Thursday, December 18, 2025
  • Contact us
Flashfly Dot Net
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
  • Home
    • Flashfly Online Channel
    • Feature
    • Tips&Tricks
  • NEWS
    • PR News
    • Lifestyle
  • Samsung
  • Vivo
  • OPPO
  • iPhone
  • Smartphone
    • App Free
    • Nokia
    • Windows 10
    • Android
    • BlackBerry 10
  • Games
    • Playstation
    • Nintendo
  • Review & Preview
  • Contact us
No Result
View All Result
Flashfly Dot Net
No Result
View All Result
Home Feature

รีวิว Apple Watch Series 7 สีเขียวตัวเรือนอะลูมิเนียมขนาด 45 มม. จอใหญ่มาก สว่างกว่าเดิม ทนทานยิ่งขึ้น ชาร์จเร็วสุด

Jackrich T. by Jackrich T.
October 22, 2021
in Feature, iPhone, Recommended, Review & Preview
0
SHARES
4.6k
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

แต่ละปีที่ผ่านไป Apple Watch ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพและความสามารถให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้ก็เช่นกัน Apple Watch Series 7 ไม่เพียงแต่ได้รับชิปรุ่นใหม่ แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การออกแบบให้มีความทนทานมากขึ้น จอใหญ่กว่าเดิม ขณะที่ตัวเรือนมีขนาดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เพื่อให้สวมใส่ได้อย่างสบายเหมือนอย่างเคย

สเปก Apple Watch Series 7

  • จอภาพใหญ่ขึ้นกว่า 50% (เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 3)
  • จอภาพ LTPO OLED Retina แบบ Always-On ความสว่าง 1,000 นิต
  • จอภาพกระจก Ion-X บนตัวเรือนอะลูมิเนียม
  • SiP รุ่น S7 พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Dual‑core 64 บิต, ชิประบบไร้สาย W3, ชิป U1 (Ultra Wideband) 
  • ความจุ 32GB
  • เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด, เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้า และเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัลรุ่นที่ 3
  • การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วและช้า
  • Digital Crown พร้อมการตอบสนองแบบสั่น
  • การโทรฉุกเฉินทั่วโลก, SOS ฉุกเฉิน และการตรวจจับการล้ม
  • ทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร ตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 
  • ทนฝุ่น (IP6X)
  • ลำโพงดังขึ้น 50% (เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 3), ไมโครโฟนในตัว
  • มีให้เลือก 2 รุ่น GPS และ GPS + Cellular
  • LTE และ UMTS, Wi‑Fi และ Bluetooth 5.0
  • GPS/GNSS, เข็มทิศ และมาตรวัดความสูงแบบทำงานตลอด
  • แบตเตอรี่ Lithium-Ion ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง ชาร์จได้เร็วขึ้น 33%
  • ขนาดตัวเรือน 45 มม. (45 x 38 x 10.7 มม.)
  • น้ำหนัก 38.8 กรัม (อะลูมิเนียม)

แกะกล่อง Apple Watch Series 7

Apple Watch Series 7 ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีขาวที่เป็นแท่งยาวๆ โดยชั้นนอกถูกห่อหุ้มไว้ด้วยแผ่นกระดาษที่มีโลโก้ Apple Watch บนหน้ากล่อง และด้านหลังระบุชื่อรุ่น ขนาดตัวเรือน และอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง 

เมื่อแกะออกมา จะพบว่าภายในของกระดาษห่อพิมพ์ลาย Apple Watch ไว้อย่างสวยงาม และพบว่าภายในแบ่งออกเป็น 2 กล่อง โดยกล่องบนพิมพ์รูปภาพด้านหน้าของ Apple Watch อีกกล่องพิมพ์รูปภาพสาย  Apple Watch บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเปิดกล่องออกมาจะพบกับอะไร

กล่องเก็บตัวเรือน Apple Watch Series 7 มีแถบกระดาษกาวติดที่ขอบกล่อง คล้ายกับที่พบในกล่องของ iPhone 13 ภายในวางตัวเรือน Apple Watch แยกช่องกับซองเอกสารต่างๆ 

