Sunday, May 25, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home iPhone

แกะกล่องพรีวิวสัมผัสแรก Apple Watch Series 6 สีแดง (PRODUCT)RED มาพร้อม SpO2 วัดค่าออกซิเจนในเลือด

Jackrich T. by Jackrich T.
October 4, 2020
in iPhone, NEWS, Recommended, Review & Preview
0
SHARES
823
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

ในที่สุด Apple ก็ได้วางจำหน่าย Apple Watch Series 6 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วแทนที่ Apple Watch Series 5 จากปีก่อน ซึ่งตอนนี้มีจำหน่ายเฉพาะรุ่น GPS ส่วนใครที่รอรุ่น GPS+Cellular อดใจรอไม่นาน ซึ่งปีนี้ยังมีรุ่นพิเศษ Apple Watch SE ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายพร้อมกันอีกด้วย

โดยในปีนี้ Apple ยังคงใช้ดีไซน์เดิมที่คุ้นเคย เพิ่มเติมด้วยสีสันใหม่ สายแบบใหม่ และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยติดตามสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น แต่ก่อนที่จะไปเจาะลึกในรีวิว ทีมงาน @flashfly จะเริ่มต้นที่การพรีวิวแกะกล่องกันก่อน 

แกะกล่อง Apple Watch Series 6

มาเริ่มกันที่ห่อพลาสติกใสของ Apple Watch Series 6 ที่สามารถดึงออกอย่างง่ายดาย ไม่ต้องใช้ของมีคมมากรีดออกไปให้วุ่นวายอีกต่อไปแล้ว สะดวกอย่างมาก

โดยรุ่นที่ทีมงานนำมารีวิวนั้นเป็นรุ่นอลูมิเนียมสีแดง (PRODUCT)RED ใหม่ล่าสุด ด้านหน้ากล่องจะใช้โลโก้ Apple Watch สีแดงบนพื้นขาวแบบนี้เลย

ด้านหลังระบุชื่อ Series 6 วัสดุตัวเรือน ประเภทสาย และ ขนาด ซึ่งมีให้เลือกระหว่าง 40 มม. กับ 44 มม.

เมื่อแกะห่อออกมา จะพบว่าภายในของกระดาษห่อพิมพ์ลาย Apple Watch ไว้อย่างสวยงาม ส่วนสีสันด้านในของกระดาษห่อ จะแตกต่างกันไป เพราะ Apple เลือกใช้สีที่เข้ากับสีตัวเรือนที่แต่ละคนเลือกซื้อ ซึ่งสีแดง (PRODUCT)RED จะมีหน้าตาแบบนี้

ภายในกระดาษห่อจะพบกับกล่อง Apple Watch Series 6 วางซ้อนทับบนกล่องสายนาฬิกา และทั้ง 2 กล่อง มีการพิมพ์รูปภาพผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายในไว้อย่างชัดเจน โดยกล่องสายนาฬิกาจะมีความบางกว่าอย่างชัดเจน

เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเรือน Apple Watch Series 6 ถูกเก็บไว้ในซองอย่างดีสีเดียวกับตัวเรือน ข้างกันเป็นซองเอกสาร

เมื่อนำตัวเรือน Apple Watch Series 6 ออกมาจากซอง จะเห็นสีแดง (PRODUCT)RED ตัดกับสีดำหน้าตาสวยงามแบบนี้ ด้านหลังจะระบุชื่อรุ่นชัดเจน

สำหรับภายในซองเอกสารจะมี กระดาษสีแดง (PRODUCT)RED พร้อมคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น การประกันสินค้าในรูปแบบภาษาไทย

สุดท้ายภายในกล่องมีสายชาร์จแบบแม่เหล็กความยาว 1 เมตร แต่ไม่มีอะแดปเตอร์จ่ายไฟมาให้เหมือนรุ่นก่อนอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของ Apple ที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

มาดูกล่องสายนาฬิกากันบ้าง ภายในได้รับสายตามที่สั่งซื้อไว้โดยจะเป็นสาย Sport Band (PRODUCT)RED

