Monday, June 2, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

รีวิว OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro สุดยอดแฟลกชิปครั้งแรกกับการจับมือแบรนด์กล้องชั้นนำระดับโลก Hasselblad พร้อมแท่นชาร์จไร้สาย Warp Charge 50 Wireless Charger

Jackrich T. by Jackrich T.
July 17, 2021
in Feature, NEWS, Recommended, Review & Preview
178
SHARES
21.2k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

หลังจากเปิดตัวในระดับโลกช่วงปลายเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมาในที่สุด OnePlus 9 Series 5G สมาร์ทโฟนเรือธงที่หลายคนรอคอยก็มาถึงมือของทีมงาน @flashflyเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ OnePlus ที่ทำงานร่วมกับแบรนด์กล้องชั้นนำระดับโลกอย่าง Hasselblad เพื่อพัฒนาระบบกล้องให้มีคุณภาพมากกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของ OnePlus ที่ได้มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดแก้แฟน OnePlus ทุกคนทั่วโลก ตามมาดูกันได้เลยว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

สเปก OnePlus 9 5G

  • จอแสดงผล 120Hz, Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว 
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint Sensor)
  • กล้องหลัง 48MP (Main) + 50MP (Ultra-Wide) + 2MP (Monochrome)
  • กล้องหน้า 16MP 
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
  • ความจำ RAM 8GB แบบ LPDDR5 + ROM 128GB แบบ UFS 3.1 2-LANE
  • การเชื่อมต่อ 5G,  Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C (USB 3.1 GEN1)
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Electronic Compass, Gyroscope, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Barometer, Sensor Core, Flicker-detect Sensor, Front RGB sensor
  • ระบบนำทาง GPS (L1+L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1+E5a Dual Band), Beidou, A-GPS
  • ลำโพงคู่ Stereo Speakers, ระบบเสียง Dolby Atmos
  • ระบบปฏิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 11
  • แบตเตอรี่ 4,500mAh
  • รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 15W
  • ขนาดบอดี้ 160 x 74.2 x 8.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 192 กรัม
  • มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Winter Mist, Arctic Sky, Astral Black

สเปก OnePlus 9 Pro 5G

  • จอแสดงผล 120Hz, Fluid Display 2.0 (Curve Display) ขนาด 6.7 นิ้ว 
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint Sensor)
  • กล้องหลัง 48MP (Main) + 50MP (Ultra-Wide) + 8MP (Telephoto) + 2MP (Monochrome)
  • กล้องหน้า 16MP 
  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
  • ความจำ RAM 12GB แบบ LPDDR5 + ROM 256GB แบบ UFS 3.1 2-LANE
  • การเชื่อมต่อ 5G,  Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, Bluetooth 5.2, NFC, USB Type-C (USB 3.1 GEN1)
  • เซ็นเซอร์ Accelerometer, Electronic Compass, Gyroscope, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Barometer, Sensor Core, Flick-detect Sensor, Front RGB sensor
  • ระบบนำทาง GPS (L1+L5 Dual Band), GLONASS, Galileo (E1+E5a Dual Band), Beidou, A-GPS
  • ลำโพงคู่ Stereo Speakers, ระบบเสียง Dolby Atmos
  • ระบบปฏิบัติการ OxygenOS บนพื้นฐาน Android 11
  • แบตเตอรี่ 4,500mAh
  • รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W
  • ขนาดบอดี้ 163.2 x 73.6 x 8.7 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 197 กรัม
  • ป้องกันน้ำในระดับ IP68
  • มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Morning Mist, Pine Green, Stellar Black

