Alldocube แบรนด์เทคโนโลยีที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยแท็บเล็ตและแล็ปท็อปที่มีคุณภาพในราคาเข้าถึงได้ง่าย จนก้าวขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม Top 10 แบรนด์แท็บเล็ตตัวท็อประดับโลก และล่าสุดได้ขยายตลาดในไทยให้กว้างขวางมากขึ้น ด้วยการส่งแท็บเล็ตมาให้ทีมงาน @flashfly รีวิวพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ Alldocube iPlay50 mini และ Alldocube iPlay60 Pad Pro ส่วนแต่ละรุ่นจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง? เลื่อนลงมาหาคำตอบกันได้เลย
Alldocube iPlay50 mini
Alldocube iPlay50 mini เป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดเหมาะมือด้วยจอแสดงผล 8.4 นิ้ว งานประกอบแข็งแรงใช้วัสดุที่มีคุณภาพเกินราคา สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม บนมาตรฐานเครือข่ายสูงสุด 4G LTE และยังมีสเปกที่คุ้มค่า เพียงพอต่อการใช้งานด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะรับชมวิดีโอในรูปแบบสตรีมมิ่ง หรือจะใช้งานแทนสมาร์ทโฟนก็เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้สูงวัยที่ต้องการอุปกรณ์พกพาที่มีหน้าจอขนาดใหญ่
สเปก iPlay50 mini
- จอแสดงผล IPS (1920 x 1200) ขนาด 8.4 นิ้ว
- ชิปประมวลผล Unisoc T606
- ความจำ RAM 4GB + ROM 64GB / RAM 4GB + ROM 128GB
- รองรับ Virtual RAM สูงสุด 8GB
- สนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 512GB
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล
- การเชื่อมต่อ 4G LTE (Dual SIM), Wi-Fi 802.11ac/a/b/g/n, Bluetooth 5.0, USB Type-C, OTG, 3.5mm Headphone Jack
- ระบบปฏิบัติการ Android 13
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- ขนาดตัวเครื่อง 202.7 x 126 x 7.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 292 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
ดีไซน์เหมาะมือ ใช้วัสดุคุณภาพสูง
แท็บเล็ต iPlay50 mini มาในสีเทาเข้ม Space Gray ซึ่งเป็นเฉดสีที่ดูแลง่าย เข้ากันได้ดีกับทุกเพศทุกวัย เหนือสิ่งอื่นใดคืองานประกอบตัวเครื่องที่แน่นหนาแข็งแรง อีกทั้งยังใช้วัสดุโลหะคุณภาพสูง และมีดีไซน์บางเพียง 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 292 กรัม ทำให้จับถือ พกพาได้ง่าย ถ้าเป็นมือของผู้ใหญ่สามารถถือได้ด้วยมือเดียว
จอแสดงผลเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ iPlay50 mini มีขนาดเล็กพกพาสะดวก เนื่องจากจอแสดงผลของ iPlay50 mini มีพื้นที่ขอบหน้าจอบางรอบด้าน ทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่เกินไป โดยมีขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้ว และใช้เทคโนโลยี In-cell ช่วยเพิ่มความไวของเซ็นเซอร์ พร้อมลดความหนาของหน้าจอ ทำให้แท็บเล็ต iPlay50 mini มีรูปทรงเพรียวบาง กล้องหน้า ซ่อนอยู่ที่ขอบบนหน้าจอ เมื่อจับถือในแนวตั้ง
ด้านหลังมีพื้นผิวด้าน ดีไซน์แบนราบ ติดตั้งกล้องหลังมาให้ 1 ตัว ที่มุมบนซ้ายมือ ส่วนขอบบนและขอบล่างเป็นเส้นเสาอากาศ ตามสไตล์ของตัวเครื่องที่เป็นอะลูมิเนียม
ขอบด้านข้างดีไซน์แบนราบ บางเพียง 7.5 มิลลิเมตร วางปุ่มเพาเวอร์ ไว้เหนือปุ่มปรับระดับเสียง