ใต้ช่องเก็บเอกสาร แถมสายชาร์จแบบใหม่มาให้ด้วย เป็นสายชาร์จแบบแม่เหล็กที่อีกปลายเป็น USB-C ช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้น 33%  เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

กล่องสาย Apple Watch ก็มีการซีลด้วยแถบกระดาษกาวเช่นกัน ภายในมีสายให้เลือกใช้ตามขนาดข้อมือ ได้แก่ M/L และ S/M พร้อมด้วยแผ่นพับแนะนำวิธีการติดตั้งสายกับตัวเรือน

ดีไซน์ใหม่ 

Apple Watch Series 7 ได้รับการออกแบบใหม่โดยทำขอบจอรอบด้านให้บางเฉียบเหลือเพียง 1.7 มิลลิเมตร เพื่อทำให้พื้นที่จอแสดงผลมีขนาดใหญ่ขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับ Series 6 และใหญ่กว่า 50% เมื่อเทียบกับ Series 3 ขณะที่ขนาดตัวเรือนแทบไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นก่อนๆ โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 41 มม. และ 45 มม. 

Apple Watch Series 7 ผลิตด้วยวัสดุสุดพรีเมียม อะลูมิเนียม, สแตนเลสสตีล และ ไทเทเนียม โดยมีสีสันและใช้กระจกด้านหน้าแตกต่าง  ตัวเรือนอะลูมิเนียม ใช้กระจกหน้า Ion‑X มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเขียว, สีน้ำเงิน และ สีแดง (PRODUCT)RED 

ด้านหลังของ Apple Watch Series 7 เป็นคริสตัล มาพร้อมกลุ่มไฟ LED จำนวน 4 ดวง ทั้งสีเขียว สีแดง และอินฟราเรด รวมถึงโฟโต้ไดโอด 4 ตัว ซึ่งใช้สำหรับวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) มีเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัลสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 

ขอบด้านข้างตัวเรือนมีปุ่ม Digital Crown ตอบสนองแบบสั่นเมื่อถูกหมุน ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟน และปุ่มกดด้านข้าง

อีกข้างเป็นช่องลำโพง ส่วนความบางนั้นอยู่ที่ 10.7 มิลลิเมตร เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นขนาด  41 มม. หรือ 45 มม. 

วัสดุส่วนใหญ่ของ Apple Watch Series 7 ผ่านกระบวนการรีไซเคิลมากกว่า Apple Watch รุ่นอื่นๆ โดยมีการใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงใน Taptic Engine และมีการใช้ทังสเตนรีไซเคิลเกือบ 100% ในตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ขณะที่ตัวเรือนอะลูมิเนียมก็ผ่านการรีไซเคิล 100% และยังผลิตขึ้นโดยไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย 

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของ Apple ที่ตั้งเป้าลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 ด้วยการดำเนินงานให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของเจ้าของอุปกรณ์ และการชาร์จ ไปจนถึงการรีไซเคิล และการคัดแยกวัสดุเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่

ทนทานมากขึ้น

Apple Watch Series 7 ได้รับการออกแบบมาให้ต้านทานน้ำที่ระดับ WR50 (50 เมตร) จึงสามารถสวมใส่ลงไปว่ายน้ำในสระได้อย่างไรกังวล แต่ไม่ควรสวมใส่ลงไปดำน้ำลึก หรือเล่นกีฬาทางน้ำที่ผาดโผนรุนแรง และยังผ่านการรับรองป้องกันฝุ่นที่ระดับ IP6X จึงเป็น Apple Watch ที่มีความทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา สามารถสวมใส่ขณะทำกิจกรรมหรือพักผ่อนตามริมชายหาดได้อย่างสบาย

ไม่เพียงแค่นั้นด้านหน้าของ Apple Watch Series 7 ยังเป็นแบบคริสตัลที่ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงที่แข็งแกร่งและทนทานกว่าเดิม ด้วยความหนาที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 จึงทนต่อการแตกร้าวได้ดีขึ้น โดยที่จอแสดงผลยังคงให้ความชัดเจนเหมือนเดิม

