เมื่อพูดถึงอุปกรณ์เกมมิ่ง แบรนด์ ROG (Republic of Gamers) ของ ASUS ต้องผุดขึ้นมาในหัวเป็นลำดับแรกๆ ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะคอมพิวเตอร์ แต่สมาร์ทโฟนของ ROG ก็เป็นที่ต้องการของเกมเมอร์มาโดยตลอด ทำให้ ROG Phone ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงเจเนอเรชันที่ 9 แล้ว พร้อมเปิดตัวในประเทศไทยทางการ 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ ROG Phone 9 FE ,ROG Phone 9 Pro และ ROG Phone 9 Pro Edition ที่ทีมงาน @flashfly ได้นำมารีวิว ซึ่งเป็นรุ่นที่สเปกสูงสุดใช้ชิป Snapdragon 8 Elite แรม 24GB ความจุในตัว 1TB อุปกรณ์ในกล่องยังมีพัดลม AeroActive Cooler X Pro รุ่นใหม่มาให้ด้วย ถูกใจเหล่าเกมเมอร์ตัวจริงแน่นอน
สเปก ROG Phone 9 Pro Edition
- จอแสดงผล FHD+ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 185Hz
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Elite
- ความจำ RAM 24GB แบบ LPDDR5X + ROM 1TB แบบ UFS 4.0
- กล้องหลัง 50MP Main + 13MP Ultrawide + 32MP Telephoto Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ลำโพงคู่สเตอริโอ, ไมโครโฟน 3 ตัว พร้อมเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, USB Type-C, 3.5mm Headphone Jack
- เซ็นเซอร์ E-compass, Proximity Sensor, Ambient Light Sensor, Accelerator, Gyroscope, AirTrigger
- ระบบยืนยันตัวตน In-Display Fingerprint Scanning / Face Recognition
- ระบบนำทาง GPS (L1/L5), Glonass (L1), Galileo (E1/E5a), BeiDou (B1i/B1c/B2a), QZSS (L1/L5), NavIC, GNSS
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย ROG UI
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ 5,800mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 65W HyperCharge และชาร์จไร้สายสูงสุด 15W
- ขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 77 x 8.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 227 กรัม
แกะกล่อง ROG Phone 9 Pro Edition
ROG Phone 9 Pro Edition จัดส่งมาในกล่องสี่เหลี่ยมสีดำ บนฝากล่องติดโลโก้ ROG Fearless Eye ไว้เหนือชื่อรุ่น ROG Phone 9 ที่มีรูปแบบตัวอักษรสไตล์ Dot Matrix เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา จะมีกลไกบานพับช่วยดันตัวกล่องข้างในให้เอียงขึ้นมาเล็กน้อย จึงสามารถหยิบสมาร์ทโฟนออกมาได้อย่างง่ายดาย และแอบซ่อนกล่องใส่เอกสารเอาไว้ใต้ฝากล่อง
กล่องใส่เอกสารแท้จริงแล้วเป็นแผ่นกระดาษที่ถูกพับไว้ เมื่อกางออกมาจะพบกับเข็มช่วยถอดถาดวางซิมการ์ด, แถมเคสมาให้ 2 อัน (Clear Case และ Aero Case), คู่มือ และ บัตรรับประกัน
ถาดรองสมาร์ทโฟน สามารถเปิดออกได้เหมือนฝากล่อง เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมาให้ ได้แก่ หัวชาร์จ 65W Power Adapter, สายชาร์จ USB-C to USB-C, พัดลม AeroActive Cooler X Pro และ กระเป๋าสำหรับเก็บพัดลม