อีกข้างพบรูไมโครโฟน ถัดลงมาเป็นถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมแบบไฮบริด หมายความว่า ถ้าใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง จะใส่การ์ด microSD ไม่ได้ ถ้าต้องการใส่การ์ด microSD จะใส่ซิมการ์ดได้ 1 ช่อง โดยรองรับ 4G LTE ทั้ง 2 ช่อง และสนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 512GB
พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านบน และตรงมุมจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ขอบด้านล่างจะพบกับช่องลำโพง
ขนาดหน้าจอกำลังพอดี
iPlay50 mini มาพร้อมจอแสดงผล IPS ให้ความคมชัดแม้มองจากมุมมองด้านข้าง มีความลึกสี 16 ล้านสี ความละเอียด 1200 x 1920 พิกเซล ขนาด 8.4 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 270 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) อัตราส่วนคอนทราสต์ 1200:1 และมีดีไซน์ขอบจอบางรอบด้าน ถือเป็นจอภาพที่มีขนาดไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ทำให้ขนาดตัวเครื่องอยู่ในเกณฑ์กำลังดี จับถือได้ง่าย พกพาสะดวก
จอแสดงผลของ iPlay50 mini สนับสนุน Widevine L1 ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับชมวิดีโอในรูปแบบสตรีมมิ่งด้วยความละเอียดสูง Full HD 1080P จากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, Hulu, Amazon Prime Video และ Disney Plus จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นอุปกรณ์ให้ความบันเทิงที่พกพาติดตัวไปได้ทุกที่ หรือ จะใช้อ่านอีบุ๊คก็ถือได้นานไม่เมื่อยมือ เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ 10 นิ้ว ขึ้นไป
รองรับ 4G LTE (Dual SIM)
iPlay50 mini รองรับการโทรบนเครือข่าย 4G / 3G / 2G และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทั้ง 4G LTE และ Wi-Fi 802.11ac/a/b/g/n (2.4GHz/5GHz) และด้วยขนาดตัวเครื่องที่บางเบา (บาง 7.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 292 กรัม) จึงสามารถพกพาได้อย่างสะดวก จะใช้งานแทนสมาร์ทโฟนก็ไม่ใช่เรื่องยาก เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่ต้องการอุปกรณ์จอใหญ่ และไม่เป็นภาระเมื่อต้องพกพาติดตัวไปด้วย
ฟังก์ชันการโทรของ iPlay50 mini ทำได้เหมือนกับสมาร์ทโฟน หรือจะเรียกว่า iPlay50 mini เป็นสมาร์ทโฟนก็คงจะไม่ผิด เพียงแต่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ยังมีขนาดกะทัดรัดที่ผู้ใหญ่สามารถจับถือได้ด้วยมือเดียวโดยเสียงจะดังออกลําโพงเลย หรือหากต้องการความเปนส่วนตัวได้ด้วยการเชือมต่อหูฟัง หรือ จะเปิดลำโพงเพื่อสนทนาแบบแฮนด์ฟรี ก็ได้เช่นกัน รวมถึงสนทนาผ่านหูฟังได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
ด้วยขนาดหน้าจอใหญ่ 8.4 นิ้ว ทำให้ iPlay 50 mini เป็นได้ทั้งอุปกรณ์ที่ให้ความบันเทิง และยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะอ่านอีบุ๊ค เรียนออนไลน์ ไปจนถึงผู้ประกอบการ จะใช้เป็นเมนูอาหาร หรือ แสดง QR Code เพื่อให้ลูกค้าสแกนจ่ายก็ทำได้อย่างสะดวก
ประสิทธิภาพ
