True คาดผู้ใช้ Wifi ขยายตัวกว่า 3 เท่าใน 3 ปี เตรียมทุ่มงบลงทุนเพิ่ม 1.5 พันล้านบาทปีนี้ปรับปรุงเครือข่าย-ขยายจุดเชื่อมต่อให้ครบ 1 แสน
นายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจบริการบรอดแบนด์ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในปี 2555 บริษัทเตรียมลงทุนขยายโครงข่ายในส่วนของอินเทอร์เน็ตไร้สาย (ไวไฟ) เพิ่มอีก 1.5 พันล้านบาท รองรับการขยายตัวของลูกค้าซึ่งคาดว่าใน 3 ปีผู้ใช้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 เท่าตัว “เดิมการลงทุนในส่วนนี้อยู่ที่ราว 250 ล้านบาท ปีนี้ที่ได้งบเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเพราะไวไฟเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุน กลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ของบริษัทที่วางไว้”
เขาเผยว่าบริษัทเตรียมใช้งบประมาณดังกล่าวทั้งในส่วนของ การปรับปรุงโครงข่าย พัฒนาบริการ ขยายจุดเชื่อมต่อให้ครบ 1 แสนจุด รวมถึงขยายจุดเชื่อมต่อในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 3-4 หมื่นจุด สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับเครือข่าย 3 จีของบริษัทได้รวดเร็วมากขึ้น รวมถึงรองรับเทคเทคโนยีใหม่ในอนาคต
ปัจจุบันทรูมี ลูกค้าไวไฟ 9 แสนราย ปีนี้คาดว่าธุรกิจจะเติบโตขึ้นราว 50-60-% เหมือนกับทุกๆ ปี ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าอย่างน้อย 1.5 ล้านราย โดยการเติบโตจะเพิ่มมากขึ้นหากการทำตลาดเครือข่ายทรูมูฟเอชทำได้ดี
“การใช้งานเฉลี่ยของลูกค้าแต่ละคนเพิ่มขึ้นจาก 2-3 ชั่วโมงเป็น 10 ชั่วโมง ส่วนของรายได้หากเทียบกับบรอดแบรนด์ถือว่าน้อย ยังอยู่ในหลักพันล้านบาทแต่เป็นตัวช่วยเสริมบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น ปีที่ผ่านมาคาดว่ารายได้เติบโตขึ้นประมาณ 46%” อย่างไรก็ตามการที่กระทรวงไอซีทีให้บริการไวไฟโครงการ ไอซีที ฟรี ไวไฟ ความเร็ว 2 เมกกะไบต์ไม่กระทบกับธุรกิจบริษัท และเป็นส่วนช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น
นอกจากนี้กำลังเริ่มโครงการนำร่อง “Wifi Hotspot 2.0” พัฒนาเทคโนโลยีความเร็วสูงเป็นรองรับอนาคต ขณะนี้เริ่มทำโครงการนำร่องที่เซ็นทรัลพระราม 9 และลาดพร้าวคาดว่าเดือนก.พ.จะเสร็จระยะทดลอง สามารถเปิดการทดลองในรูปแบบคอมเมอร์เชียลภายในสิ้นปีนี้
นายสุพจน์ มหพันธ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจบริการระหว่างประเทศกล่าวเสริมว่า โครงการใหม่เป็นอีกหนึ่งก้าวที่ทรูทำ ขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้านอกเหนือไปจากการใช้บริการ 3จี และ 4 จีที่จะมีขึ้นในอนาคต ตอบโจทย์การเติบโตของการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้น 2-4 เท่าในแต่ละปี เขาเผยว่า ทั่วโลกมีผู้ให้บริการมือถือเพียง 5 รายที่พร้อมเข้าร่วมทอดสอบการใช้งานสาเหตุที่ได้รับเลือกเนื่องจากเป็นหนึ่ง ในผู้ให้บริการที่มีความพร้อมทั้งด้านการบริการและเครือข่ายครอบคลุมมากกว่า รายอื่นๆ
พร้อมอธิบายว่า ฮอตสปอต 2.0 จะช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้นจากการเชื่อมต่อที่ลดขั้นตอนลงกลายเป็นแบ บอัติโนมัติที่ข้อมูลอยู่ภายในซิมการ์ดเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม การใช้งานยังมีข้อจำกัดคือเรื่องดีไวซ์ในตลาดยังไม่รองรับการใช้งานเต็มรูป แบบที่มีอยู่ของค่ายซัมซุงซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมทดสอบระบบต้องอัพเกรด เฟิร์มแวร์ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้