จอใหญ่ขึ้น

Apple Watch Series 7 มาพร้อมจอแสดงผล LTPO OLED Retina แบบ Always-On ให้ความสว่าง 1,000 นิต เมื่อใช้งานในที่ร่มจะมีสว่างมากกว่า70% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 ช่วยให้มองเห็นหน้าปัดนาฬิกาได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องยกข้อมือหรือปลุกจอภาพ

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญก็คือ ขอบจอแสดงผลของ Apple Watch Series 7 มีความบางเพียง 1.7 มิลลิเมตร แคบกว่า Apple Watch Series 6 ถึง 40% ส่งผลให้มีพื้นที่จอภาพใหญ่ขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยรุ่น 41 มม. ให้พื้นที่แสดงผล 904.3 ตร.มม. บนความละเอียด 352 x 430 พิกเซล และรุ่น 45 มม. ให้พื้นที่แสดงผล 1143.1 ตร.มม. บนความละเอียด 396 x 484 พิกเซล

อินเทอร์เฟซใหม่

Apple ใช้ประโยชน์จากจอแสดงผลของ Apple Watch Series 7 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ออกแบบ User Interface ใหม่ เพื่อให้ผู้สวมใส่ใช้งานได้ง่ายขึ้น มองเห็นคอนเทนต์และข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสบายตา และมีพื้นที่สัมผัสเพื่อโต้ตอบกับหน้าจอได้แม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอป้อนรหัสผ่าน, ปุ่มกดในศูนย์ควบคุมที่ใหญ่กว่าเดิม 13%, ปุ่มกดในเครื่องคิดเลขใหญ่กว่าเดิม 12%, ปุ่มกดในนาฬิกาจับเวลาใหญ่ขึ้น 27% รวมไปถึงหน้าจอต่างๆ ของระบบทั้งหมด

Apple Watch Series 7 ยังแสดงข้อความบนหน้าจอได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับ Series 6 ช่วยให้การอ่านข้อความหรืออีเมลสบายตามากขึ้น โดยไม่ต้องเลื่อนหน้าจอบ่อยครั้ง อีกทั้งยังสามารถปรับขนาดตัวอักษรได้ 2 ขนาด เพื่อการอ่านที่ง่ายขึ้น

ไม่เพียงแต่การอ่านหน้าจอที่ง่ายขึ้น การพิมพ์ข้อความตอบกลับก็สะดวกมากขึ้น ด้วยขนาดจอภาพที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้  Apple Watch Series 7 รองรับคีย์บอร์ดแบบ QWERTY สามารถพิมพ์ข้อความได้เต็มรูปแบบเหมือนคีย์บอร์ดบนหน้าจอ iPhone รวมถึงการพิมพ์แบบปัดด้วย QuickPath ทำให้การป้อนข้อความง่ายและเร็วขึ้น

หน้าปัดใหม่

Apple Watch Series 7 เป็น Apple Watch เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับหน้าปัดใหม่ 2 แบบ ได้แก่ Contour และ Modular Duo เนื่องจาก Apple Watch Series 7 เป็น Apple Watch เพียงรุ่นเดียวที่มีขนาดจอแสดงผลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยหน้าปัด Contour มีการนำตัวเลขบอกเวลาไปไว้ชิดขอบของจอภาพ และเน้นเวลาในชั่วโมงปัจจุบันให้โดดเด่น 

หน้าปัด Modular Duo ใช้ประโยชน์จากพื้นที่หน้าจอที่เพิ่มขึ้น ด้วยการแสดงกลไกหน้าปัดขนาดใหญ่ ที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลคู่กันสองแถวตรงกลาง

นอกจากนี้ Apple Watch Series 7 ยังได้รับหน้าปัด World Time แบบคลาสสิก ซึ่งอิงตามนาฬิกาแบบดั้งเดิม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทาง ช่วยให้ผู้สวมใส่ติดตามเวลาของทั้ง 24 เขตเวลา จากหน้าปัดสองวงที่ซ้อนกัน 