iPlay50 mini ใช้ชิปประมวลผล Unisoc T606 ที่มี CPU แบบ 8-core (Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 1.6GHz) เพียงพอสำหรับเล่นเกม ROV หรือ Asphalt Legends Unite โดยให้ความจำ RAM 4GB รองรับ Virtual RAM สูงสุด 8GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 12GB ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นแบบ UFS 2.1 มี 2 ตัวเลือก ได้แก่ 64GB และ 128GB สามารถขยายได้อีก 512GB ผ่านการ์ด microSD โดยมีความจุแบตเตอรี่ 4000mAh ชาร์จได้สูงสุด 10W
กล้อง 2 ตัว 5MP + 5MP
iPlay50 mini ได้รับกล้อง 2 ตัว ความละเอียดเท่ากัน 5 ล้านพิกเซล โดยแบ่งเป็นกล้องหน้า และ กล้องหลัง ในส่วนของกล้องหน้าติดตั้งอยู่ที่ขอบบนหน้าจอ เมื่อจับถือในแนวตั้ง รองรับทั้งการถ่ายภาพเซลฟี่ และ วิดีโอแชท มีฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับแต่งผิวหน้า ความเนียน กระจ่างใส และเปิดฟีเจอร์ HDR ในกล้องหน้าได้
กล้องหน้าของ iPlay50 mini ยังรองรับโหมด Portrait ที่สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ และยังมีฟีเจอร์ Beauty และ HDR เหมือนการถ่ายเซลฟี่ปกติ สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า รองรับความละเอียดสูงสุด HD 720p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
กล้องหลังติดตั้งอยู่ในกรอบวงแหวนที่มุมบนซ้าย รองรับโหมดถ่าภาพ Panorama, Portrait, Pro, Capture (Photo), Video, Slow motion และอีกหลากหลายโหมด รวมอยู่ใน More ขณะที่โหมด Video บันทึกได้สูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
Alldocube iPlay60 Pad Pro
iPlay60 Pad Pro ถูกสร้างมาให้เป็นอุปกรณ์ 3-in-1 สามารถใช้งานได้ 3 โหมด ได้แก่ แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน และ แล็ปท็อป ตอบสนองการใช้งานได้ทั้งความบันเทิงจากลำโพง 4 ตัว ตลอดจนใช้ทำงานแทนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เมื่อเชื่อมต่อกับแผงคีย์บอร์ด โดดเด่นที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว ให้สีสันสดใส คมชัด ดีไซน์บางเบา ให้สัมผัสพรีเมียมด้วยวัสดุโลหะ และมีประสิทธิภาพที่คุ้มค่าเกินราคา
สเปก ALLDOCUBE iPlay60 Pad Pro
- จอแสดงผล IPS (2560 x 1600 พิกเซล) ขนาด 12.1 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G99
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB
- รองรับ Virtual RAM สูงสุด 12GB
- สนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 1TB
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล
- ลำโพง 4 ตัว
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.2, USB Type-C, OTG
- เซ็นเซอร์ Gravity sensor, Light sensor, Hall sensor
- ระบุตำแหน่ง GPS / Beidou / Glonass / Galileo
- ระบบความปลอดภัย Face Recognition / Face Unlock
- ระบบปฏิบัติการ Android 14
- แบตเตอรี่ 10000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 33W
- ขนาดตัวเครื่อง 180 x 278 x 7.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 599 กรัม
ดีไซน์บางเบา ให้สัมผัสพรีเมียม
