iOS 18 ยกเครื่องหน้าจอโฮมและหน้าจอล็อคอีกครั้ง ทำให้ผู้ใช้ iPhone สามารถจัดวางไอคอนและวิดเจ็ตไว้ตรงไหนก็ได้บนที่ว่างของหน้าจอโฮม เปลี่ยนขนาด เปลี่ยนสี ซ่อนแอป และสลับปุ่มทางลัดบนหน้าจอล็อคได้ โดยบทความนี้จะรวมความสามารถใหม่ๆ 10 ฟีเจอร์ที่ iOS 18 นำมาสู่หน้าจอโฮมและหน้าจอล็อค
จัดวางไอคอนได้อิสระมากขึ้น
iOS 18 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดวางไอคอนและวิดเจ็ตไว้ตรงไหนก็ได้บนที่ว่างของหน้าจอโฮม ไม่ว่าจะวางไว้เหนือ Dock เพื่อให้เรียกใช้ได้ง่าย หรือวางเป็นกรอบรอบๆ วอลเปเปอร์ แต่เพื่อความเป้นระเบียบ ไอคอนต่างๆ บนหน้าจอโฮม ยังคงถูกตรึงไว้กับตารางที่มองไม่เห็น เพื่อให้แต่ละไอคอนมีช่องว่างเท่ากัน
ผู้ใช้งานสามารถย้ายไอคอนได้ง่ายๆ ด้วยการแตะค้างไว้บนหน้าจอโฮม จนไอคอนขยับ จากนั้นก็สามารถลากไอคอนไปวางในตำแหน่งที่ต้องการได้
ทำให้ไอคอนใหญ่ขึ้น
ผู้ใช้ iPhone สามารถทำให้ไอคอนบนหน้าจอโฮมใหญ่ขึ้นได้ โดยการปิดการแสดงชื่อแอปใต้ไอคอน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ไอคอนมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยยังคงประหยัดพื้นที่เหมือนเดิม ถึงแม้ไอคอนจะใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังสามารถวางไอคอนได้สูงสุด 6 แถว แต่ละแถวมี 4 ไอคอน
วิธีทำให้ไอคอนใหญ่ขึ้น
- แตะค้างไว้บนหน้าจอโฮม
- แตะ Edit
- แตะ Customize
- เลือก Small เพื่อใช้ไอคอนขนาดเดิม พร้อมมีชื่อแอปกำกับไว้ใต้ไอคอน หรือเลือก Large เพื่อซ่อนชื่อแอป แล้วไอคอนจะใหญ่ขึ้น
ทั้งนี้ การปรับขนาดไอคอนแอปบนหน้าจอโฮม จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ทุกไอคอนจะมีขนาดเท่ากัน ไม่สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ไอคอนของแอปใดใหญ่หรือเล็กเป็นพิเศษ
เปลี่ยนขนาดวิดเจ็ต
ผู้ใช้ iPhone สามารถเปลี่ยนขนาดวิดเจ็ตได้ทันทีบนหน้าจอโฮม โดยไม่ต้องเข้าไปที่ตัวเลือกการปรับแต่ง หลังจากอัปเดตเป็น iOS 18 วิดเจ็ตจะมีแถบกลมสีขาวอยู่ที่มุม ซึ่งคสามารถลากเพื่อทำให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ อย่างไรก็ตาม ขนาดของวิดเจ็ตถูกจำกัดไว้ตามที่วิดเจ็ตกำหนดมาให้ ตัวอย่างเช่น วิดเจ็ตแบตเตอรี่ สามารถเปลี่ยนขนาดให้เท่ากับ ขนาดไอคอน 2×2 หรือ 4×4 หรือ 6×2
วิดเจ็ตใหม่
iOS 18 ได้รับวิดเจ็ต Health เพื่อแสดงข้อมูลจากฟีเจอร์ Vitals ซึ่งมีอยู่ในแอป Health และบน Apple Watch โดยให้ภาพรวมเกี่ยวกับสุขภาพที่สำคัญแบบรายวันหรือรายสัปดาห์ อีกทั้งยังมีวิดเจ็ตใหม่สำหรับการติดตามวันนั้นของเดือนสำหรับผู้หญิงอีกด้วย
Journal เป็นอีกแอปที่มีวิดเจ็ตใหม่ มาพร้อมวิดเจ็ต Streaks ที่สามารถติดตามจำนวนวันติดต่อกันที่มีการใช้แอป Journal และในส่วนของวิดเจ็ต Home มีการเพิ่มวิดเจ็ตใหม่ๆ เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้า และ อัตราค่าไฟ
นอกจากนี้ Apple ยังเพิ่มวิดเจ็ตที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์ใหม่ Training Load ของ Apple Watch โดยเป็นส่วนหนึ่งของวิดเจ็ต Fitness
ไอคอน Dark Mode
แอปพื้นฐานที่มากับ iOS 18 จะมีตัวเลือกทั้งสีอ่อนและสีเข้ม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนสีของไอคอนได้เมื่อเปิด Dark Mode โดยไอคอนสีเข้มได้รับการออกแบบใหม่หมด ให้มีพื้นหลังสีดำแทนที่จะเป็นพื้นหลังสีขาวหรือสีสันอื่น จึงเข้ากันได้ดีเมื่อใช้ Dark Mode
ผู้ใช้งานสามารถเปิดไอคอนสีเข้มได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน Dark Mode หรือตั้งค่าให้ไอคอนเปลี่ยนสีโดยอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งหมายความว่าไอคอนจะเปลี่ยนสีได้เองตาม Dark Mode หรือ Light Mode
วิธีเปลี่ยนสีไอคอน
- แตะค้างไว้บนหน้าจอโฮม
- แตะ Edit
- แตะ Customize
- เลือกระหว่าง Automatic, Dark หรือ Light
เปลี่ยนโทนสีไอคอน
