เปรียบเทียบสเปก Nubia Red Magic vs Xiaomi Black Shark เกมมิ่งสมาร์ทโฟนตัวแรง หาจุดเด่นจุดด้อย

ตลาดเกมมิ่งสมาร์ทโฟนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจาก Razer Phone ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว และช่วงกลางเดือนเมายนที่ผ่านมา ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Xiaomi และ Nubia ก็ได้เปิดตัวเกมมิ่งสมาร์ทโฟนออกมาแข่งขันในเวลาไล่เลี่ยกัน โดย Xiaomi เปิดตัว Black Shark ออกมาก่อน และไม่กี่วันต่อมา Nubia ก็ส่ง Red Magic มาประกบทันที

Red Magic

การออกแบบ

ดีไซน์ด้านหน้าของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ก็ดูเหมือนกับสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่ด้านหลังของ Black Shark ดูแข็งแรงกว่า ดีไซน์แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป ส่วนด้านหลังของ Red Magic เรียบง่ายกว่าแต่ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ จึงสบายมือมากกว่าหลังจากเล่นเกมเป็นเวลานาน

Red Magic และ Black Shark แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไป ตรงที่มีระบบระบายความร้อนด้วยกันทั้งคู่ เพื่อให้อุปกรณ์สามารถเล่นเกมได้เป็นเวลานาน แต่ใช้เทคโนโลยีแตกต่างกัน Red Magic ใช้เทคนิคลดอุณหภูมิด้วยระบบ Air Convection Cooling ช่วยกระจายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน Black Shark อ้างว่าสามารถลดอุณหภูมิได้สูงสุด 8 องศา

Black Shark

ประสิทธิภาพ

Black Shark ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 845 ซึ่งเป็นชิปเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcomm ขณะที่ Red Magic เลือกใช้ชิป Snapdragon 835 ที่ออกมาในปีที่แล้ว เหมือนกับ Razer Phone ดังนั้น Black Shark ดูเหมือนจะได้เปรียบกว่า ด้านความจำในรุ่นท็อปสุดของทั้งคู่มากับ RAM 8GB พร้อมด้วย ROM 128GB

กล้อง

ถึงแม้จะออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่การถ่ายภาพก็ยังให้ความสำคัญ Black Shark ใช้กล้องคู่หลัง 12 + 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 กล้องเซลฟี่ 20 ล้านพิกเซล ส่วน Red Magic ใช้กล้องหลังเลนส์เดียว 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7 กล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล

Black Shark มี GamePad เป็นอุปกรณ์เสริม (ขายแยก)

ราคา

หากพิจารณาจากสเปกโดยรวมแล้ว ดูเหมือน Black Shark จะมีความน่าสนใจกว่า แต่นั่นอาจเป็นเพราะ Red Magic มีราคาถูกกว่าก็ได้ ซึ่งราคาก็คือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อของผู้บริโภค

Black Shark เริ่มวางจำหน่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ในประเทศจีน ราคา 2,999 หยวน หรือราว 14,880 บาท สำหรับรุ่น RAM 6GB และ 3,499 หยวน หรือราว 17,360 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB

Red Magic กำลังจะเปิดให้จับจองผ่านเว็บไซต์ Indiegogo ในวันที่ 26 เมษายนนี้ ในราคาเริ่มต้น 399 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 12,500 บาท