iPlay60 Pad Pro ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงามพรีเมียม ด้วยวัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง งานประกอบแข็งแรง มาในเฉดสีเทาเข้ม เน้นดีไซน์บางเบา ถึงแม้จะมีจอแสดงผลขนาดใหญ่ถึง 12.1 นิ้ว ก็ยังคงจับถือได้ยาวนานหลายชั่วโมงกว่าจะรู้สึกหนักมือ เนื่องจากมีความบางเพียง 7.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 599 กรัม
Alldocube ออกแบบจอแสดงผลของ iPlay60 Pad Pro ให้มีพื้นที่ขอบหน้าจอให้บางเป็นพิเศษ และบางเท่ากันรอบด้าน ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 87.7% โดยขอบหน้าจอด้านบน (เมื่อใช้งานในแนวนอน) ยังซ่อนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค (Face Unlock) ถ่ายเซลฟี่ หรือวิดีโอแชท
ด้านหลังดีไซน์ราบเรียบ วางกล้องหลัง AI Camera ไว้ที่มุมบนขวามือ (เมื่อใช้งานในแนวนอน) โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และติดแฟลช LED ไว้ในกรอบเดียวกัน
ขอบด้านข้างดีไซน์เรียบแบน มีความบางเพียง 8.4 มิลลิเมตร ติดตั้งปุ่มเพาเวอร์ ไว้เหนือปุ่มปรับระดับเสียง พร้อมช่องลำโพง 2 ช่อง
อีกข้างพบถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 4G LTE Dual SIM โดยมีลำโพงติดตั้งมาให้อีก 2 ตัว (รวมทั้งหมดมีลำโพง 4 ตัว) และกึ่งกลางเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB Type-C
ไมโครโฟนของ iPlay60 Pad Pro ติดตั้งไว้ที่ขอบด้านบน (เมื่อใช้งานในแนวนอน)
ขอบด้านล่างของตัวเครื่อง (เมื่อใช้งานในแนวนอน) จะพบ Pogo Pin สำหรับเชื่อมต่อกับเคสคีย์บอร์ด ซึ่ง Alldocube แถมมาให้ด้วย พร้อมกับปากกาสไตลัส
เคสคีย์บอร์ด
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า iPlay60 Pad Pro รองรับการใช้งานได้ 3 โหมด คือ แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน และ แล็ปท็อป และเพื่อรองรับการทำงานในโหมดแล็ปท็อป หรือ PC Mode เคสคีย์บอร์ดจึงเป็นของแถมที่ขาดไม่ได้
เคสคีย์บอร์ดที่ Alldocube แถมมาให้มีมูลค่า 1,499 บาท สามารถปกป้องตัวเครื่อง iPlay60 Pad Pro ได้รอบด้าน มีขาตั้งในตัว พร้อมปุ่มคีย์บอร์ด 78 ปุ่ม และ แทร็คแพดขนาดใหญ่ รองรับมัลติทัช โดยเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตผ่าน Pogo Pin ที่ขอบล่างของตัวเครื่อง และทันทีที่ประกบเคสคีย์บอร์ดเข้ากับแท็บเล็ต หน้าจอจะมีหน้าต่างแจ้งเตือนให้เลือกใช้ PC Mode หรือ Tablet Mode
ทั้งนี้ Alldocube ยังแถมสติกเกอร์ภาษาไทยสำหรับติดบนแผงคีย์บอร์ดมาให้ด้วย หมดกังวลเรื่องการป้อนข้อความทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
ปากกาสไตลัส
นอกจากเคสคีย์บอร์ด Alldocube ยังแถมปากกาสไตลัสมาให้ด้วย มูลค่า 499 บาท ตัวด้ามสีขาว ส่วนขอบเป็นสันเหลี่ยม ช่วยให้จับได้ถนัด เหมือนปากกาจริง และยังมีหัวปากกาถึง 4 แบบ (มีปลอกปากกาทั้ง 2 ฝั่งของปลายด้าม เมื่อถอดปลอกออกก็จะพบกับหัวปากกาอีกรูปแบบ) รองรับทั้งงานวาดเขียน หรือใช้สัมผัสควบคุมหน้าจอแทนปลายนิ้วได้อย่างแม่นยำ
PC Mode
เมื่อสวมเคสเข้ากับ iPlay60 Pad Pro ทำให้แท็บเล็ตกลายร่างเป็นแล็ปท็อปทันที ซึ่งไม่ได้เหมือนเพียงแค่ภาพลักษณ์เท่านั้น แต่ iPlay 60 Pad Pro ยังมาพร้อม PC Mode โดยจะเปลี่ยน User Interface ให้เหมาะสำหรับการทำงานคล้ายกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเปิดใช้ PC Mode ได้ทันที เมื่อเชื่อมต่อแท็บเล็ตกับเคสคีย์บอร์ดที่แถมมาให้