ชาร์จเร็วกว่าเดิม

Apple Watch Series 7 มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion ที่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง และยังชาร์จได้เร็วขึ้นกว่า 33% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0 ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 45 นาที หรือใช้เวลาชาร์จเพียง 8 นาที ก็เพียงพอสำหรับติดตามการนอนหลับได้นาน 8 ชั่วโมง

ส่วนหนึ่งของการชาร์จที่เร็วขึ้น มาจากสถาปัตยกรรมการชาร์จแบบใหม่ และรองรับอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ USB-C Power Adapter ของ Apple หรือของ iPhone ที่มีขนาด 18W ขึ้นไป หริือใช้ USB-C Power Adapter จากแบรนด์อื่นที่รองรับ USB Power Delivery (USB-PD) ขนาด 5W ขึ้นไป 

นอกจากนี้ Apple Watch Series 7 ยังสนับสนุนการชาร์จที่ความเร็วมาตรฐานโดยใช้สายชาร์จ แท่นวาง และ อุปกรณ์เสริมของ Apple Watch รุ่นก่อนด้วย

วัดระดับออกซิเจนในเลือด

Apple Watch Series 7 เพียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์ติดตามสุขภาพที่ครบครัน โดยอาศัยกลุ่มไฟ LED จำนวน 4 ดวง ที่อยู่บนฝาหลังคริสตัล ทั้งสีเขียว สีแดง และอินฟราเรด รวมถึงโฟโต้ไดโอด 4 ตัว ซึ่งใช้สำหรับวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) และมีเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัลสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 

ผู้ใช้งานสามารถวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้จากแอป Blood Oxygen (ออกซิเจนในเลือด) ซึ่งเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ Apple Watch Series 6 อาศัยกลุ่มไฟ LED ด้านหลังส่องผ่านผิวหนังไปยังหลอดเลือดที่ข้อมือ จากนั้นโฟโต้ไดโอดจะวัดปริมาณแสงที่สะท้อนกลับมาเพื่อคํานวณสีเลือด และสุดท้ายอัลกอริทึมจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประเมินระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนโดยประมาณ 

Apple Watch Series 7 จะคอยวัดระดับออกซิเจนในเลือดเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน ในช่วงที่ผู้สวมใส่ไม่ได้เคลื่อนไหว รวมถึงช่วงกลางคืนเมื่อเปิดใช้งานโหมดนอนหลับ หากต้องการวัดระดับออกซิเจนในเลือดด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงเปิดแอปออกซิเจนในเลือดบน Apple Watch แล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ

หากผู้ใช้งานต้องสวมใส่ Apple Watch Series 7 เข้าไปในโรงภาพยนตร์ สามารถเข้าไปปิดการวัดเบื้องหลังในโหมดนอนหลับและโหมดโรงภาพยนตร์ ได้จากแอปการตั้งค่า บน Apple Watch จากนั้นแตะ ออกซิเจนในเลือด แล้วปิดใช้ ในโหมดนอนหลับ และ ในโหมดโรงภาพยนตร์ เพื่อไม่ให้แสงไฟ LED ส่องสว่างรบกวนสายตาในระหว่างนอนหลับหรือกำลังชมภาพยนตร์

แจ้งเตือนสุขภาพหัวใจ

Apple Watch Series 7 ใช้เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัล คอยตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจในเบื้องหลังเป็นระยะๆ และจะแจ้งเตือนหากพบว่าผู้สวมใส่มีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงหรือต่าผิดปกติ รวมถึงมีจังหวะการเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะร้ายแรงได้ เช่น ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib)