แกะกล่อง OnePlus 9 และ  OnePlus 9 Pro

OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ถูกเก็บไว้ในกล่องสีแดงเหมือนกัน หน้ากล่องระชื่อรุ่นไว้ชัดเจน พร้อมด้วยข้อความ Co-developed with Hasselblad แสดงถึงความร่วมกันระหว่าง 2 บริษัท พลิกมาดูที่หลังกล่องจะเห็นว่าตัวกล่องจริงๆ นั่นสีดำ ติดฉลากสติกเกอร์บอกชื่อรุ่น ความจำ สีสัน หมายเลขรุ่น หมายเลขอีมี่ ติดโลโก้ผู้ผลิตชิป ระบบเสียง และส่วนล่างติดโลโก้ Android พร้อมข้อความบอกว่า สามารถเข้าถึงแอปของ Google ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อยกฝากล่องสีแดงออกไป สิ่งแรกที่เห็นก็คือด้านหลังของสมาร์ทโฟน โดย OnePlus 9 5G มาในสี Winter Mist และยังมีสี Arctic Sky กับ Astral Black ให้เลือกด้วย ส่วน OnePlus 9 Pro 5G มาในสี Morning Mist และยังมีสี Pine Green กับ Stellar Black เป็นอีกทางเลือก สมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น นอนอยู่บนถาดรองสีขาว ที่มีสโลแกน Never Settle และได้รับการห่อหุ้มด้วซองพลาสติกมาอย่างดี พร้อมบอกตำแหน่งของชิป NFC และขดลวดวงกลมสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย 

ด้านหน้าจอของทั้ง OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ได้รับการติดฟิล์มป้องกันรอยมาให้แล้ว ถัดลงมาจะพบกับเคสที่แถมมาให้ โดย OnePlus 9 5G ได้รับเคสใส ส่วน OnePlus 9 Pro 5G ได้รับเคสแบบทึบแสงสีเทา

ทั้ง 2 กล่อง ได้รับสายชาร์จแบตเตอรี่ USB Type-C เส้นสีแดง

และมาพร้อม USB-C Power Adapter หรือ อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ Warp Charge 65 ซึ่งหมายความว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 65W (10V/6.5A)

สำหรับซองเอกสารสีแดง ถูกซ่อนไว้ใต้ฝากล่อง ภายในบรรจุแผ่นกระดาษข้อความต้อนรับ พร้อมแนบเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดมาให้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีคู่มือแนะนำการใช้งานเบื้องต้น, ข้อมูลด้านความปลอดภัย และ ใบรับประกัน

ดีไซน์พรีเมียม

OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมียม สมกับเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง และทั้งคู่ยังมีการแชร์ดีไซน์ร่วมกัน แต่ก็มองเห็นความแตกต่างได้ไม่ยาก เนื่องจาก OnePlus 9 5G ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ส่วน OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว ขอบจอโค้ง และมีมิติตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย

โครงสร้างของ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมที่มีความบาง 2.2 มิลลิเมตร ขณะที่ขอบด้านข้างของทั้งคู่มีความบางเท่ากัน 8.7 มิลลิเมตร และยังถูกออกแบบมาให้มีความสมดุล ด้านหลังโค้งรับฝ่ามือ เพื่อให้ผู้ใช้งานถือสมาร์ทโฟนได้อย่างสบายมือเป็นเวลานาน

OnePlus 9 Series 5G มีให้เลือก 3 สี ที่แตกต่างกัน แต่ล้วนได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ OnePlus 9 5G มาพร้อมสสีม่วง Winter Mist, สีฟ้า Arctic Sky และ สีดำ Astral Black ขณะที่ OnePlus 9 Pro 5G มาในสีเทา Morning Mist, สีเขียว Pine Green และ สีดำ Stellar Black 

ดีไซน์ด้านหน้าของทั้งคู่ ก็มีความแตกต่างที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีการเจาะหลุมไว้ที่มุมบนเพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี่ไว้ใต้หน้าจอเหมือนกัน แต่ OnePlus 9 Pro 5G ก็มีความโดดเด่นกว่า เพราะใช้จอแสดงผลแบบขอบมุมโค้งทั้ง 2 ข้าง โดยมีการปรับแต่งสัดส่วนการโค้งของหน้าจอให้เล็กลง เพื่อลดการเปลี่ยนสีและการมองเห็นที่เพี้ยนไป

OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล Fluid Display 2.0 (Curve Display) ความละเอียด Quad HD+ ขนาด 6.7 นิ้ว และใช้เทคโนโลยี LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ส่วนจอแสดงผลของ OnePlus 9 5G เป็นแบบ Fluid Display ความละเอียด Full HD+ ขนาด 6.55 นิ้ว ทำให้ OnePlus 9 Pro 5G มีมิติตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย แต่ในมิติอื่นๆ ทั้งความกว้าง ความบาง และ น้ำหนัก เกือบจะมองไม่เห็นความแตกต่าง

ด้านหน้าของทั้ง 2 รุ่น ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass และด้านหลังก็ใช้กระจกเช่นเดียวกัน เพื่อสนับสนุนการชาร์จไร้สาย  