ทั้งนี้ ROG Phone 9 Pro Edition เป็นเพียงรุ่นเดียวที่แถมพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X Pro มาให้ในกล่อง (รวมถึงกระเป๋าสำหรับเก็บพัดลม) โดยได้รับการออกแบบใหม่ทำให้ใบพัดยาวขึ้น 12.5% มาพร้อมกับระบบ Thermoelectric AI Cooling System ที่มีแผ่น Peltier อยู่ภายใน และสามารถปรับโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาดผ่านแอปพลิเคชัน Armoury Crate ช่วยระบายความร้อนสะสมภายในตัวเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดีไซน์โดดเด่นมีเสน่ห์เหนือกาลเวลา
ROG Phone 9 Pro Edition ผลิตออกมาเฉพาะสีดำ Phantom Black ที่ให้ภาพลักษณ์เรียบหรู แต่แฝงไว้ซึ่งความโดดเด่นมีเสน่ห์เหนือกาลเวลา โดยฝาหลังถูกเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยีนาโนคริสตัล ทำให้มีพื้นผิวด้าน มอบสัมผัสที่นุ่มนวล และสามารถลดการเกิดคราบรอยนิ้วมือได้อย่างดี
ฝาหลังของ ROG Phone 9 Pro Edition มีจุดเด่นที่ AniMe Vision แบบใหม่ ซึ่งประกอบด้วยไฟ Mini-LED สีขาวและสีแดงมากถึง 648 ดวง (รุ่นก่อนใช้ไฟ Mini-LED สีขาว จำนวน 341 ดวง) จัดวางเรียงกันแบบ Dot Matrix และสามารถปรับแต่งให้แสดงภาพเคลื่อนไหวได้หลากหลายเช่นเดียวกับรุ่นก่อน แต่มีความพิเศษที่ฟีเจอร์ AniMe Play สามารถเล่นเกมด้านหลังตัวเครื่องได้
กรอบโมดูลกล้องหลังก็เป็นอีกจุดที่สะดุดตา เพราะมีการใช้เส้นตัดทแยงสีแดงเหนือโลโก้ ROG ช่วยเพิ่มความโดดเด่น และรับกับเส้นตัดทแยงบนฝาหลังที่มีความมันเงา ทำให้พื้นผิวของฝาหลังที่เป็นแบบด้านไม่เรียบง่ายจนเกินไป
พลิกมาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง จะพบกับจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2 โดยมีการซ่อนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ไว้ในหลุมบนหน้าจอ และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล
ขอบด้านข้างรัดด้วยกรอบโลหะ มีความบาง 8.9 มิลลิเมตร และมีพอร์ต USB-C ช่วยเพิ่มความสะดวกเมื่อต้องการชาร์จแบตเตอรี่ขณะถือตัวเครื่องในแนวนอนเพื่อเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอ
อีกข้างมีปุ่ม AirTrigger แบบสัมผัส ติดตั้งอยู่บริเวณมุมบนและมุมล่าง อีกทั้งยังมีปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเพาเวอร์ และรูไมโครโฟน
ด้านบนพบไมโครโฟนอีกตัวซ่อนอยู่ จากทั้งหมด 3 ตัว พร้อมเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนจาก ASUS
ด้านล่าง ประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ลำโพง, ถาดใส่ซิมการ์ดรองรับ 5G ทั้ง 2 ซิม (Dual Nano-SIM), พอร์ต USB-C และ ไมโครโฟนตัวหลัก
นอกจากนี้ ROG Phone 9 Pro Edition ยังได้รับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำที่ระดับ IP68 เหมือนกับรุ่นก่อน จึงสามารถต้านทานน้ำที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ด้วยอุณหภูมิและความดันปกติ (ไม่กันน้ำทะเล) รวมถึงทนต่อฝุ่น สิ่งสกปรก และทราย ช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกี่ยวกับน้ำหรือฝนตก
AniMe Play เล่นเกมด้านหลังตัวเครื่อง
AniMe Play เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน ROG Phone 9 Pro Edition ที่มีเกมคลาสสิกสไตล์พิกเซลให้เล่น 4 เกม ได้แก่ Brick Smasher, Snake Venture, Aero Invaders, และ Speedy Runner