iOS 18 อนุญาตให้ผู้ใช้งานใส่โทนสีใหม่ให้กับไอคอนได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับอลเปเปอร์ แต่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันกับทุกไอคอน จึงไม่สามารถใส่โทนสีให้เฉพาะไอคอนใดไอคอนหนึ่งได้
การใส่โทนสีให้กับไอคอน สามารถใช้หลอดดูดสี เพื่อเลือกสีจากวอลเปเปอร์ที่กำลังใช้ ทำให้ภาพรวมของหน้าจอโฮมดูลงตัวมากขึ้น หรือใช้แถบปรับแต่งทั้งเฉดสีและความอิ่มตัวของสีด้วยตัวเอง
วิธีเปลี่ยนใส่โทนสีไอคอน
- แตะค้างไว้บนหน้าจอโฮม
- แตะ Edit
- แตะ Customize
- เลือก Tinted
ซ่อนและล็อคแอป
iOS 18 เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้งานที่มักจะมีสมาชิกในบ้านขอยืม iPhone ไปเล่นด้วยบ่อยๆ ดังนั้น การล็อคแอปหรือซ่อนแอป จะช่วยให้บุคคลอื่นไม่สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันที่มีความเป็นส่วนตัวได้
หากต้องการความเป็นส่วนตัว ให้ย้ายแอปพลิเคชันไปยังโฟลเดอร์แอปที่ล็อคและซ่อนไว้ และเมื่อต้องการใช้งานหรือเปิดแอปที่ล็อคไว้ จะต้องยืนยันตัวตนผ่าน Face ID, Touch ID หรือรหัสผ่าน นอกจากนี้ เนื้อหาอย่างข้อความหรืออีเมลภายในแอปที่ล็อคไว้ จะถูกซ่อนไว้ไม่ให้แสดงในผลการค้นหา การแจ้งเตือน และที่อื่นๆ ทั่วทั้งระบบ
วิธีซ่อนและล็อคแอป
- แตะค้างไว้ที่ไอคอนหรือแอปที่ต้องการล็อคหรือซ่อน
- แตะ Require Face ID
- หากคุณต้องการล็อคแอป ให้แตะ Require Face ID อีกครั้ง แต่ถ้าต้องการซ่อนแอป ให้เลือก Hide and Require Face ID
- ยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID
- ผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนว่าจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนหรือสายเรียกเข้าจากแอปที่ซ่อนไว้
- แตะ Hide App
หากต้องการยกเลิกการล็อคแอป ให้แตะค้างไว้ที่ไอคอนหรือแอปที่ถูกล็อค แล้วเลือก Don’t Require Face ID จากนั้นจะต้องยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID เพื่อปลดล็อคแอป
กรณีต้องการยกเลิกการซ่อนแอป ให้ไปที่ App Library เลือก Hidden แล้วยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID จากนั้นแตะค้างไว้ที่ไอคอนหรือแอปที่ถูกซ่อน แล้วเลือก Don’t Require Face ID (ปิดการล็อคแอป) หรือ Unhide App (ปิดการยืนยันตัวตน และนำแอปไปไว้ในหน้าแอป)
Rainbow Time และวิดเจ็ตใหม่บนหน้าจอล็อค
หน้าจอล็อคของ iPhone ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปแล้วใน iOS 17 ดังนั้นใน iOS 18 จึงมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เริ่มต้นที่ Rainbow Time ซึ่งเป็นนาฬิกาสีรุ้ง และยังมีวิดเจ็ต Journal รวมถึงวิดเจ็ต Vitals แบบเดียวกับที่หน้าจอโฮมได้รับ
เปลี่ยนปุ่มทางลัดบนหน้าจอล็อค
iOS 18 สามารถเปลี่ยนปุ่มทางลัดที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอล็อคให้เป็นฟังก์ชันอื่นที่ต้องการได้ จากปกติที่เป็นปุ่มกล้องและไฟฉาย หรือจะลบออกไปทั้งหมดเลยก็ได้
ทางลัดที่จะนำมาแทนที่กล้องและไฟฉาย ไม่เพียงแต่รองรับแอปหรือฟีเจอร์ของ Apple เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแอปของนักพัฒนารายอื่นด้วย เช่น Snapchat แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าแอปนั้นจะรองรับหรือไม่
การเปลี่ยนแปลงนี้เชื่อมโยงกับการออกแบบ Control Center ใหม่ ผู้ใช้งานจึงสามารถเลือกตัวเลือก Control Center สำหรับปุ่มหน้าจอล็อคได้ รวมถึงทางลัด Dark Mode, Airplane Mode, Remote, Alarm, Calculator, Translate และอื่นๆ
วิธีเปลี่ยนปุ่มทางลัดบนหน้าจอล็อค
- แตะค้างไว้บนหน้าจอล็อค
- แตะ Customize
- แตะ Lock Screen
- แตะไอคอน – เพื่อลบไอคอนทางลัดเดิมออกไป จากนั้นแตะปุ่ม + เพื่อเพิ่มทางลัดใหม่ที่ต้องการแทน
- แตะ Done ที่มุมขวาบน
วอลเปเปอร์ใหม่
นอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น iOS 18 ยังมาพร้อมรูปภาพวอลเปเปอร์ชุดใหม่ในสีชมพู, สีเหลือง ส๊ฟ้า และ สีม่วง โดยมีทั้งโทนสว่างและโทนมืด เพื่อให้เข้ากับ Light Mode และ Dark Mode
ที่มา – MacRumors