ขอบด้านข้างของทั้งคู่ มีความบางเท่ากัน 8.7 มิลลิเมตร และมีการจัดวางปุ่มควบคุมในตำแหน่งเดียวกัน ด้านซ้ายมือจะพบปุ่มปรับระดับเสียง

อีกข้างมีปุ่ม Alert Slider ที่เป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟน OnePlus สำหรับสไลด์เพื่อใช้เปิดเสียง, ปิดเสียง และ สั่น ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์

ด้านบนจะพบรูไมโครโฟรตัวที่ 2 ช่วยให้ OnePlus 9 Series 5G สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างได้

ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ Nano SIM ใบเดียว ใกล้กันมีรูไมโครโฟน ถัดมาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C (USB 3.1 GEN1) และตะแกรงลำโพง นอกจากนี้ OnePlus 9 Pro 5G ยังได้รับการออกแบบมาให้สามารถต้านทานน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP68 แต่ OnePlus 9 5G ไม่ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำ จึงต้องเพิ่มความระวังในการใช้งานเมื่ออยู่ใกล้น้ำ

จอแสดงผล 120Hz ระดับ A+ จาก DisplayMate

OnePlus 9 Pro 5G สร้างความแตกต่างจากรุ่นน้องที่ออกมาพร้อมกัน ด้วยการใช้จอแสดงผลแบบ Fluid Display 2.0 ขอบมุมโค้ง ให้ความคมชัดด้วยจอภาพ OLED ระดับไฮเอนด์ มาพร้อมเทคโนโลยี LTPO (โพลีคาร์บอเนตออกไซด์อุณหภูมิต่ำ) และ เทคโนโลยีพิเศษ BackPlane ที่ทันสมัยที่สุด ช่วยให้จอแสดงผลของ OnePlus 9 Pro 5G รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้โดยอัตโนมัติ ในช่วง 1Hz ไปจนถึง 120Hz 

อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้สมาร์ทโฟนใช้พลังงานน้อยลงเป็นอย่างมาก และยังคงตอบสนองการสัมผัสอย่างลื่นไหล อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Hyper Touch ช่วยให้ทัชได้เร็วมากขึ้นเมื่อเล่นเกม โดยการเพิ่มความเร็วในการซิงค์ระหว่างโปรเซสเซอร์และจอแสดงผลเป็น 360Hz เร็วกว่าเดิมถึง 6 เท่า

จอแสดงผลของ OnePlus 9 Pro 5G มีความละเอียด 3216 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 525ppi อัตราส่วนภาพ 20.1:9 ความลึกสี 10-bit รองรับ HDR10+, sRGB, Display P3 ความสว่างสูงสุดถึง 1,300 nits พร้อมเทคโนโลยี MEMC ปรับอุณหภูมิสีอัตโนมัติ โดยการตรวจจับแสงโดยรอบ และยังให้สีที่แม่นยำเป็นธรรมชาติที่สุดด้วยค่า JNCD ที่น้อยกว่า 1.0 จนได้รับคะแนนระดับ A + จาก DisplayMate

OnePlus 9 5G ใช้จอแสดงผลแบบ Fluid Display เป็นจอแบนแบบเดียวกับ OnePlus 8T ให้สีสันสวยงามด้วยจอภาพ AMOLED รับรอง HDR10+, sRGB, Display P3 พร้อมความแม่นยำของสีที่สุดในอุตสาหกรรมและการควบคุมความสว่างอัตโนมัติที่ดีขึ้น และได้รับคะแนนระดับ A+ เช่นเดียวกัน

จอแสดงผลของ OnePlus 9 5G มีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.55 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 402ppi อัตราส่วนภาพ 20:9 ให้ความสว่างสูงสุด 1,100 nits รองรับอัตราการรีเฟรช 120Hz และมีฟีเจอร์ Comfort Tone ช่วยปรับอุณหภูมิสีของจอแสดงผลให้เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบข้าง เพื่อให้สามารถจ้องหน้าจอสำหรับอ่านหนังสือหรือบทความต่างๆ ได้สบายตายิ่งขึ้น