ติดตามการออกกำลังกาย

Apple Watch Series 7 ทำหน้าที่เป็นเหมือนเทรนเนอร์ส่วนตัว ช่วยติดตามการออกกำลังกายของผู้สวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ,บริหารกล้ามเนื้อ, โยคะ, ปีนเขา, เต้นรำ และใน watchOS 8 ยังได้เพิ่มการติดตามไทชิและพิลาทิสมาให้ด้วย

watchOS 8 ยังมาพร้อมการปรับปรุงฟีเจอร์ติดตามการปั่นจักรยานให้แม่นยำมากขึ้น โดยใช้อัลกอริทึมขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก GPS, อัตราการเต้นของหัวใจ, อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และไจโรสโคป เพื่อตรวจจับเมื่อผู้สวมใส่เริ่มปั่นจักรยาน และแจ้งให้เริ่มต้นการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกลางแจ้ง หากยังไม่ได้กดเริ่ม และยังวัดแคลอรี่ที่เคลื่อนไหวได้แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยอัลกอริทึมการออกกำลังกายที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สามารถระบุได้ว่าผู้สวมใส่กำลังปั่นจักรยานโดยใช้ตัวช่วยปั่นหรือใช้กำลังขาเพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้ การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ยังมีฟีเจอร์หยุดพักและทำต่อโดยอัตโนมัติ ช่วยสะท้อนเวลาจริงที่ใช้ในการเคลื่อนไหวเมื่อเทียบกับการหยุดนิ่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เช่น การหยุดปั่นระหว่างรอสัญญาณไฟจราจร เป็นต้น

การทำกิจกรรมทั่วไปในชีวิตประจำวัน Apple Watch Series 7 ก็สามารถติดตามและบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การออกกําลังกาย และการยืน โดยจะแสดงค่าที่วัดได้เป็นวงแหวนกิจกรรม เพื่อให้ผู้สวมใส่มองเห็นข้อมูลหรือควมคืบหน้าได้อย่างชัดเจน และเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้สวมใส่ปิดวงแหวนในแต่ละวัน

ตรวจจับการล้ม

Apple Watch รองรับฟีเจอร์ตรวจจับการล้มมาตั้งแต่ปี 2018 และยังคงมีอยู่ใน Apple Watch Series 7 เนื่องจากเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง โดยอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคป ทำงานร่วมกับอัลกอริทึมที่ชาญฉลาด หาก Apple Watch พบว่าผู้สวมใส่มีการล้มอย่างรุนแรง และไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลา 1 นาที Apple Watch จะโทรออกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ พร้อมส่งข้อความและพิกัดไปยังบุคคลในรายชื่อติดต่อฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ผู้ใช้งาน Apple Watch Series 7 สามารถเปิดฟีเจอร์ตรวจจับการล้มได้ในแอป Apple Watch ใน iPhone แต่สำหรับผู้สวมใส่ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป Apple Watch จะเปิดฟีเจอร์ตรวจจับการล้มโดยอัตโนมัติ 

วัดความสูงแบบเรียลไทม์

Apple Watch Series 7 มาพร้อมมาตรวัดความสูงแบบทํางานตลอด สามารถติดตามและประเมินระดับความสูงของผู้สวมใส่อย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะใช้งานภายในอาคารหรือกลางแจ้ง เนื่องจากใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูงและอัลกอริทึมหลายตัว ทำงานร่วมกับ GPS หรือแม้แต่เครือข่าย Wi-Fi ใกล้เคียง เพื่อระบุตําแหน่งของ Apple Watch เพื่อบอกความสูงเหนือระดับน้ำทะเลบนหน้าปัดได้ทันที ไม่ว่าผู้สวมใส่จะเดินทางไกลขึ้นเขาในป่า หรือขึ้นลงบันไดในอาคารต่างๆ

watchOS 8

Apple Watch Series 7 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ watchOS 8 ที่ Apple ปล่อยออกมาให้อัพเดทตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมาพร้อมหน้าปัดใหม่ ปรับปรุงอัลกอริทึมติดตามการปั่นจักรยานให้แม่นยำมากขึ้น ออกแบบ UI ใหม่สำหรับ Apple Watch Series 7 โดยเฉพาะ และยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง

รูปภาพ – ดูจัดการ และแชร์คลังรูปภาพในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยแอปรูปภาพที่ออกแบบมาใหม่ และเพลิดเพลินไปกับไฮไลท์จาก “ความทรงจํา” และรูปภาพแนะนําได้จากบน Apple Watch

