยูโร ขณะที่ Huawei Ascend Mate7 รุ่นพรีเมียม (3GB RAM และ 32GB ROM) อยู่ที่เครื่องละ 599 ยูโร และจะวางจำหน่ายในกว่า 30 ประเทศ/เขตแดน ซึ่งรวมถึงจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส และสเปน ตั้งแต่ไตรมาส 3/2557 เป็นต้นไป และจะกระจายไปสู่ตลาดอื่นๆต่อไป สำหรับอุปกรณ์เสริมประกอบด้วยหูฟังแบบใหม่รุ่น UltimoPower Active Noise Cancelling Earphones ที่สามารถลดเสียงรบกวนได้ 15-30 เดซิเบล และครั้งแรกกับ internal battery แบบชาร์จเองเมื่อต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน และใช้งานได้ 2 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ รวมถึงเคสหนัง และแท่นชาร์จที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้เป็นกรอบรูปดิจิตอลได้