สแกนลายนิ้วมือใต้จอแสดงผล

OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อม In-display Fingerprint Sensor ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล จึงรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเพื่อปลดล็อค หรือ ยืนยันตัวตน ซึ่งสามารถอ่านลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว และ แม่นยำ แต่ตำแหน่งเซ็นเซอร์ดูเหมือนจะอยู่ชิดขอบหน้าด้านล่างมากไปสักหน่อย แต่ไม่มีปัญหาในการใช้งานถ้าหากใช้มือหนึ่งจับสมาร์ทโฟนและใช้มือที่ว่างในการสแกน

นอกเหนือจากการสแกนลายนิ้วมือ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ยังสามารถใช้กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ด้วยฟีเจอร์ Face Unlock

OnePlus ร่วมมือกับ Hasselblad

OnePlus และ Hasselblad ได้ทำงานร่วมกันในระยะยาว เพื่อยกระดับกล้องของสมาร์ทโฟนเรือธงจากแบรนด์ OnePlus และ OnePlus 9 5G กับ OnePlus 9 Pro 5G ก็เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาจากความร่วมมือดังกล่าว 

Hasselblad ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1841 โดยนาย Victor Hasselblad เป็นผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีกล้องประสิทธิภาพสูง มาเป็นกล้องและเลนส์ดิจิทัลขนาดกลาง (Medium Format) แบรนด์แรกของโลก และเป็นที่เป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพความละเอียดของไฟล์ภาพที่ยอดเยี่ยม กลไกและสีที่แม่นยำ เป็นธรรมชาติ สมบูรณ์แบบในการถ่ายภาพทุกประเภท ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากช่างภาพมืออาชีพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกให้เก็บภาพประวัติศาสตร์หรือบุคคลดังระดับโลกไว้มากมายหลายเหตุการณ์ รวมถึงภาพถ่ายก้าวแรกของมนุษย์บนดวงจันทร์ก็ถูกบันทึกด้วยกล้องของ Hasselblad

เพื่อนำคุณภาพกล้องระดับมือโปรมาสู่กล้องสมาร์ทโฟน OnePlus จึงได้ทำงานร่วมกับ Hasselblad ในระยะยาว (Long-term partnership) เพื่อส่งมอบระบบกล้องที่ได้รับการปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดบนสมาร์ทโฟน OnePlus โดยเริ่มจากการปรับปรุงซอฟต์แวร์ รวมถึงการปรับแต่งสีและการปรับเทียบเซ็นเซอร์และขยายไปยังมิติอื่นๆ ในอนาคต

OnePlus และ Hasselblad จะร่วมกันกำหนดมาตรฐานเทคโนโลยีของประสบการณ์กล้องมือถือ และพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อปรับปรุง Hasselblad Camera for Mobile อย่างต่อเนื่องทั้ง 2 รุ่น ใน OnePlus 9 Series 5G 

กล้องหลังจาก Hasselblad

กล้องหลังของ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G เกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง OnePlus กับ Hasselblad ได้รับการปรับเทียบสีขั้นสูง การตรวจสอบและการปรับแต่งอย่างละเอียด ด้วยระบบสีใหม่ Natural Color Calibration with Hasselblad เพื่อให้ได้สีที่แม่นยำ และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยกล้องเรือธงจาก OnePlus 

โหมดถ่ายภาพของสมาร์ทโฟน OnePlus 9 Series 5G ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยอินเทอร์เฟซอย่าง Hasselblad Pro Mode ที่ใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพของ Hasselblad เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับรูปลักษณ์ ประสบการณ์ และความรู้สึกที่แท้จริงของ Hasselblad ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกดถ่ายภาพหรือวิดีโอที่เป็นสีส้ม รวมถึงเสียงกดปุ่มชัตเตอร์เหมือนกับกล้อง Hasselblad นอกจากนี้ ยังช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถควบคุมการปรับแต่งภาพถ่ายอย่างละเอียดได้ พร้อมความสามารถในการปรับ ISO, โฟกัส, เวลาเปิดรับแสง, ไวต์บาลานซ์ และยังสามารถใช้รูปแบบไฟล์ RAW 12 bit เพื่อให้ได้สีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ระบบกล้องหลังของ OnePlus 9 Pro 5G

  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX789) รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43″ ขนาดพิกเซล 1.12µm เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 23 มม. มีระบบกันสั่น OIS
  • กล้อง Ultra-Wide 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX766) รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″ เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 14 มม. 
  • กล้อง Telephoto 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดพิกเซล 1.0µm มีระบบกันสั่น OIS
  • กล้อง Monochrome 2 ล้านพิกเซล