ข้อความ – พิมพ์ข้อความได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยวิธีการป้อนตามคําบอก การขีดเขียนข้อความ และอิโมจิ ทั้งหมดนี้จากที่เดียว ปรับข้อความที่เขียนตามคําบอกโดยใช้ Digital Crown เพื่อเลื่อนไปยังจุดที่ต้องการแก้ไข และส่งภาพ GIF ในแอปข้อความได้ด้วย #images

ทําสมาธิ –  เซสชั่นการหายใจมีเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ของร่ายกายเข้ากับการฝึกหายใจแบบลึกๆ เช่น การประสานมือไว้ที่หน้าท้อง และในเซสชั่นสะท้อนความคิด ผู้สวมใส่จะได้แนวคิดง่ายๆ ในการทําสมาธิ และการแสดงภาพที่สวยงาม เพื่อแสดงถึงเวลาที่ผ่านไป 1 นาที

ออกกําลังกาย – รับรายการเตือนความจําเพื่อเริ่มต้นการออกกําลังกายแบบปั่นจักรยาน เมื่อ Apple Watch ตรวจพบว่าผู้สวมใส่ได้เริ่มต้นขี่ และใส่การเคลื่อนไหวในการทําสมาธิให้กับกิจวัตรประจําวัน ด้วยการออกกําลังรูปแบบใหม่อย่างพิลาทิสและไทชิ การตอบสนองด้วยเสียงจะแจ้งให้ทราบเมื่อพิชิตเป้าหมายสําคัญในการออกกําลังกาย

การนอนหลับ – แอปการนอนหลับ สามารถติดตามอัตราการหายใจได้ รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด และระยะเวลาที่นอนหลับ 

กระเป๋าสตางค์– สามารถเข้าใช้งานกุญแจดิจิตัลของโรงแรม สํานักงาน หอพัก และอีกมากมาย นอกเหนือไปจากกุญแจรถและกุญแจบ้านที่มีอยู่แล้ว

สรุปราคาและการวางจำหน่าย

Apple Watch Series 7 ยังคงเป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามหรูหรา โดยใช้วัสดุคุณภาพสูง โดยมีจุดเด่นที่ดีไซน์ใหม่ ทำให้จอแสดงผลมีขนาดใหญ่ขึ้น บนตัวเรือนที่แทบไม่แตกต่างไปจากรุ่นก่อน ถึงแม้ด้านประสิทธิภาพจะไม่ได้รับการปรับปรุงมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แต่ Apple ก็เลือกที่จะถอด Apple Watch Series 6 ออกไป แล้วแทนที่ด้วย Series 7 ที่ดีขึ้นกว่าเดิม นั่นทำให้ Apple Watch Series 7 เหมาะสำหรับเจ้าของ Apple Watch รุ่นเก่ากว่าตั้งแต่ Series 5 ลงไป รวมไปถึงผู้ใช้งาน iPhone ที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์คุณภาพสูง ติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ เรียกได้ว่าเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวที่ดีที่สุด

Apple Watch Series 7 มีหลายตัวเลือก ทั้งขนาดตัวเรือนที่แตกต่างกันระหว่าง 41 มม. และ 45 มม. วัสดุตัวเรือนอะลูมิเนียม, สแตนเลสสตีล และ ไทเทเนียม รวมไปถึงการเชื่อมต่อระหว่าง GPS กับ GPS + Cellular

  • ตัวเรือนอะลูมิเนียม มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเขียว, สีน้ำเงิน และ สีแดง (PRODUCT)RED มาพร้อมสายแบบ Sport Band 
  • ตัวเรือนสแตนเลสสตีล สีกราไฟต์ มาพร้อมสายแบบ Milanese Loop, สีเงิน มาพร้อมสายแบบ Solo Loop และ สีทอง มาพร้อมสายแบบ Sport Loop
  • ตัวเรือนไทเทเนียม (Apple Watch Edition) สีไทเทเนียม มาพร้อมสายแบบ Braided Solo Loop และ สีดำสเปซแบล็ค มาพร้อมสายแบบ Leather Link
  • Apple Watch Series 7 เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท สำหรับรุ่น GPS และเริ่มต้น 17,500 บาท สำหรับรุ่น GPS + Cellular





