Tuesday, August 16, 2022
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

แกะกล่องสัมผัสเครื่องจริง iPad Air 4 สีน้ำเงิน Sky Blue รุ่น Wi-Fi ความจุ 256GB เครื่องศูนย์ประเทศไทย

Jackrich T. by Jackrich T.
October 21, 2020
in Feature, iPhone, NEWS, Recommended, Review & Preview
0
SHARES
969
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Apple เปิดตัว iPad Air รุ่นที่ 4 พร้อมกับ iPad รุ่นที่ 8 ในดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่วางจำหน่าย iPad 8 ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่ง iPad 8 ไม่ได้ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ iPad Air 4 ได้พลิกโฉมการออกแบบใหม่หมด ดูคล้ายกับ iPad Pro มากขึ้น

และยังได้รับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด A14 Bionic ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลตัวแรกของโลก ที่ใช้กระบวนการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร ซึ่งตอนนี้ก็มาถึงมือของทีมงาน @flashfly เรียบร้อยแล้ว มาทำการแกะกล่องสัมผัสเครื่องจริงกันเลย

แกะกล่อง iPad Air 4 

มาเริ่มที่ตัวพลาสิกใสที่ห่อกล่อง iPad Air 4 ก็สามารถใช้มือดึงออกได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาหาอุปกรณ์ปลายแหลมใช้มีดหรือคัทเตอร์มาให้วุ่นวาย แถมยังปลอดภัยมากกว่าอีกด้วย

iPad Air รุ่นที่ 4 มาพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์สีขาวสะอาดตาตามสไตล์ Apple ด้านบนจะเป็นรูปด้านหน้าของตัวเครื่องที่มีภาพ Wallpaper ตามสีของตัวเครื่อง โดยสีที่ทีมงาน @flashfly นำมาทดสอบนั้นเป็นสีน้ำเงิน Sky Blue

ด้านข้างกล่องจะมีชื่อ iPad Air สีเงิน

ด้านหลังกล่องระบุความจุ 256GB ถัดลงมาระบุชื่อ iPad Air ( 4th Generation) Wi-Fi พร้อมรายละเอียดสิ่งที่อยู่ภายในกล่องด้วย

เมื่อเปิดฝากล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่อง iPad Air 4 ที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกมาอย่างดี

โดยมีแผ่นพลาสติกยื่นออกมาช่วยให้ดึง iPad ออกจากกล่องได้สะดวก

พลิกด้านหลังแล้วแกะห่อพลาสติกออก ยลโฉม iPad Air 4 สวยๆได้เลย

ชั้นถัดมาจะพบกับซองเอกสารสีขาว ภายในมีคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น เอกสารการรับประกันในรูปแบบภาษาไทย เอกสารจาก กสทช.

และแถมสติกเกอร์โลโก้ Apple มาให้ 2 ชิ้น บนแผ่นเดียวกัน 

ชั้นล่างเป็นช่องเก็บอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 20 วัตต์แบบเดียวกับที่แถมในรุ่น iPad 8 ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้า และสายเคเบิล USB-C ยาว 1 เมตร 

ดีไซน์

iPad Air รุ่นที่ 4 ได้รับการออกแบบใหม่หมด แตกต่างไปจาก iPad Air ทุกรุ่นก่อนหน้านี้ และมองเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ด้านหน้า ซึ่งมีส่วนคล้ายกับ iPad Pro ด้วยพื้นที่ขอบจอรอบด้านที่แคบลง และไม่มีปุ่มโฮมใต้หน้าจออีกต่อไปแล้ว

มิติบอดี้โดยรวมยังใกล้เคียงกับรุ่นก่อน แต่ iPad Air 4 มีขนาดจอแสดงผลใหญ่ขึ้นจากเดิม 10.5 นิ้ว ขยายเป็น 10.9 นิ้ว โดยใช้จอภาพ Liquid Retina ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล และรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2

เหนือจอแสดงผลติดตั้งกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ไม่ได้รับระบบกล้อง TrueDepth เหมือนกับ iPad Pro จึงไม่รองรับ Face ID ถึงแม้จะมีดีไซน์แบบเดียวกัน

iPad Air 4 เป็น iPad รุ่นแรกของ Apple ที่ติดตั้ง Touch ID รวมไว้กับปุ่มด้านบนหรือปุ่มเพาเวอร์ แทนการใช้กล้อง TrueDepth เพื่อสนับสนุน Face ID

ส่วนขอบด้านข้างยังคงรักษาความบางเฉียบที่ 6.1 มิลลิเมตร แต่ส่วนขอบนั้นแบนราบคล้ายกับ iPad Pro ไม่โค้งมนเหมือนรุ่นก่อน

ด้านข้างของ iPad Air 4 มีช่องต่อแบบแม่เหล็กสำหรับแนบติดกับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 

ด้านหลังมี Smart Connector สำหรับเชื่อมต่อกับ Magic Keyboard แบบ iPad Pro รวมถึง Smart Keyboard Folio 

