สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ มาพร้อมฟีเจอร์ AR Emoji ที่หลายคนมองว่ามีบางอย่างคล้ายกับ Animoji ที่อยู่ใน iPhone X ซึ่งประเด็นเรื่องความคล้ายกัน D.J. Koh ประธานฝ่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Samsung ได้ออกมาปฏิเสธแล้ว โดยอ้างว่า Samsung พัฒนา Emoji มานานหลายปี และมีความแตกต่างจาก Animoji อย่างสิ้นเชิง ส่วนจะแตกต่างกันอย่างไรนั้น เว็บไซต์ iDropNews ได้สรุปมาให้แล้ว
Animoji มีอยู่ในแอพข้อความ
iPhone X จะใช้งาน Animoji ได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในแอพพลิเคชั่นข้อความ โดยต้องส่ง Animoji หาใครสักคน จึงจะสามารถบันทึกคลิปวีดีโอของ Animoji เพื่อไปแชร์ต่อในช่องทางอื่นได้ ส่วน AR Emoji ของ Samsung อยู่ในแอพกล้อง ดังนั้นการแชร์ AR Emoji จะทำได้ง่ายกว่า
AR Emoji ดูเหมือนภาพการ์ตูนทั่วไป
คาแรคเตอร์ Animoji ที่ Apple นำมาใช้ สร้างมาจาก Emoji ของ Unicode แต่ทำออกมาในรูปแบบ 3 มิติ ทำให้คาแรคเตอร์ Animoji มีความลึกและสมจริงกว่า ขณะที่ AR Emoji ไม่ได้ใช้ Emoji ของ Unicode และยังไม่เป็น 3 มิติ ทำให้คาแรคเตอร์ AR Emoji ดูแบนและไม่เรียบเนียนเหมือนกับ Animoji
AR Emoji บันทึกวีดีโอได้ยาวนานกว่า
Animoji ของ Apple เน้นใช้งานในข้อความ จึงจำกัดการบันทึกเป็นคลิปวีดีโอเพียง 10 นาที ซึ่งทำให้ไฟล์มีขนาดเล็ก แต่แชร์ได้อย่างรวดเร็ว ส่วน AR Emoji ไม่จำกัดระยะเวลาในการสร้างเป็นไฟล์วีดีโอ แต่ก็ทำให้ไฟล์มีขนาดใหญ่
Animoji มีคาแรคเตอร์จำกัด
Animoji มีคาแรคเตอร์ให้เลือกใช้เพียง 12 แบบ และกำลังจะเพิ่มอีก 4 แบบใน iOS 11.3 ขณะที่ AR Emoji จะแตกต่างออกไปตรงที่การสร้างสติกเกอร์คล้าย Snapchat มีตัวเลือกและปรับแต่งได้หลากหลายกว่า และยังมีฟีเจอร์ที่สำคัญอีกอย่าง ซึ่งกำลังจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป
AR Emoji ให้ผู้ใช้งานสร้างคาแรคเตอร์จากตัวเอง
สิ่งที่ทำให้ AR Emoji เหนือกว่า Animoji ก็คือ การสร้างคาแรคเตอร์ขึ้นมา โดยใช้พื้นฐานใบหน้าเจ้าของอุปกรณ์ผ่านกล้องเซลฟี่ และสามารถเคลื่อนไหวตามผู้ใช้งานได้ นั่นหมายถึงเจ้าของ Galaxy S9 และ S9+ สามารถสร้าง AR Emoji ขึ้นมาตามรูปลักษณ์ของตัวคุณเอง
Animoji ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่า
iPhone X ใช้ระบบกล้อง TrueDepth ที่รวมเซ็นเซอร์ 3 มิติเอาไว้ สามารถตรวจจับโครงสร้างใบหน้าผู้ใช้งานได้อย่างละเอียด ทำให้การเคลื่อนไหวของ Animoji มีความแม่นยำ ส่วน AR Emoji ใช้กล้องเซลฟี่ที่เป็น 2 มิติ ทำให้การตรวจจับใบหน้าไม่ละเอียดเท่า Animoji
TrueDepth ทำงานกับแอพอื่นๆ ได้ด้วย
ระบบกล้อง TrueDepth ไม่ได้จำกัดไว้ใช้งานเฉพาะ Animoji หรือ Face ID แต่ยังใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ 3 มิติ กับแอพพลิเคชั่นอื่นได้ด้วย อย่างเช่นแอพ Snapchat ถ้ามีการนำสติกเกอร์มาติดบนใบหน้า จะเห็นว่าสติกเกอร์จะติดอยู่กับใบหน้าได้ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานบน Galaxy S9
สรุปแล้ว AR Emoji สามารถใช้งานได้หลากหลายกว่า แต่ Animoji ได้รับประโยชน์จากระบบกล้อง TrueDepth ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงกว่า
ที่มา – iDropNews
http://www.flashfly.net/wp/?p=212060