เมื่อกดเปิดเล่นเกมแล้วให้พลิกตัวเครื่องมาด้านหลังเพื่อเล่น สามารถควบคุมการเล่นด้วยปุ่ม AirTrigger ซ้าย ขวาที่ขอบด้านบน ให้เอ็ฟเฟ็กเสียงดังเหมือนเล่นที่ตู้เกมอาเคด หวังว่าอนาคตทาง ASUS จะปล่อยอัปเดทเพิ่มเกมใหม่ๆเข้ามา โดยจะมีคะแนนแข่งกับเจ้าของ ROG Phone 9 Pro Edition คนอื่นๆด้วย
Snapdragon 8 Elite ชิปเรือธงของ Qualcomm
ROG Phone 9 Pro Edition ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลระดับเรือธง Qualcomm Snapdragon 8 Elite ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร ของ TSMC ที่มี CPU Oryon แบบ 64-bit 8‑core ประกอบด้วย คอร์ด้านประสิทธิภาพ Prime-core (2‑core) สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุด 4.32GHz และ Performance-core (6‑core) ความเร็วสูงสุด 3.52GHz ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นสูงสุด 45% พร้อม GPU ใหม่ Adreno 830 ที่ให้ประสิทธิภาพดีขึ้นสูงสุด 40% มื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน (Snapdragon 8 Gen 3)
นอกจากนี้ ROG Phone 9 Pro Edition ยังสามารถรีดประสิทธิภาพในระดับสูงสุดด้วย X Mode บนซอฟต์แวร์เอกสิทธิ์เฉพาะของ ROG Phone อย่าง Armoury Crate
ด้านความจำ ROG Phone 9 Pro Edition มาพร้อม RAM 24GB แบบ LPDDR5X ที่มีความเร็วสูงขึ้น 12.5% จับคู่กับ ROM ความเร็วสูงแบบ UFS 4.0 ขนาดใหญ่ถึง 1TB สามารถทำคะแนนในการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้มากกว่า 3.1 ล้านคะแนน สูงกว่า ROG Phone 8 มากถึง 33% แต่จากการทดสอบของทีมงานได้ราวๆ 2.8 ล้านคะแนน แม้จะไม่เท่าที่เคลมแต่ถือว่าสูงกว่าคู่แข่งในตลาด
ระบบระบายความร้อน
ROG Phone 9 Pro Edition สามารถรักษาประสิทธิภาพในระดับสูง เพื่อให้เล่นเกมอย่างเสถียรได้ยาวนานต่อเนื่องแบบไม่มีสะดุด ด้วยระบบระบายความร้อน GameCool 9 ที่มีการวางโครงสร้างการระบายความร้อนเป็น 5 ส่วน เริ่มจากการวางตำแหน่งชิปประมวลผลไว้ที่กึ่งกลางตัวเครื่อง ดึงความร้อนออกจากชิปโดยตรงด้วย Rapid-cooling Conductor (เสมือนฮีทซิ้งค์ในชุดระบายความร้อนของคอมพิวเตอร์) และสารนำความร้อนประสิทธิภาพสูง Boron Nitride ส่งผ่านความร้อนไปยังชุด Vapor Chamber ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่กว่าตัวชิปประมวลผลถึง 3 เท่า ประกบด้วยแผ่นกราไฟต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 57% ทั้งด้านบนและด้านล่าง ทำหน้าที่กระจายความร้อนออกสู่ภายนอกได้ดีขึ้นถึง 12%
นอกจากนี้ ROG Phone 9 Pro Edition ยังแถมพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X Pro มาให้ในกล่อง ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ ทำให้ใบพัดของตัวพัดลมยาวขึ้น 12.5% ทำงานร่วมกับระบบ Thermoelectric AI Cooling System ที่มีแผ่น Peltier อยู่ภายใน และปรับโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาดผ่านแอปพลิเคชัน Armoury Crate หมดปัญหาความร้อนสะสมภายในตัวเครื่อง
ยกระดับการเล่นเกมด้วย AI
ROG Phone 9 Pro Edition มาพร้อมฟีเจอร์ AI อัจฉริยะมากมายที่ช่วยให้เล่นเกมได้สนุกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น X Sense 3.0, X Capture, AI Grabber และ AI Noise Cancellation