พอร์ตเชื่อมต่อด้านล่างของ iPad Air 4 ถูกเปลี่ยนมาใช้ USB-C แทนที่พอร์ตเชื่อมต่อ Lightning จึงสนับสนุนอุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงได้หลากหลายและกว้างขวางมากขึ้น

iPad Air 3 มีให้เลือกเพียง 3 สี แต่ iPad Air 4 มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์, สีโรสโกลด์, สีเขียว และ สีสกายบลู โดยตัวเครื่องทำมาจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%

จอ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว

iPad Air 4 มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล ขนาด 10.9 นิ้ว ที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว ให้ความสว่าง 500 นิต รองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 การแสดงผลแบบ True Tone และได้รับการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน

จอแสดงผลของ iPad Air 4 ยังรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 แตกต่างจากรุ่นก่อนที่รองรับ Apple Pencil รุ่นแรก และมีช่องต่อแบบแม่เหล็กสำหรับแนบติดกับ Apple Pencil ที่ด้านข้าง เหมือนกับ iPad Pro

ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ A14 Bionic

iPad Air 4 เป็นผลิตภัณฑ์แรกของ Apple ที่ได้รับชิปประมวลผล A14 Bionic ซึ่งใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร ส่งผลให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น 40% และยังมาพร้อมจีพียูแบบ 4‑core ให้คุณภาพกราฟิกเร็วขึ้น 30% เมื่อเทียบกับชิป A12 Bionic 

นอกจากนี้ A14 Bionic ยังประกอบด้วย Neural Engine แบบ 16‑core สามารถประมวลผลกระบวนการต่างๆ ได้ถึง 11 ล้านล้านรายการต่อวินาที ช่วยให้ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของระบบเพิ่มขึ้นถึง 70% และช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลด้านการเรียนรู้ของระบบถึง 10 เท่า

กล้อง

iPad Air 4 มากล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/1.8 ขณะที่รุ่นก่อนมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/2.4 หมายความว่ากล้องหลังของ iPad Air  รุ่นใหม่นอกจากจะให้ความละเอียดที่สูงขึ้น ยังสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้นด้วย

กล้องหลังของ iPad Air 4 ยังสามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ขณะที่รุ่นก่อนถ่ายได้สูงสุดที่ระดับ HD 1080p และยังสามารถถ่ายภาพนิ่งความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ในระหว่างบันทึกวิดีโอระดับ 4K เรียกได้ว่าระบบกล้องหลังของ iPad Air 4 ได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ iPad Air 3

สำหรับกล้องหน้า ถึงแม้ยังคงใช้ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล เท่าเดิม แต่ iPad Air 4 รองรับฟีเจอร์ Smart HDR และสามารถถ่ายวิดีโอในระดับ 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ขณะที่รุ่นก่อนจำกัดที่ 30 เฟรมต่อวินาที และแน่นอนว่ากล้องหน้าของ iPad Air 4 ยังสนับสนุน FaceTime การโทรแบบวิดีโอ

แบตเตอรี่

iPad Air 4 ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมพอลิเมอร์ขนาด 28.6 วัตต์ต่อชั่วโมง ขณะที่รุ่นก่อนมีขนาด 30.2 วัตต์ต่อชั่วโมง แต่ iPad Air 4 ยังคงให้อายุการใช้งานยาวนานเท่ารุ่นก่อน สามารถดูวิดีโอหรือท่องเว็บผ่าน Wi‑Fi ได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง หรือถ้าใช้ Cellular ก็จะลดลง 1 ชั่วโมงเท่ากัน 

ส่วนความแตกต่างที่ชัดเจนก็คือ iPad Air 4 ได้เปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อมาใช้ USB‑C และแถมอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 20 วัตต์ มาให้ในกล่อง

ระบบปฏิบัติการ iPadOS 14

iPad Air 4 มาพร้อม iPadOS 14 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ iPad ให้ตอบสนองการทำงานได้มากขึ้น ทำงานร่วมกับ Apple Pencil ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะฟีเจอร์ Smart Selection ใช้การเรียนรู้ของระบบในตัวอุปกรณ์เพื่อแยกแยะระหว่างลายมือและรูปวาด สามารถวาดรูปทรงเรขาคณิตได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

อุปกรณ์เสริม

iPad Air 4 ถูกออกแบบมาให้รองรับ Magic Keyboard แบบเดียวกับที่เคยนำมาใช้เป็นครั้งแรกกับ iPad Pro รวมถึงยังใช้งาน Smart Keyboard Folio และ Smart Folio ของ iPad Pro ได้เช่นเดียวกัน

iPad Air 4 รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ซึ่งออกแบบมาให้ยึดติดของด้านข้าง iPad ด้วยแม่เหล็ก และเมื่อยึดติดกันแล้วจะเป็นการจับคู่โดยอัตโนมัติ รวมถึงชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ Apple Pencil ในแบบไร้สาย

