realme กลับมาทวงบัลลังก์ Flagship Killer 2025 ด้วยสมาร์ตโฟน realme GT 7 Series ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ แบตเตอรี่ใหญ่จุใจ และระบบชาร์จไฟเร็วสุดขั้ว โดยทีมงาน @flashfly ได้รับมารีวิวพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ realme GT 7 และ realme GT 7T ทั้งคู่มีดีไซน์ที่โดดเด่น เรียกว่า IceSense Design นับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนกับการนำวัสดุ Graphene มาติดตั้งไว้ทั้งบริเวณฝาหลังและใต้จอแสดงผล เพื่อช่วยระบายความร้อนแบบรอบด้าน และมีเทคโนโลยี GT Boost ที่ใช้ AI มาช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล 120FPS นอกจากนี้ ยังได้รับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh พร้อมชาร์จไว 120W
แกะกล่อง realme GT 7 Series
สมาร์ตโฟน realme GT 7 และ realme GT 7T ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีดำ หน้ากล่องติดชื่อรุ่น GT 7 และ GT 7T ด้วยตัวอักษรสีขาวขนาดใหญ่ มุมบนมีสัญลักษณ์ AI และวางโลโก้ realme ที่ส่วนล่าง เมื่อพลิกมาดูหลังกล่อง จะพบจุดเด่นของทั้ง 2 รุ่น
หลังกล่อง realme GT 7 ระบุจุดเด่นไว้ 6 รายการ ได้แก่ ชิปประมวลผล Dimensity 9400e ของ MediaTek, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh, รองรับชาร์จเร็ว 120W, กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX906 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization), จอแสดงผลให้ความสว่างสูงสุด 6000 นิต และได้รับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP69
หลังกล่อง realme GT 7T ระบุจุดเด่นไว้ 6 รายการเช่นกัน ได้แก่ ชิปประมวลผล Dimensity 8400-MAX, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh, ชาร์จเร็ว 120W, กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX896 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, จอแสดงผลให้ความสว่างสูงสุด 6000 นิต และได้รับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP69
ภายในกล่องของทั้งคู่ จะพบกับสมาร์ตโฟน realme GT 7 Series พร้อมแบตเตอรี่ในตัว, แถมเคสมาให้ 1 อัน, คู่มือ, ใบรับประกัน, เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด, สายชาร์จ และ หัวชาร์จ รองรับชาร์จเร็ว 120W
ดีไซน์ภายนอก ป้องกันน้ำ IP69
ดีไซน์โดยรวมของ realme GT 7 และ realme GT 7T มีส่วนคล้ายกันมาก อีกทั้งยังมีสีดำ IceSense Black และ สีฟ้า IceSense Blue ให้เลือกเช่นกัน แต่ realme GT 7T มีสีเหลือง Racing Yellow เพิ่มเข้ามา โดยทีมงาน @flashfly ได้รับ realme GT 7 สีฟ้า กับ realme GT 7T สีดำ มารีวิว
มุมมองด้านหน้าของ realme GT 7 และ realme GT 7T เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทั้งคู่มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ที่ให้ความสว่างสูงสุด 6000 นิต ขนาดหน้าจอก็ใกล้เคียงกันมาก ประมาณ 6.8 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่นยังติดตั้งกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ไว้ในหลุมบนหน้าจอ และซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล
ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง 2 รุ่นนี้ ดูได้ที่กล้องหลัง realme GT 7 ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ขณะที่ realme GT 7T มีกล้องคู่หลัง พร้อมแฟลชแบบวงแหวน
ขอบด้านข้างของ realme GT 7 และ realme GT 7T มีความบางประมาณ 8.3 มิลลิเมตร น้ำหนักไม่ต่างกันมากนัก