X Sense 3.0 ใช้เอนจิ้นการจดจำภาพด้วย AI ขั้นสูง เพื่อช่วยในการเล่นเกม เช่น ช่วยเก็บไอเทมให้อัตโนมัติ, ข้ามบทสนทนา, อัปสกิลตัวละครโดยอัตโนมัติ รวมถึงตรวจจับเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งระบบความช่วยเหลือต่างๆ จะขึ้นอยู่กับเกมที่เล่น อย่างเช่นเกม Genshin Impact (เก็บของอัตโนมัติ, ล็อคการวิ่ง, ข้ามบทสนทนา, ออกจากวงต่อสู้), Honkai Starrail (ข้ามบทสนทนา), ขณะที่เกมอย่าง ROV, Mobile Legends Bang Bang, และ League of Legends Wild Rift จะมีเอฟเฟคต์พิเศษเมื่อทำการ kill, แจ้งเตือนเมื่อมีบัฟปรากฎ และอัปสกิลตัวละครอัตโนมัติ โดยสามารถเปิดใช้งาน X Sense ได้ที่ Game Genie
X Capture ตัวช่วยในการบันทึกวิดีโอเหตุการณ์สำคัญๆ ในเกมโดยอัตโนมัติ รองรับเกม ROV, Genshin Impact, และ Honkai Starrail
AI Grabber ช่วยก๊อปปี้ข้อความสำคัญๆ ในเกม เพื่อใช้นำไปค้นหาวิธีการเล่น (walkthrough) ในเซิร์ชเอ็นจิ้นภายนอก หรือแม้แต่การแปลความหมายของประโยคต่างๆ ในเกม
AI Noise Cancellation ระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI ช่วยกำจัดเสียงที่ไม่ต้องการระหว่างเล่นเกม ทำให้การสนทนาระหว่างการเล่นเกม (โดยเฉพาะการเล่นเป็นทีม) มีความชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ROG Phone 9 Pro Edition ยังมีฟีเจอร์ AI ใหม่ให้ใช้งานได้อีกนอกเหนือจากการเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็น Circle to Search แค่วงก็ค้นหาข้อมูลได้ทันที, AI Call Translator แปลภาษาขณะโทร ,AI Transcript ถอดข้อความจากไฟล์เสียง และสรุปได้ รวมถึง AI Wallpaper สร้างภาพพื้นหลังหน้าจอได้ตามใจด้วย AI รวมถึงมี Gamini เลขา
ประสบการณ์การเล่นเกมระดับคอนโซล
การเป็นเกมมิ่งสมาร์ทโฟนตัวจริง ไม่ได้อาศัยเพียงชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ROG Phone 9 Pro Edition ยังมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม AirTrigger ที่บริเวณขอบด้านข้างตัวเครื่อง ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้สามารถตอบสนองต่อการกดได้ดีกว่าเดิม
อีกทั้งยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ที่ด้านข้างตัวเครื่องสำหรับการเสียบชาร์จและการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้โดยไม่กีดขวางการจับถือ และซอฟต์แวร์เฉพาะสำหรับการเล่นเกมที่ช่วยให้สามารถควบคุมปรับแต่งได้ง่ายและอิสระผ่าน Armoury Crate และ Game Genie รวมถึงอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพสูงอย่าง AeroActive Cooler X Pro และ ROG Tessen Controller ที่พกพาสะดวกด้วยการพับเก็บใส่กระเป๋าได้สบายๆ
หน้าจอให้อัตรารีเฟรชสูงถึง 185Hz
ROG Phone 9 Pro Edition มาพร้อมจอแสดงผล Flexible AMOLED ของ Samsung ให้สีสันแม่นยำเที่ยงตรงด้วยค่าความผิดเพี้ยนของสี Delta E < 1 โดยมีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว รองรับขอบเขตในการแสดงสีกว้างสูงสุด 107.37% DCI-P3 / 145.65% sRGB / 103.16% NTSC สนับสนุน HDR10 ให้ความสว่างสูงสุด 2,500 นิต และมีโหมด Eye Protection ช่วยถนอมดวงตา
จอแสดงผลของ ROG Phone 9 Pro Edition ยังได้รับการปรับปรุงอัตรารีเฟรชให้สูงสุด 185Hz (ใน Game Genie) และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ในการปรับอัตรารีเฟรชหน้าจอโดยอัตโนมัติในช่วง 1 ถึง 120Hz และสามารถปรับอัตรารีเฟรชด้วยตัวเองได้สูงสุด 165Hz