ราคา

iPad Air 4 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่สีเทา Space Gray,สีเงิน Silver, สีชมพู Rose Gold,สีเขียว Green และสีไฮไลท์สีฟ้า Sky Blue โดยแบ่งออกเป็น 2 เวอร์ชั่น 2 ความจุ และมีราคาแตกต่างกันดังนี้

  • iPad Air 4 รุ่น Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา 19,900 บาท
  • iPad Air 4 รุ่น Wi-Fi ความจุ 256GB  ราคา 24,900 บาท
  • iPad Air 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB ราคา 24,400 บาท
  • iPad Air 4 รุ่น Wi-Fi + Cellular ความจุ 256GB ราคา 29,400 บาท

ราคาอุปกรณ์เสริม

  • Magic Keyboard ราคา 9,990 บาท 
  • Smart Keyboard Folio ราคา 5,990 บาท
  • Smart Folio ราคา 2,990 บาท
  • Apple Pencil รุ่นที่ 2 ราคา 4,490 บาท

สรุป

iPad Air รุ่นที่ 4 ถูกยกเครื่องใหม่หมดทั้งการออกแบบและประสิทธิภาพ ด้านการออกแบบมีความพรีเมี่ยมไม่ต่างไปจาก iPad Pro ด้านประสิทธิภาพก็ทรงพลังกว่าแล็ปท็อปหลายรุ่นในตลาด ทำให้ iPad Air 4 เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหา iPad หรือ แท็บเล็ตประสิทธิภาพสูง ที่ตอบโจทย์การทำงานได้เทียบเท่า iPad Pro แต่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า iPad Pro และยังตอบสนอบความบันเทิงหรือการใช้งานโดยรวมได้ดีกว่า iPad รุ่นที่ 8



Tags: iPad Air 4PreviewReviewSky Blueunbox
ShareTweetShare

Related Posts

แกะกล่องพรีวิว vivo V25 5G  ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ กล้องหน้า 50MP พร้อม Eye AF Selfie กล้องหลัง 64MP มี OIS
Feature

แกะกล่องพรีวิว vivo V25 5G ฝาหลังเปลี่ยนสีได้ กล้องหน้า 50MP พร้อม Eye AF Selfie กล้องหลัง 64MP มี OIS

August 14, 2022
รีวิว HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตระดับโปรมาพร้อมจอ OLED 120Hz ลำโพง 6 ตัวชาร์จเร็ว 66W รองรับฟีเจอร์ Super Device
Feature

รีวิว HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตระดับโปรมาพร้อมจอ OLED 120Hz ลำโพง 6 ตัวชาร์จเร็ว 66W รองรับฟีเจอร์ Super Device

August 10, 2022
รีวิว OPPO Reno8 5G ถ่ายคนสวยในทุกสภาพแสงและ OPPO Reno8 Pro 5G ถ่ายคนสวยแบบโปร สานต่อความเป็น The Portrait Expert ดีไซน์สุดพรีเมี่ยม ชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC  
Feature

รีวิว OPPO Reno8 5G ถ่ายคนสวยในทุกสภาพแสงและ OPPO Reno8 Pro 5G ถ่ายคนสวยแบบโปร สานต่อความเป็น The Portrait Expert ดีไซน์สุดพรีเมี่ยม ชาร์จเร็ว 80W SUPERVOOC  

August 8, 2022
Load More

Stay Connected

  • 32.7k Followers
  • 13.4k Subscribers
  • 1000 Subscribers
  • รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    รีวิว HUAWEI nova Y70 จอใหญ่ 6.75 นิ้ว กล้องหลัง 48MP ความจุ 128GB แบตอึดสะใจ 6000mAh ชาร์จไว พร้อมใช้งาน LINE ได้ตามปกติแล้ว ราคาเพียง 5,999 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • หลุด!! ราคา iPhone 14 Series ทั้ง 4 รุ่น ปรับราคาขึ้นอีกราว 3,300 บาท เริ่มต้นราว 26,300 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max จะมาในราคาที่แพงกว่าเดิม คาดราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0
  • ยลโฉมเครื่องดัมมี่ iPhone 14,iPhone 14‌ Max,iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro‌ Max ใหม่ล่าสุด (ชมคลิป)

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Flashfly Dot Net

www.flashfly.net

Follow Us

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

ลือ!! HUAWEI Mate X3 สมาร์ทโฟนจอพับได้ จะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ลือ!! HUAWEI Mate X3 สมาร์ทโฟนจอพับได้ จะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

August 15, 2022
vivo Y35 เปิดตัวแล้ว!!  ใช้ชิป Snapdragon 680 ชาร์จเร็ว 44W กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera

vivo Y35 เปิดตัวแล้ว!! ใช้ชิป Snapdragon 680 ชาร์จเร็ว 44W กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera

August 15, 2022
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net.

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net.