ทั้ง 2 รุ่น วางปุ่มปรับระดับเสียงไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์ โดยปุ่มเพาเวอร์ของ realme GT 7 และ realme GT 7T ทั้ง 2 สีมีการใช้สีส้มหรือสีเหลือง ทำให้โดดเด่นขึ้นมา เข้ากับสีกรอบตัวกล้องด้านหลัง
มุมมองด้านบนของทั้งคู่ วางองค์ประกอบต่างๆ ในตำแหน่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟน, ลำโพง และ เซ็นเซอร์อินฟราเรด
ด้านล่างประกอบด้วย ลำโพงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนตัวหลัก และ ถาดใส่ซิมการ์ด (รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Nano SIM)
realme GT 7 Series ยังใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง Indium Laser-Etched Frame โดยใช้กรอบโลหะสุดพรีเมียม ผสานกับเทคโนโลยีการยิงเลเซอร์ เพื่อสร้างลวดลายบนพื้นผิวที่หรูหรา และ Pro-Gaming Coating การเคลือบผิวฝาหลังแบบเดียวกับเมาส์เกมมิ่งระดับโปร ทำให้เกิดผิวสัมผัสที่หนึบมือ ไม่ลื่นแม้เล่นเกมเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ realme GT 7 และ realme GT 7T ยังได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP69 ขณะที่เรือธงในตลาดส่วนใหญ่อยู่ในระดับ IP68 หมายความว่า realme GT 7 Series ทั้ง 2 รุ่น สามารถทนฝุ่นได้เต็มรูปแบบและป้องกันน้ำในระดับสูงสุด ไม่เพียงแต่อยู่รอดในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน 2 เมตร นานสูงสุด 30 นาที แต่ยังป้องกันความเสียหายจากน้ำที่มีความร้อนสูง (อุณหภูมิสูง 80±5 องศาเซลเซียส)
realme GT 7
realme GT 7 ชูจุดเด่นที่ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ของ MediaTek มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX906 + OIS มีกล้อง Telephoto จอแสดงผลให้ความสว่างสูงสุด 6000 นิต และดีไซน์มาเพื่อความเย็น (IceSense Graphene)
สเปก realme GT 7
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 6000 นิต
- กล้องหลัง 50MP Main + 50MP Telephoto + 8MP Ultra-Wide Camera
- กล้องหน้า 32MP Front Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9400e
- ความจำ RAM 12GB / 16GB + ROM 256GB / 512GB
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 12GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, 360° NFC, Dual Band GPS L1 + L5
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 (บนพื้นฐาน Android 15)
- มาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP69
- แบตเตอรี่ Titan 7000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ IceSense Black และ IceSense Blue
- ขนาดตัวเครื่อง 162.42 x 76.13 x 8.30 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 206 กรัม
สมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ใช้ดีไซน์ IceSense Graphene
นอกจากจะต้านทานน้ำได้อย่างดี realme GT 7 และ realme GT 7T ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่นำกราฟีนมาใช้ในการออกแบบ เรียกว่า “IceSense Graphene” เพื่อทำให้อุณหภูมิตัวเครื่องมีความเย็น เปรียบเหมือนลำธารน้ำแข็งที่ช่วยระบายความร้อนจากภายในสมาร์ตโฟน
ด้วยดีไซน์ IceSense Graphene ทำให้ realme GT 7 Series ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมฝาหลังที่มีแผ่นกราฟีนแทรกอยู่ระหว่างชั้นไฟเบอร์กลาสของฝาครอบแบตเตอรี่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางมิลลิเมตร และสามารถนำความร้อนสูงได้ดีกว่าฟิล์มกราไฟต์ทั่วไปถึง 10 เท่า