กล้องหลักของ OnePlus 9 Pro 5G ใช้เซ็นเซอร์ IMX789 ขนาด 1/1.43″ ของ Sony พร้อมด้วยด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ เลนส์ 2×2 บนชิป (OCL), ไฟล์ RAW 12 บิต, ISO แบบคู่ และ DOL-HDR ให้ความเร็วในการโฟกัสที่เร็วขึ้น ข้อมูลสีเพิ่มขึ้น 4 เท่า เพื่อความแม่นยำของสีที่มากขึ้น ภาพกลางวันและกลางคืนที่คมชัดยิ่งขึ้น และลดความเบลอของภาพเคลื่อนไหวในวิดีโอ

กล้อง Ultra-Wide ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766 ขนาด 1/1.56″ ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพและลดจุดรบกวนบนภาพ โดยใช้เลนส์ Freeform ทำให้ความผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวขอบของภาพถ่ายลดลงเหลือประมาณ 1% และยังช่วยถ่ายภาพมาโครคุณภาพสูงได้จากระยะใกล้วัตถุถึง 4 เซนติเมตร

กล้อง Telephoto รองรับการซูม 3.3 เท่าแบบออปติคอล (77 มม.) พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) และสามารถซูมออกได้สูงสุด 30 เท่าแบบดิจิทัล

กล้อง Monochrome จะทำงานร่วมกับกล้องหลัก เพื่อเพิ่มรายละเอียดและการจัดเลเยอร์ให้กับภาพถ่ายขาวดำ ในขณะที่การปรับความเอียงแบบใหม่ จะจำลองเอฟเฟกต์ขนาดเล็กพิเศษของเลนส์ปรับเอียง เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่สร้างสรรค์ยิ่งขึ้น

ระบบกล้องหลังของ OnePlus 9 5G

  • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (Sony IMX689) รูรับแสง f/1.8 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.43″ ขนาดพิกเซล 1.12µm เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 23 มม. 
  • กล้อง Ultra-Wide 50 ล้านพิกเซล (Sony IMX766) รูรับแสง f/2.2 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56″ เลนส์ 7P ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 14 มม. 
  • กล้อง Monochrome 2 ล้านพิกเซล

ระบบกล้องหลังของ OnePlus 9 5G มีรายละเอียดใกล้เคียงกับ OnePlus 9 Pro 5G แต่ขาดกล้อง Telephoto และกล้องตัวหลักใช้เซ็นเซอร์ที่ต่างออกไป และไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS แต่ได้รับกล้อง Ultra-Wide กับกล้อง Monochrome ชุดเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม กล้องหลังของ OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมฟีเจอร์และโหมดการถ่ายภาพแบบเดียวกัน อย่าง Nightscape, Super Macro, UltraShot HDR, Smart Scene Recognition, Portrait mode, Pro mode, Panorama, Tilt-shift mode, Focus Peaking, Cat/Dog Face Focus และ RAW Image

การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังของทั้งคู่ ก็ให้ประสบการณ์เดียวกัน สามารถถ่ายวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด 8K (ทั้งกล้องหลัก และ Ultra-Wide) ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที (4K ที่อัตรา 120 เฟรมต่อวินาที) รองรับโหมด Super Slow Motion (1080p @ 240fps หรือ 720p @ 480fps), Time-Lapse (1080p @ 30fp หรือ 4K @ 30fps), Video Nightscape, Video HDR, Video Portrait, Focus Tracking, Hyperlapse, Super Stable และยังมี Video Editor สำหรับติดต่อวิดีโอ ไม่ต้องลงแอปเพิ่ม

กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล

ถึงแม้กล้องหลังของทั้งคู่จะมีความแตกต่างกันบ้าง แต่ในส่วนของกล้องหน้า OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ใช้โมดูลเดียวกัน โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX471 รูรับแสง f/2.4 ขนาดพิกเซล 1.0µm และใช้ระบบกันสั่นแบบ EIS 

กล้องหน้าของ OnePlus 9 Series 5G รองรับฟีเจอร์ HDR, Portrait, Screen Flash, Face Retouching, Time-Lapse และสามารถถ่ายวิดีโอ ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที 