ระบบเสียงระดับ Hi-Res Audio
ไม่เพียงแต่ให้ภาพที่คมชัด ด้านเสียง ASUS ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน ทำให้ ROG Phone 9 Pro Edition มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอคุณภาพสูง ให้เสียงระดับ Hi-Res Audio ได้รับการปรับจูนเสียงโดย DIRAC และรองรับ DIRAC VIRTUO สำหรับการเชื่อมต่อหูฟัง ไม่ว่าจะเป็นหูฟังไร้สาย (ผ่าน Bluetooth) หรือแบบมีสาย (3.5mm/USB-C) ให้เสียงที่มีมิติโอบล้อมเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ และยังผสานการทำงานของ AI เข้ามาช่วยในการตัดเสียงรบกวนแบบ Bi-Directional ในทุกการสื่อสาร ให้เสียงระหว่างการพูดคุยที่คมชัด เพื่อความสมบูรณ์แบบทั้งทางด้านความบันเทิงและการสื่อสาร
นอกจากนี้ เมื่อสวมเคสกันกระแทกของ ROG ผู้ใช้งานก็ยังได้รับประสบการณ์เสียงแบบ Front-Facing ด้วยเทคโนโลยี Audio Redirection เสมือนลำโพงสเตอริโอที่มีการวางตำแหน่งหันเข้าสู่ผู้ใช้งานโดยตรง และเพิ่มอรรถรสในการฟังให้เต็มอิ่มเมื่อใช้งานร่วมกับ AeroActive Cooler X Pro ซึ่งมีซับวูฟเฟอร์ในตัว ให้เสียงย่านต่ำที่หนักแน่นยิ่งขึ้นถึง 23.9%
กล้องหลัง 50MP ใช้ปุ่ม AirTrigger ถ่ายภาพได้
ด้านการถ่ายภาพ ROG Phone 9 Pro Edition ก็ได้รับการพัตนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกล้องหลักที่ใช้เซ็นเซอร์ LYTIA 700 ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS Hybrid Gimbal Stabilizer 4.0 แบบ 6 แกน มาพร้อมกล้อง Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับการซูมออปติคอล 3x และซูมได้สูงสุดถึง 30x อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ AirTrigger Capture ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสบริเวณปุ่ม AirTrigger ก็สามารถบันทึกภาพได้ทันที
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (Sony Lytia 700) ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.56” รูรับแสง f/1.9 เลนส์ 6P ระบบกันสั่น Gimbal OIS
- กล้อง Ultrawide 13 ล้านพิกเซล ให้มุมมองภาพ 120 องศา ดีไซน์เลนส์แบบ Freeform
- กล้อง Telephoto 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมออปติคอล 3x ระบบกันสั่น OIS
แอปกล้องของ ROG Phone 9 Pro Edition รองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait Video, Video, Photo, Portrait, AI Panning, Pro, Night, Panorama, Light Trail, Pro Video, Slo-motion และ Time-lapse
โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.7x จนสูงสุด 30x มีฟีเจอร์ Filters ที่แถบเครื่องมือด้านบนแต่ ASUS เรียกว่า Photo Vibe มีให้เลือก 5 แบบ แต่ละแบบจะให้โทนสีแตกต่างกันไป
โหมด Portrait รองรับการซูม 3 ระยะ 1x, 2x และ 3x สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ และมีเครื่องมือปรับแต่งใบหน้าอย่างละเอียด สามารถเพิ่มความงามบนใบหน้าได้ตามต้องการ
โหมด AI Panning ออกแบบมาเพื่อช่วยในการถ่ายภาพแบบติดตามวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ โดยใช้เทคนิคการแพนกล้อง เช่น จับภาพคนกำลังปั่นจักรยาน ซึ่งจะได้ภาพบุคคลที่โดดเด่นขึ้นมา ขระที่ฉากหลังถูกทำให้เบลอ