Tags: Apple WatchApple Watch Series 7Review
ShareTweetShare

Related Posts

ผู้ใช้ Apple Watch สามารถควบคุมโดรน DJI Neo 2 ได้แล้ว
iPhone

ผู้ใช้ Apple Watch สามารถควบคุมโดรน DJI Neo 2 ได้แล้ว

December 13, 2025
รีวิว iQOO 15 สมาร์ตโฟนเรือธง “Born for MVPs” เอาใจเกมเมอร์ด้วยชิปแรงสุด Snapdragon 8 Elite Gen 5 จอเทพ 144Hz ลื่นไหลด้วย OriginOS 6
Feature

รีวิว iQOO 15 สมาร์ตโฟนเรือธง “Born for MVPs” เอาใจเกมเมอร์ด้วยชิปแรงสุด Snapdragon 8 Elite Gen 5 จอเทพ 144Hz ลื่นไหลด้วย OriginOS 6

December 9, 2025
Apple Watch พร้อมให้บริการการแจ้งเตือนภาวะความดันโลหิตสูงในประเทศไทยแล้ววันนี้
iPhone

Apple Watch พร้อมให้บริการการแจ้งเตือนภาวะความดันโลหิตสูงในประเทศไทยแล้ววันนี้

December 4, 2025
Load More
  • ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    ยินดีต้อนพับ!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy Z Fold5, Galaxy Z Flip5, Galaxy Tab S9 Series และ Galaxy Watch6 Series พร้อมบุกตลาดประเทศไทยแล้ว

    356 shares
    Share 0 Tweet 0
  • วาร์ปสู่โลกใหม่!! สัมผัสเครื่องจริง Samsung Galaxy S24 Series ครบทุกรุ่นทุกสี พร้อมใช้งาน Galaxy AI สุดล้ำ

    101 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab A9+ แท็บเล็ตสุดคุ้มจอ 11 นิ้วรีเฟรช 90Hz ใช้ชิป Snapdragon 695 รองรับ 5G ระบบเสียง Dolby Atmos ราคา 8,990 บาท

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy S23 FE มาอย่างพี๊คคค สเปกแฟล็กชิป ในราคาเป็นมิตร จอ 120Hz กล้องหลัง 3 ตัว 50MP ซูม 3x คมกริบ แบต 4,500mAh

    502 shares
    Share 0 Tweet 0
  • รีวิว Samsung Galaxy Tab S10 Lite แท็บเล็ตสุดคุ้มราคาหมื่นต้นครบเซ็ทไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

    425 shares
    Share 0 Tweet 0

Browse by Category

  • AIS
  • Android
  • App Free
  • BlackBerry 10
  • dtac
  • EV Car
  • Feature
  • Flashfly Online Channel
  • Games
  • iPhone
  • Lifestyle
  • NEWS
  • Nintendo
  • Nokia
  • OPPO
  • Playstation
  • PR News
  • Recommended
  • Review & Preview
  • Samsung
  • Smartphone
  • Tips&Tricks
  • Truemove H
  • Windows Phone

Recent News

Xiaomi 17 Ultra จะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า อาจเป็นวันที่ 26 ธันวาคมนี้

Xiaomi 17 Ultra จะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า อาจเป็นวันที่ 26 ธันวาคมนี้

December 18, 2025
iPhone รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 20 ปี จะวางจำหน่ายภายใน 24 เดือนนับจากนี้

iPhone รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 20 ปี จะวางจำหน่ายภายใน 24 เดือนนับจากนี้

December 18, 2025
  • About
  • Advertise
  • Privacy & Policy
  • Contact

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');

No Result
View All Result
  • NEWS
  • Review & Preview
  • iPhone
  • Android
  • Smartphone
  • Games

© 2021 FlashFly.net. window.dataLayer = window.dataLayer || []; function gtag(){dataLayer.push(arguments);} gtag('js', new Date()); gtag('config', 'G-6SFV8YRF40');