เมื่อเปิดใช้งาน PC Mode หน้าตา User Interface ก็จะเปลี่ยนจากโหมดแท็บเล็ตเป็นโหมดเดสก์ท็อปหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยไอคอนแอปต่างๆ จะวางเป็นแถวในแนวตั้งทางซ้ายมือ และมีทาส์กบาร์ที่ขอบล่าง สามารถเปิดแอปในรูปแบบหน้าต่าง และเปิดพร้อมกันได้หลายแอปพร้อมกัน สามารถย้ายหน้าต่างแต่ละแอปได้อิสระ หรือวางซ้อนกัน เหมือนใช้งานแล็ปท็อป
หน้าจอคมชัด ขนาดใหญ่
iPlay 60Pad Pro มาพร้อมจอแสดงผล IPS ระบบสัมผัสแบบมัลติทัช 10 จุด เช่นเดียวกับ iPlay 50 mini แต่มีความละเอียดสูงกว่า ขนาดใหญ่กว่า และให้สีสันคมชัดกว่า โดยมีความละเอียด 2.5K (2560 x 1600 พิกเซล) ขนาด 12.1 นิ้ว (เหมาะสำหรับการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอ) ความหนาแน่นของพิกเซล 249 PPI รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz ให้สีสัน 1.07 พันล้านสี ความสว่างสูงสุด 550 นิต สนับสนุน Widevine L1
ลำโพง 4 ตัว
iPlay60 Pad Pro ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่มทั้งภาพและเสียง ซึ่งด้านภาพได้กล่าวไว้แล้วว่ารองรับ Widevine L1 จึงสามารถรับชมวิดีโอในรูปแบบสตรีมมิ่งด้วยความละเอียดสูง Full HD 1080P จากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, Hulu, Amazon Prime Video และ Disney Plus ด้านเสียงก็ติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว แบ่งออกเป็น 2 คู่ วางแยกไว้ที่ด้านซ้ายและขวา (เมื่อใช้งานในแนวนอน) ซึ่งให้เสียงดังชัดใส มีมิติ และด้วยจอภาพคมชัดระดับ 1.07 พันล้าน ขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว รับรองว่าถูกใจคอหนังและนักฟังเพลงอย่างแน่นอน
4G LTE + Dual Band Wi-Fi
นอกจากจะใช้งานเป็นแท็บเล็ตกับแล็ปท็อป iPlay60 Pad Pro ยังใช้งานแทนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย โดยสนับสนุนการเชื่อมต่อ 4G LTE พร้อมรองรับฟังก์ชันการโทร รับส่งข้อความ ได้เหมือนสมาร์ทโฟน เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าสามารถสนทนาผ่านลำโพงตัวเครื่องหรือใช้หูฟัง และแน่นอนว่า iPlay60 Pad Pro สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ได้เช่นกัน ทั้งย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz เปิดใช้งานเป็นแผนที่นำทางได้อีกด้วย
ชิป MediaTek Helio G99
iPlay60 Pad Pro ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล MediaTek Helio G99 ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ 64-bit 8-core ที่มี Arm Cortex-A76 ความเร็วสูงสุด 2.2GHz (2-core) + Arm Cortex-A55 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz (6-core) และ GPU เป็น Arm Mali G57 MC2 ให้ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการทำงานและเล่นเกมได้ราบรื่น อีกทั้งยังเป็นชิปที่รองรับ 4G LTE (ใส่ได้ 2 ซิม) ผนวกกับ Wi-Fi 5 จึงไม่พลาดการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะใช้งานในบ้าน สำนักงาน หรือ นอกสถานที่
ความจำขนาดใหญ่
