ZTE Corporation ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและเทคโนโลยีโมบายอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกค้าองค์กรและผู้บริโภครายใหญ่ของโลก ประกาศเปิดตัว “ZTE Axon 10 Pro 5G” สมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำระดับโลกอย่าง China Unicom, Elisa และ Hutchison Drei Austriaสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรีส์ Axon จะวางจำหน่ายในยุโรปและจีนภายในครึ่งแรกของปีนี้
ZTE Axon 10 Pro 5G ใช้แพลตฟอร์มมือถือ Qualcomm® Snapdragon™ 855 จับคู่กับโมเด็ม Snapdragon X50 5G และ AI Performance Engine เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้แก่ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะการเล่นเกมและโหลดคลิปวิดีโอด้วยความเร็วสูง นอกจากนั้นยังมาพร้อมดีไซน์สุดหรู เครื่องสแกนลายนิ้วมือฝังในจอที่ทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ คุณภาพเสียงอันโดดเด่น รวมถึงเทคโนโลยีกราฟิก Axon Vision ที่ให้ภาพถ่ายและวิดีโอคุณภาพสูงจนต้องตะลึง
คุณสวี่ เฟิง ซีอีโอของ ZTE Mobile Devices กล่าวว่า “เทอร์มินัลคือส่วนสำคัญของการใช้งาน 5G แบบครบวงจร นอกเหนือจากการเปิดตัวเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกของโลกแล้ว ZTE ยังเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นแรก ที่ผสานเทคโนโลยี 5G หลักๆ เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์การใช้งาน ZTE Mobile Devicesมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบประสบการณ์ 5G อัจฉริยะให้แก่ผู้บริโภคในสภาพการณ์ที่หลากหลาย ด้วยการสร้างระบบนิเวศด้วยอุปกรณ์ 5G อัจฉริยะและผลิตภัณฑ์ IoT”
เทคโนโลยี 5G มอบการใช้งานที่รวดเร็วกว่าที่เคย
ในกระบวนการพัฒนาสมาร์ทโฟน 5G ทีมวิศวกรของ ZTE ต้องแก้ปัญหาทางเทคนิคมากมายอันเกิดจากนวัตกรรม 5G ทั้งความเข้ากันได้ของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ดีไซน์ของสายอากาศ การใช้พลังงาน และการกระจายความร้อน ยกตัวอย่างเช่น ZTE ได้นำโมเดลการใช้พลังงานและอุณหภูมิพื้นผิวมาปรับใช้ จนประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อนด้วยการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลวและสารเปลี่ยนสถานะความร้อน
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในซีรีส์ Axon ยังมีสายอากาศแบบ Full Band ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง ครอบคลุมทั้ง 2G/3G/4G/5G ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบได้อย่างมีนัยสำคัญด้วยการลดสัญญาณแทรก นอกจากนั้นยังใช้สายอากาศแบบร่องและสายอากาศแบบปรับได้ เพื่อรับประกันว่าจะรับสัญญาณได้ดีที่สุดไม่ว่าจะใช้งานในสภาพแวดล้อมใดก็ตาม ขณะเดียวกันยังมีการใช้โซลูชั่น Smart SAR เพื่อลดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและลดผลกระทบที่มีต่อร่างกายให้เหลือน้อยที่สุด
สมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นนี้ยังมีขนาดเล็กกว่าและบางกว่าสมาร์ทโฟน 4G ทั่วไป เพราะใช้ชิ้นส่วนขนาดเล็กจำนวนมากและเลย์เอาท์แบบ “แซนด์วิช” ที่มีความแม่นยำสูง
AI Performance Engine ขุมพลัง 5G
AI Performance Engine รุ่นใหม่ของ ZTE ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้งานที่อัจฉริยะและรวดเร็วกว่าเดิม โดยทำให้ใช้งานหลายฟังก์ชั่นพร้อมกันได้อย่างมั่นใจ เพราะมีการปรับ CPU, GPU, RAM และ ROM โดยอัตโนมัติด้วยอัลกอริทึม AI และเมื่อผนึกกำลังกับแพลตฟอร์มือถือ Qualcomm® Snapdragon™ 855 รวมถึงโมเด็ม Snapdragon X50 5G ผู้ใช้ก็จะได้รับประสบการณ์การใช้งานเครือข่าย 5G คุณภาพสูง ทั้งความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ และแบนด์วิดท์สูง นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ยังใช้ AI ในการส่งมอบฟังก์ชั่นคุณภาพสูงมากมาย เช่น กล้องสามตัว AI, ระบบจับภาพ AI, ระบบจดจำภาพ AI, ระบบปรับแสงภาพ AI, ระบบเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้ AI และอีกมากมาย
ZTE กำลังทำการทดสอบเทอร์มินัล 5G โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำใน 8 ประเทศทั่วโลก ขณะเดียวกัน ZTE Mobile Devices จะเร่งเปิดตัวเทอร์มินัล 5G เชิงพาณิชย์โดยร่วมมือกับพันธมิตรหลายรายทั่วโลก