โหมด Video รองรับการซูมได้ที่ระยะ 0.7x จนสูงสุด 10x สามารถบันทึกวิดีโอสูงสุด 8K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที และมีเอฟเฟกต์การบันทึกเสียงแบบ 3D Surround ให้เลือกด้วย รวมถึงสลับไปใช้ฟีเจอร์ลดเสียงรบกวน และ Audio HDR
PORTRAIT Video โหมดใหม่ใน ROG Phone 9 Pro ช่วยให้การถ่ายวิดีโอละลายฉากหลังสวยงาม เป็นกล้องระดับภาพยนตร์ ความละเอียด 4K พร้อมระบบกันสั่น สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ ซูมได้ที่ระยะ 1x และ 3x
กล้องหน้า 32MP
ROG Phone 9 Pro Edition ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ RGBW ที่มีผสานพิกเซลสีขาวพิเศษ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจับแสง ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและมีจุดรบกวนต่ำแม้ในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังมีมุมมองภาพ 90 องศา รองรับการถ่ายเซลฟี่ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม
โหมด Photo ของกล้องหน้า สามารถสลับระหว่างมุมมองมาตรฐาน 1x และมุมมองมุมกว้างพิเศษ 0.7x ได้อย่างง่ายดาย มีฟีเจอร์ Photo Vibe ซึ่งเป็น Filters ของ ASUS เหมือนกล้องหลัง และมีเครื่องมือสำหรับปรับความงามบนใบหน้า
โหมด Portrait ของกล้องหน้า รองรับการซูม 2 ระยะ 0.7x และ 1x สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ และมีเครื่องมือปรับแต่งใบหน้าเช่นกัน
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถบันทึกวิดีโอสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที หรือ HD 720p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที และมีเอฟเฟกต์การบันทึกเสียงแบบ 3D Surround เหมือนกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่าย
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ROG Phone 9 Pro Edition ได้รับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,800mAh โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานแบตเตอรี่ให้มากขึ้น 3.5% ส่งผลให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานโดยรวมที่ดีขึ้นอย่างมาก และยังสามารถรักษาความจุแบตเตอรี่ได้มากกว่า 80% แม้ผ่านการชาร์จไปแล้ว 1,000 รอบ
ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,800mAh ทำให้ ROG Phone 9 Pro Edition สามารถดูวิดีโอสตรีมมิ่งนานถึง 22.1 ชั่วโมง / เลื่อนดูโซเชียลมีเดียได้ยาวนาน 23.4 ชั่วโมง / เล่นเกมหนักๆ ได้นานต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมง
สำหรับการชาร์จ ROG Phone 9 Pro Edition รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ROG HyperCharge สูงสุด 65W ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0 ถึง 100% ในระยะเวลาเพียง 46 นาที และรองรับการชาร์จไร้สายตามมาตรฐาน Qi 1.3 สูงสุด 15W โดยภายในกล่องแถมหัวชาร์จ 65W Power Adapter มาให้แล้ว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม (ยกเว้นอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย ที่ปกติก็ไม่มีแบรนด์ไหนแถมมาให้อยู่แล้ว)