ด้านความจำ iPlay60 Pad Pro มีตัวเลือกเดียว RAM 8GB พร้อมรองรับ Virtual RAM สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 20GB ช่วยให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันลื่นไหล และเก็บข้อมูลได้จุใจกับ ROM 128GB ที่สามารถเพิ่มความจุได้ด้วยการ์ด microSD นอกจากนี้ iPlay60 Pad Pro ยังมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 10,000mAh และสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จไว 33W
แบตใหญ่ 10,000mAh ชาร์จไว 33W
อีกจุดเด่นของ iPlay60 Pad Pro คือมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 10,000mAh ขณะที่มีตัวเครื่องบางเพียง 7.4 มิลลิเมตร อีกทั้งยังใช้ชิปประมวลผลระดับ 6 นาโนเมตร ที่มีเทคนิคประหยัดพลังงานอัจฉริยะ ทำให้ iPlay60 Pad Pro ให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน สามารถพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสบายใจ และเมื่อถึงเวลาที่พลังงานใกล้หมด iPlay60 Pad Pro ก็สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ซึ่งชาร์จได้เร็วกว่าการชาร์จ 5V 2A แบบเดิมถึง 200% จึงชาร์จแบตเตอรี่ให้กลับมาเต็ม 100% ได้อย่างรวดเร็ว แม้มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
กล้อง 2 ตัว 16MP + 8MP
iPlay 60 Pad Pro ได้รับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED โหมดถ่ายภาพนิ่ง รองรับฟีเจอร์ HDR สามาถรแตะไอคอนฟันเฟือง เพื่อตั้งค่ากล้องเพิ่มเติมได้ ทั้งโหมดถ่ายภาพ, ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ, ปรับความละเอียดหรืออัตราส่วนภาพถ่าย, เปิด-ปิดฟีเจอร์ Zero Shutter Delay และ ปรับสมดุลสีขาว สำหรับกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพและวิดีโอ มีฟีเจอร์ HDR เช่นกัน
Face Unlock
นอกจากถ่ายภาพเซลฟี่ บันทึกวิดีโอ และ วิดีโอแชท กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ยังสามารถสแกนและจดจำใบหน้า เพื่อใช้งานฟีเจอร์ Face Unlock หรือ ปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า ซึ่งเป็นระบบปลดล็อคที่มอบความสะดวกสบายมากกว่าการป้อนรหัสผ่าน โดยเฉพาะอุปกรณ์แท็บเล็ตขนาดใหญ่ ที่ปกติต้องถือด้วย 2 มือ
นอกจากนี้ iPlay 60 Pad Pro ยังรองรับฟีเจอร์ Double-Tap Wake หรือเปิดหน้าจอด้วยการแตะ 2 ครั้ง เมื่อทำงานร่วมกับ Face Unlock ก็ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มเพาเวอร์อีกต่อไป เพียงแค่แตะหน้าจอ 2 ครั้ง แล้วสแกนใบหน้า ก็สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้ทันที
สรุปราคาและการจำหน่าย
iPlay 50 mini และ iPlay 60 Pad Pro เป็นแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานจำนวนหนึ่ง ที่เน้นความคุ้มค่า ซึ่งก่อนหน้านี้มีร้านค้าปลีกรายย่อยนำเข้ามาจำหน่าย แต่ปัจจุบัน ALLDOCUBE ได้เข้ามาทำตลาดในไทยด้วยตัวเองแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานวางใจได้มากขึ้น ซึ่งแท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่น มีงานประกอบที่แข็งแรง ใช้วัสดุคุณภาพสูง และจัดสเปกมาแบบคุ้มค่าเกินราคา