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง

ชิปเซ็ต Snapdragon 888 RAM 12GB

OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเดียวกันและเป็นชิประดับเรือธงที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้ของ Qualcomm นั่นก็คือ Snapdragon 888 ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีการผลิต 5 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.84GHz ที่มีเทคโนโลยี Arm Cortex-X1 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 25% พร้อมด้วยจีพียู Adreno 660 ให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น 35% และยังประหยัดพลังงานมากขึ้น เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน 

OnePlus 9 Series 5G ยังมีระบบระบายความร้อนถึง 5 ชั้น ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เรียกว่า OnePlus Cool Play ช่วยระบายความร้อนระหว่างการเล่นเกม ช่วยให้ประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนคงที่ เล่นเกมได้ราบรื่นเป็นเวลานาน พร้อมด้วย Pro Gaming Mode ช่วยปลดล็อคประสิทธิภาพของซีพียูและจีพียู เพื่อให้เล่นเกมด้วยอัตราเฟรมเรทที่ลื่นไหล และยังมีฟีเจอร์บล็อคการแจ้งเตือนแอป การโทร และการรบกวนอื่นๆ เพื่อโฟกัสการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่

ด้านความจำ OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น ใช้ความจำ RAM แบบ LPDDR5 ความจุในตัวแบบ UFS 3.1 ทำงานเร็วกว่า LPDDR4X ถึง 1.5 เท่า และมีความเร็วสูงถึง 6,400Mbps ช่วยให้การอ่านหรือโหลดรวมไปถึงการบันทึกข้อมูลมีความรวดเร็ว แต่ทั้ง 2 รุ่น มีขนาดความจำแตกต่างกัน (OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อม RAM 12GB + ROM 256GB ส่วน OnePlus 9 5G ได้รับ RAM 8GB + ROM 128GB)

รองรับ 5G พร้อมใช้งานทันที

ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888 ทำให้ OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G สนับสนุนการเชื่อมต่อ 5G ทั้ง 2 รุ่น พร้อมใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศไทยทันทีตั้งแต่แกะกล่อง และยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax (2.4/5GHz), 2×2 MIMO หรือ Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุด จึงทำความเร็วในการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรมากกว่า Wi-Fi 5 ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ แต่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi Router ที่สนับสนุน Wi-Fi 6 ด้วยเช่นกัน

ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11

OnePlus 9 Series 5G ทำงานบนระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 (บนพื้นฐาน Android 11) ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาให้มีประสิทธิภาพที่รวดเร็วขึ้น มีความปลอดภัยให้ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น และออกแบบ UI มาอย่างเรียบง่าย ใช้งานง่ายด้วยมือเดียว

OxygenOS 11 มาพร้อม Turbo Boost 3.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพหน่วยความจำ ทำให้ข้อมูลบน RAM มีขนาดเล็กลง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิดแอปต่างๆ ที่รันไว้ได้มากกว่าเดิมถึง 25%

แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Warp Charge 65T และ Warp Charge 50 Wireless

OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G ได้รับความจุแบตเตอรี่เท่ากัน 4,500mAh แบบเซลล์คู่ หรือ ใช้แบตเตอรี่ 2 ก้อน ก้อนละ 2,250mAh ซึ่งมีข้อดีที่ช่วยลดความต้านทานภายใน และลดความร้อนขณะชาร์จ เหมาะสำหรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ที่ทั้งคู่รองรับ Warp Charge 65T หรือ ชาร์จเร็วแบบใช้สาย 65W (10V/6.5A) ใช้เวลาในการชาร์จจาก 1 – 100% เพียง 29 นาที

ภายในกล่อง OnePlus 9 5G และ OnePlus 9 Pro 5G มาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จเร็วแบบใช้สาย 65W ไม่ต้องซื้อเพิ่ม และยังสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนที่ไม่ใช่แบรนด์ OnePlus รวมถึงแท็บเล็ต และแล็ปท็อป ได้สูงสุด 45W โดยใช้ USB PD หรือ PPS

OnePlus 9 Pro 5G ยังสนับสนุน Warp Charge 50 Wireless ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ OnePlus และเร็วที่สุดในอุตสาหกรรม ด้วยเซลล์แบตเตอรี่แบบคู่ รองรับการชาร์จ 25W ทำให้ Warp Charge 50 Wireless เหนือกว่าการชาร์จเร็วแบบมีสายส่วนใหญ่ สามารถชาร์จจาก 1 – 100% ในเวลาเพียง 43 นาที ขณะที่ OnePlus 9 5G รองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 15W