โดยด้านในก็จะมีสายให้เลือกใช้ตามขนาดข้อมือ 2 ไซส์คือ M/L และ S/M ให้เลือก

ดีไซน์พรีเมี่ยมอย่างเคย

ดีไซน์โดยรวมของ Apple Watch Series 6 ยังดูคล้ายกับ Apple Watch Series 5 แต่ได้รับสีสันใหม่ สีฟ้า สำหรับตัวเรือนอะลูมิเนียม พร้อมด้วย สีแดง (PRODUCT)RED, สีเทาสเปซเกรย์ และ สีทอง

แน่นอนว่ายังมีรุ่นตัวเรือนสแตนเลสสตีล ,Apple Watch Edition มีตัวเรือนไทเทเนียม และรุ่นหรู Hermes ให้เลือกอยู่เช่นเดิม

Apple Watch Series 6 มีให้เลือก 2 ขนาดเหมือนรุ่นก่อน ได้แก่ 40 มม. และ 44 มม. โดยรุ่นตัวเรือนอะลูมิเนียม มาพร้อมจอภาพกระจก Ion‑X ส่วนตัวเรือนสแตนเลสสตีล และ ไทเทเนียม จะได้รับจอภาพแบบผลึกแซฟไฟร์ และยังคงป้องกันน้ำที่ระดับ 50 เมตร 

Apple Watch Series 6 มาพร้อมสายนาฬิกาดีไซน์ใหม่เรียกว่า Solo Loop มีวัสดุให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ ซิลิโคน และ ด้ายถัก ทั้ง 2 แบบ มีให้เลือก 9 ขนาด เพื่อให้สวมใส่ได้พอดี เพราะไม่มีหัวล็อคหรือตัวล็อคแบบเดิม และยังมีสายแบบ Leather Link ที่ออกแบบมาให้พันรอบข้อมือ โดยแนบกับแม่เหล็กขึ้นรูปอย่างยืดหยุ่น

ฟีเจอร์ SpO2 วัดออกซิเจนในเลือด

Apple Watch Series 6 มีจุดเด่นที่แอพพลิเคชั่นและเซ็นเซอร์วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด หรือ SpO2 ซึ่งหมายถึงเปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนที่เซลล์เม็ดเลือดนำจากปอดไปยังส่วนที่เหลือของร่างกาย ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าออกซิเจนในกระแสเลือดได้รับการส่งผ่านไปทั่วร่างกายได้ดีเพียงใด

เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือดจะใช้ LED สีเขียว แดง และอินฟราเรดสี่กลุ่ม พร้อมกับโฟโต้ไดโอดสี่ตัวที่ฝาหลังคริสตัลของ Apple Watch เพื่อวัดแสงที่กระทบกลับจากเลือด จากนั้น Apple Watch จะใช้อัลกอริทึมขั้นสูงที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะที่มีอยู่ในแอพออกซิเจนในเลือด ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดระดับออกซิเจนในเลือดตั้งแต่ 70% ถึง 100% 

แอพออกซิเจนในเลือดสามารถทำการวัดเป็นระยะๆ โดยอัตโนมัติ ทำงานอยู่ในพื้นหลังเมื่อผู้สวมใส่ไม่ได้ใช้งาน Apple Watch รวมถึงขณะนอนหลับ ข้อมูลทั้งหมดจะแสดงในแอพสุขภาพ และผู้ใช้สามารถติดตามข้อมูลแนวโน้มเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อดูว่าระดับออกซิเจนในเลือดมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

ประสิทธิภาพ S6 เร็วขึ้นถึง 20% จอสว่างขึ้น 2.5 เท่า

Apple Watch Series 6 ได้รับชิป System in Package (SiP) รุ่น S6 ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์แบบ Dual-core 64-bit สามารถทำงานได้เร็วขึ้นถึง 20% ช่วยให้แอพเปิดได้เร็วขึ้น 20% เมื่อเทียบกับชิป S5 ของ Apple Watch Series 5 และยังมีชิป U1 พร้อมสายอากาศอัลตร้าไวด์แบนด์ ซึ่งเตรียมไว้รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ ในอนาคต 

Apple Watch Series 6 ยังคงใช้จอภาพ LTPO OLED Retina แบบติดตลอด ความสว่าง 1,000 นิต เหมือนที่พบในรุ่นก่อน แต่มีความสว่างมากกว่า Apple Watch Series 5 ถึง 2.5 เท่า ช่วยให้ดูหน้าปัดได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่ออยู่กลางแจ้ง ส่วนแบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง

มาพร้อม watchOS 7

Apple Watch Series 6 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ watchOS 7 มาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟิตเนสใหม่ รวมถึง VO2 Max ช่วงต่ำ, การติดตามการนอนหลับ, การตรวจจับการล้างมืออัตโนมัติ และการออกกำลังกายประเภทใหม่ๆ รวมถึงการเต้น จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจสุขภาวะโดยรวมของตนได้ดียิ่งขึ้น แอพแผนที่ยังได้รับการอัพเดทให้มาพร้อมเส้นทางการขี่จักรยานซึ่งดูได้ง่ายๆ จากบนข้อมือ และ Siri ก็สามารถแปลภาษาได้แล้ว นอกจากนี้ ยังได้รับหน้าปัดนาฬิกาใหม่ 7 แบบ และสามารถแชร์หน้าปัดกับคนอื่นได้ 

สรุป

Apple Watch Series 6 เป็น Apple Watch ที่มีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่ครบครันที่สุด แต่อาจจะไม่ถูกใจเจ้าของ Apple Watch Series 5 มากนัก เนื่องจากฟีเจอร์ส่วนใหญ่ยังพบได้ในรุ่นเดิม อย่างไรก็ตาม Apple Watch Series 6 ยังได้รับสีสันใหม่ ได้รับชิปรุ่นใหม่ที่ทำงานเร็วขึ้น 20%

และเป็น Apple Watch เพียงรุ่นเดียวที่มีเซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด ส่วนจะมีความสำคัญพอให้อัพเกรดจาก Series 5 มาเป็น Series 6 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน แต่ถ้าใครใช้ Apple Watch ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป หรือกำลังตัดสินใจชื้อ Apple Watch เป็นครั้งแรก นี่คือ Apple Watch ที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้

Apple Watch Series 6 เริ่มวางจำหน่ายแล้ว เฉพาะรุ่น GPS ราคาเริ่มต้น 13,400 บาท สำหรับขนาด 40 มม. และเริ่้มต้น 14,400 บาท สำหรับขนาด 44 มม. สำหรับ Apple Watch Series 6 รุ่น GPS + Cellular จะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ราคาเริ่มต้น 16,900 บาท




Tags: (PRODUCT)REDApple WatchApple Watch Series 6PreviewReview
ShareTweetShare

Related Posts

รีวิว Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 แบตเตอรี่พกพาความจุสูง ชาร์จเร็วสูงสุด 212W พกพาขึ้นเครื่องบินได้
Feature

รีวิว Xiaomi 212W HyperCharge Power Bank 24500 แบตเตอรี่พกพาความจุสูง ชาร์จเร็วสูงสุด 212W พกพาขึ้นเครื่องบินได้

May 20, 2025
รีวิว Sonos Arc Ultra สุดยอดลำโพง Soundbar ระดับพรีเมียม ระบบเสียงรอบทิศทาง 9.1.4 CH รองรับการควบคุมทั้ง iOS และ Andorid
Feature

รีวิว Sonos Arc Ultra สุดยอดลำโพง Soundbar ระดับพรีเมียม ระบบเสียงรอบทิศทาง 9.1.4 CH รองรับการควบคุมทั้ง iOS และ Andorid

May 19, 2025
รีวิว realme 14T 5G ประสิทธิภาพเหนือขีดจำกัด จอ 120Hz AMOLED Esports ดีไซน์พรีเมียม กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 แบตใหญ่ระดับ 6000mAh
Feature

รีวิว realme 14T 5G ประสิทธิภาพเหนือขีดจำกัด จอ 120Hz AMOLED Esports ดีไซน์พรีเมียม กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP69 แบตใหญ่ระดับ 6000mAh

May 15, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Apple Central World เชิญทุกท่านร่วมค้นพบพลังแห่งความรักและความภาคภูมิใจ กับ สายป่าน และ ไอวี่

Apple Central World เชิญทุกท่านร่วมค้นพบพลังแห่งความรักและความภาคภูมิใจ กับ สายป่าน และ ไอวี่

May 24, 2025
มาแล้ว Disney Lilo and Stitch x CASETiFY สีสันฉ่ำๆ ของฮาวาย ดีไซน์น่ารักจนเกินห้ามใจ

มาแล้ว Disney Lilo and Stitch x CASETiFY สีสันฉ่ำๆ ของฮาวาย ดีไซน์น่ารักจนเกินห้ามใจ

May 24, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');