iPlay50 mini โดดเด่นที่ขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้ว รองรับ 4G LTE สามารถใช้งานแทนสมาร์ทโฟนได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่ต้องการอุปกรณ์หน้าจอขนาดใหญ่ และยังสามารถจับถือได้ด้วยมือเดียว และยังมีราคาที่เหมาะสมถ้าหากผู้ปกครองต้องการซื้อแท็บเล็ตให้เด็กๆ ขณะที่ iPlay60 Pad Pro ชูจุดเด่นที่จอแสดงผลให้สีสันสวยงาม คมชัด ขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว พร้อมลำโพง 4 ตัว และมีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการทำงานและเล่นเกม เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษาหรือคนทำงานรุ่นใหม่
ทั้งนี้ iPlay50 mini และ iPlay60 Pad Pro พร้อมวางจำหน่ายในไทยแล้ว ผ่านร้านค้าทางการของ Alldocube บนแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada และ TikTok
iPlay50 mini มีให้เลือก 2 รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB ราคา 3,990 บาท และ RAM 4GB + ROM 128GB ราคา 4,490 บาท ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้วจากโรงงาน แถมเคสป้องกันตัวเครื่อง มูลค่า 199 บาท, สายชาร์จ USB-C และ หัวชาร์จ มูลค่า 199 บาท พร้อมรับประกันนาน 1 ปี เคสพับสี เทา ดํา สินค้าทีลูกค้าซือแยกได้ 299 บาท ซื้อได้แล้วทีหน้าร้านค้าชั้นนําและตัวแทนจําหน่ายทั่วประเทศ
Alldocube iPlay50 mini
SHOPEE
Alldocube_ Official Store
https://url.in.th/kfjje
LAZADA
Alldocube Thailand
https://url.in.th/svzEc
TIKTOK
Alldocube Thailand
https://url.in.th/vSwRy
iPlay 60 Pad Pro มีตัวเลือกเดียว RAM 8GB + ROM 128GB วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท มาพร้อมของแถมสุดคุ้ม เริ่มจากเคสคีย์บอร์ด (มูลค่า 1,499 บาท) ที่ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องแท็บแล็ปในระหว่างพกพา ยังมีคีย์บอร์ดในตัว จึงสามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นแล็ปท็อปได้, ปากกาสไตลัส (มูลค่า 499 บาท) สำหรับการทำงานเชิงสร้างสรรค์ และ สายชาร์จ USB-C พร้อมรับประกันนาน 1 ปี
Alldocube iPlay60 Pad Pro
iPlay 60 Pad Pro มีตัวเลือกเดียว RAM 8GB + ROM 128GB วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท มาพร้อมของแถมสุดคุ้ม เริ่มจากเคสคีย์บอร์ด (มูลค่า 1,499 บาท) ที่ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องแท็บแล็ปในระหว่างพกพา ยังมีคีย์บอร์ดในตัว จึงสามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นแล็ปท็อปได้, ปากกาสไตลัส (มูลค่า 499 บาท) สำหรับการทำงานเชิงสร้างสรรค์ และ สายชาร์จ USB-C พร้อมรับประกันนาน 1 ปี
Alldocube iPlay60 Pad Pro
SHOPEE
Alldocube_Official Store
https://shopee.co.th/product/1327145408/28680563711
LAZADA
Alldocube Thailand
https://www.lazada.co.th/products/i5672448814.html
TIKTOK
Alldocube Thailand
https://shop.tiktok.com/view/product/1732158273212483846
บริการหลังการขายรับประกันสินค้าศูนย์ไทย 1 ปีเต็ม
- เบอร์โทร: 082-0629696 (จ.-ศ. 09.00-18.00 น.)
- Add LINE : @alldocube.th เพื่อทำการนัดหมายส่งซ่อม โดยจะมีพนักงานขนส่งเข้าไปรับถึงบ้าน
- ศูนย์บริการ: สามารถเข้าไปติดต่อส่งซ่อมผ่านศูนย์บริการ realme service ทั้งหมด 18 แห่งทั่วประเทศ
#ออลดูคิวบ์ #Alldocube #iPlay50Mini #iPlay60PadPro #สมาร์ทแท็บเล็ต