OnePlus Warp Charge 50 Wireless Charger

เนื่องจาก OnePlus ไม่ได้แถมอุปกรณ์ชาร์จไร้สายมาให้ ดังนั้น OnePlus Warp Charge 50 Wireless Charger จึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่เจ้าของ OnePlus 9 Pro 5G ควรซื้อไว้ใช้งานคู่กันโดย OnePlus Warp Charge 50 Wireless Charger เป็นอุปกรณ์ชาร์จไร้สายที่ได้รับการออกแบบใหม่ มาพร้อมกับขดลวดชาร์จ 2 ชุด จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ OnePlus 9 Pro 5G ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะวางสมาร์ทโฟนในแนวตั้งหรือแนวนอน

สรุปการวางจำหน่ายในประเทศไทย

OnePlus 9 Series 5G ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ให้ความพรีเมียม จอแสดงผลสวยงาม ประสิทธิภาพสูง การเชื่อมต่อครบครัน กล้องดิจิทัลคมชัด โดย OnePlus 9 Pro 5G จะเหนือกว่าที่จอแสดงผลแบบขอบมุมโค้ง มีกล้อง Telephoto รองรับการซูมแบบออปติคอล มีระบบกันสั่น OIS และจอแสดงผลรสามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้อัตโนมัติ

สรุปแล้ว OnePlus 9 Pro 5G เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของ OnePlus โดยเน้นไปที่การรับชมคอนเท้นต์วิดีโอ และการถ่ายภาพ ขณะที่ OnePlus 9 5G ก็มีประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพียงแต่ขาดกล้อง Telephoto ชาร์จไร้สายได้ช้ากว่า แต่ถ้าเน้นเล่นเกม เชื่อว่าจอแบนของ OnePlus 9 5G ก็เพียงพอแล้ว โดยตอนนี้ (กรกฎาคม 2564) ทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายทางการในประเทศไทยแต่อย่างใด มีเพียง OnePlus Nord CE ที่เป็นรุ่นล่าสุดที่ทาง OnePlus ประเทศไทยทำการตลาดเท่านั้น




Tags: HasselbladOnePlusOnePlus 9OnePlus 9 ProReview
ShareTweetShare

Related Posts

รีวิว realme GT 7 Series นักฆ่าเรือธงแห่งปี 2025 มาพร้อมแบต 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge ฝาหลัง Graphene รุ่นแรกของโลก
Feature

รีวิว realme GT 7 Series นักฆ่าเรือธงแห่งปี 2025 มาพร้อมแบต 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge ฝาหลัง Graphene รุ่นแรกของโลก

May 31, 2025
รีวิว HUAWEI WATCH FIT 4 Pro ราคาไม่อัลตร้า แต่กล้าให้ฟีเจอร์ระดับโปร! โหมดกีฬาระดับโปร รองรับ ECG โดดเด่นด้วยดีไซน์เท่ แบตอึดยาวนาน
Feature

รีวิว HUAWEI WATCH FIT 4 Pro ราคาไม่อัลตร้า แต่กล้าให้ฟีเจอร์ระดับโปร! โหมดกีฬาระดับโปร รองรับ ECG โดดเด่นด้วยดีไซน์เท่ แบตอึดยาวนาน

May 29, 2025
รีวิว OPPO Watch X2 สมาร์ตวอตช์ระดับพรีเมียม สร้างสรรค์เพื่อความเป็นเลิศ แรงบันดาลใจแห่งท้องฟ้า
Feature

รีวิว OPPO Watch X2 สมาร์ตวอตช์ระดับพรีเมียม สร้างสรรค์เพื่อความเป็นเลิศ แรงบันดาลใจแห่งท้องฟ้า

May 26, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วิธีเปลี่ยนภาพความละเอียดต่ำให้คมชัดด้วยเทคโนโลยี AI ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆได้ที่นี่

    2 shares
    Share 2 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

ONE PIECE ซีซั่น 2 จะออกอากาศในปี 2026 มาพร้อม โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์

ONE PIECE ซีซั่น 2 จะออกอากาศในปี 2026 มาพร้อม โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์

June 1, 2025
Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ ปลดล็อกทุกขีดจำกัดของการเล่นเกม

Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ ปลดล็อกทุกขีดจำกัดของการเล่นเกม

June 1, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');