นอกจากนี้ ROG Phone 9 Pro Edition ยังรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Bypass ช่วยลดความร้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกับการเล่นเกม ปกติแล้วการชาร์จแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนทั่วไป พลังงานจะถูกจ่ายจากหัวชาร์จไปยังแบตเตอรี่ในตัวเครื่อง แล้วส่งต่อพลังงานไปยังชิปเซ็ต แต่โหมดการชาร์จแบบ Bypass พลังงานจะข้ามแบตเตอรี่ในสมาร์ตโฟนแล้วจ่ายตรงไปยังชิปเซ็ต จึงทำให้สมาร์ตโฟนไม่เกิดความร้อนสูงระหว่างถูกชาร์จพร้อมกับการใช้งาน
สรุปราคาและการจำหน่าย
ROG Phone 9 Pro Edition เป็นสมาร์ทโฟนที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์เกมเมอร์โดยเฉพาะ ได้รับการต่อยอดมาจากรุ่นก่อน (ROG Phone 8 Series) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ไปแล้ว จึงเห็นว่า ROG Phone 9 Pro Edition มีความคล้ายกับรุ่นก่อนอยู่บ้าง แต่มาพร้อม AniMe Vision ที่ใหญ่ขึ้น ทำให้รองรับฟีเจอร์ AniMe Play สำหรับเล่นเกมคลาสสิกสไตล์พิกเซลได้ทันทีบนฝาหลัง
สิ่งที่ ROG Phone 9 Pro Edition ได้รับการปรับปรุงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน คือ ประสิทธิภาพ เนื่องจากได้รับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm และเป็นชิปที่ดีที่สุดของ Qualcomm ในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีความจำขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดา ROG Phone 9 Series พร้อมของแถมที่ไม่พบในรุ่นอื่นๆ อย่างพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X Pro ที่มีซับวูฟเฟอร์ในตัว ช่วยให้เสียงเบสที่หนักแน่นยิ่งขึ้น ทำให้ ROG Phone 9 Pro Edition ไม่ได้เป็นเพียงเกมมิ่งสมาร์ทโฟน แต่ยังเป็นเรือธงที่ตอบสนองการใช้งานด้านความบันเทิงและการถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ROG Phone 9 Series พร้อมวางจำหน่ายให้เหล่าเกมเมอร์สเป็นเจ้าของได้แล้ว โดยวางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่ ROG Phone 9 FE (16GB / 256GB) ราคา 29,990 บาท, ROG Phone 9 Pro (16GB / 512GB) ราคา 39,990 บาท และ ROG Phone 9 Pro Edition (24GB / 1TB) ราคา 49,990 บาท มาพร้อมพัดลม Aero Active Cooler X Pro ในกล่อง ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ผ่านทาง AIS, ASUS Online Store, ASUS Official Store บน Lazada และ Shopee, และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมกับจัดโปรโมชันสุดพิเศษ “Early Bird” ซื้อก่อนคุ้มกว่า โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- เมื่อซื้อ ROG Phone 9 ทุกรุ่น รับฟรี! ROG Phone 9 Chill Case มูลค่า 1,490 บาท / ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาท / ROG Phone 9 Screen Protector มูลค่า 690 บาท (ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 มีนาคม 2568 โดยของแถมมีจำนวนจำกัด)
- พิเศษ! เฉพาะในงาน Thailand Mobile Expo 2025 รับของแถมเพิ่มทันที ได้แก่ จอย ROG Tessen Mobile Controller มูลค่า 3,590 บาท (เฉพาะรุ่น ROG Phone 9 Pro/9 Pro Edition) / หูฟัง ROG Cetra True Wireless มูลค่า 1,990 บาท (เฉพาะรุ่น ROG Phone 9 FE) (ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2568 โดยของแถมมีจำนวนจำกัด)