ข้อดีของแผ่นกราฟีน คือ สามารถนำความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ฝาครอบด้านหลังของ realme GT 7 Series นำความร้อนได้ดีขึ้น 24 เท่า เมื่อเทียบกับฝาครอบไฟเบอร์กลาสทั่วไป และนำความร้อนได้ดีขึ้น 6 เท่า เมื่อเทียบกับฝาครอบแบบกระจก อีกทั้ง ยังช่วยให้มือที่กำลังถือสมาร์ตโฟนเย็นสบาย แม้ใช้งานนานหลายชั่วโมง
นอกจากนี้ realme GT 7 Series ยังมีฟีเจอร์ Skin-Touch Temperature Control ช่วยปรับอุณหภูมิของตัวเครื่องเพื่อทำให้ผิวสัมผัสเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะใช้งานในสภาพอากาศร้อนหรือเย็นจัด realme GT 7 Series ก็ยังให้อุณหภูมิที่เหมาะสม สัมผัสแล้วสบายมือ
แบตใหญ่ ชาร์จไว รองรับการชาร์จแบบ Bypass
แบตเตอรี่เป็นอีกจุดเด่นของ realme GT 7 เนื่องจากมาพร้อมแบตเตอรี่ Titan ขนาดใหญ่พิเศษ 7000mAh แต่ยังคงความบางของตัวเครื่องไว้ที่ 8.30 มิลลิเมตร สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน จากการทดสอบแบตเตอรี่นานต่อเนื่อง 7.8 ชั่วโมง ทั้งเล่นเกม 2 ชั่วโมง, ดูวิดีโอออนไลน์ 2.5 ชั่วโมง และใช้งานแอปโซเชียลมีเดียต่างๆ พลังงานของแบตเตอรี่ก็ยังเหลืออีกเยอะ
realme GT 7 ยังผ่านการทดสอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยการเล่นเกม PUBG นานต่อเนื่องได้ 6.36 ชั่วโมง หรือ ดูวิดีโอบน YouTube นานสูงสุด 20.66 ชั่วโมง และสามารถสแตนด์บายได้ยาวนานถึง 63.43 ชั่วโมง
นอกจากมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษ realme GT 7 ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge สามารถชาร์จจาก 1% – 50% ภายในเวลา 14 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 40 นาที อีกทั้งยังผ่านการรับรองระดับ 5 ดาว จาก TÜV Rheinland มั่นใจได้ในเรื่องการป้องกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ และต้านทานต่ออุณหภูมิที่สูงเกินไป
ที่สำคัญ realme GT 7 ยังรองรับการชาร์จแบบ Bypass ซึ่งเป็นรูปแบบการชาร์จโดยจ่ายพลังงานไปยังเมนบอร์ดโดยตรง เหมาะสำหรับการชาร์จระหว่างเล่นเกมเป็นเวลานาน ช่วยลดการสึกหรอของแบตเตอรี่ อีกทั้งยังลดความร้อนสะสมที่เกิดจากการชาร์จแบตเตอรี่ในรูปแบบปกติ
ชิป Dimensity 9400e
realme GT 7 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลก ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Dimensity 9400e ของ MediaTek ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการ 4 นาโนเมตร ของ TSMC บนสถาปัตยกรรมแบบ All Big Core ที่มีไพรม์คอร์ Arm Cortex-X4 ความเร็วสูง 3.4GHz + Arm Cortex-X4 ความเร็ว 2.85GHz (3-core) + Arm Cortex-A720 ความเร็ว 2.0GHz (4-core) มาพร้อม GPU Arm Immortalis-G720 MC12 ความถี่สูงระดับเรือธง 1.3GHz ผสานเทคโนโลยี AI ที่ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่า Dimensity 9400 ทำให้ realme GT 7 อยู่ในกลุ่ม Top 3 ของสมาร์ตโฟน Android ที่แรงที่สุดในปัจจุบัน
ด้วยชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูง และเทคโนโลยี GT Boost ส่งผลให้ realme GT 7 ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลด้วยเฟรมเรตสูง 120FPS รองรับเกมยอดนิยมกว่า 20 เกม ไม่ว่าจะเป็น PUBG, Mobile Legends: Bang Bang, Call of Duty: Mobile, Honor of King และ League of Legends: Wild Rift
ด้านความจำ realme GT 7 มาพร้อม RAM 12GB รองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB ช่วยให้การทำงานหลายแอปอย่างพร้อมกัน (Multitasking) ตอบสนองได้อย่างราบรื่น สลับการใช้งานระหว่างแอปได้อย่างรวดเร็ว โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวให้เลือกระหว่าง 256GB และ 512GB (เครื่องรีวิวเป็นรุ่น 512GB)
จากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า realme GT 7 สามารถทำได้ 2,194,928 คะแนน โดยจำแนกเป็นคะแนนด้าน CPU ทำได้ 517,271 คะแนน, GPU ทำได้ 893,783 คะแนน, Memory ทำได้ 403,020 คะแนน และด้าน User Experience ทำได้ 380,854 คะแนน
กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera รองรับโหมด Underwater
realme GT 7 ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก + กล้อง Telephoto + กล้อง Ultra Wide โดยวางโมดูลกล้องทั้งหมดในแนวทแยงภายในกรอบสี่เหลี่ยมสีดำที่ยกขึ้นมาจากฝาหลังอีกระดับ พร้อมข้อความ HYPERIMAGE+ ซึ่งเป็น AI ที่ล้ำสมัยของ realme ช่วยปรับปรุงภาพถ่ายให้มีคุณภาพเทียบเท่ากล้องระดับมืออาชีพ และด้วยความสามารถในการป้องกันน้ำระดับ IP68 + IP69 ก็ทำให้ realme GT 7 รองรับการถ่ายภาพใต้น้ำในโหมด Underwater
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX906 ขนาด 1.56’’ รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Samsung S5KJN5 ขนาด 1/2.8’’ รูรับแสง f/2.0
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ OMNIVISION OV08D10 ขนาด 1/4’’ รูรับแสง f2.2
กล้องหลังของ realme GT 7 รองรับโหมดถ่ายภาพ AI Landscape, Video, Photo, Portrait, Night, Pro, Hi-Res, Panorama, Movie, Slow-motion, Time-lapse, Street, Long Exposure, Dual-View Video, Underwater, Doc Scanner, Starry Mode และ Tilt-shift
โหมด AI Landscape พัฒนาขึ้นมาเพื่อยกระดับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ อย่างเช่น ภาพอาคารต่างๆ ที่ถ่ายจากมุมสูง ซึ่งปกติจะพบกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สภาพอากาศมืดครึ้ม มีหมอกหนา และแสงย้อนจากด้านหลัง แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เนื่องจากโหมด AI Landscape จะช่วยเพิ่มความคมชัดและความโปร่งใสของภาพถ่าย รวมถึงแก้ไของค์ประกอบโดยรวมของภาพ ทำให้ได้ภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบมากขึ้น
โหมด Photo รองรับการซูมที่ระยะ 0.6x, 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 20x เมื่อแตะที่ชื่อโหมด Photo จะพบกับฟีเจอร์ Smart scenes ช่วยปรับค่ากล้องตามฉากที่ต้องการถ่าย ได้แก่ Stage, Silhouette, Firework อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Soft light ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy
โหมด Photo ได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวได้สวยงามยิ่งขึ้น ผ่าน Filters ใหม่ๆ เช่น Mountain, Island, City และยังมีฟีเจอร์ Retouch สำหรับปรับความงามบนใบหน้า ขณะที่แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Photo ยังมีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสงในช่วง -2.0 ถึง +2.0 ข้างกันเป็นฟิลเตอร์สี (Crisp และ Vibrant) ตามด้วยโหมดถ่ายภาพ Livephoto
โหมด Portrait มีการผสานรวมอัลกอริทึมการถ่ายภาพแบบ Snap Shot ไว้ด้วยกัน เพื่อยกระดับการถ่ายภาพบุคคลให้ชัดเจนสวยงาม พร้อมสร้างเอฟเฟกต์ Bokeh ที่เป็นธรรมชาติ แม้ถ่ายภาพในบริเวณที่มีสภาพแสงซับซ้อน
โหมด Portrait สามารถซูมได้ที่ระยะ 1x, 2x สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง ทำให้ตัวแบบโดดเด่นขึ้น ขณะที่พื้นหลังละลายอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมีฟีเจอร์ Soft light ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy ขณะที่ Filters ก็ได้รับเอฟเฟกต์ใหม่เช่นกัน ทั้ง Mountain, Island, City และยังมีฟีเจอร์ Retouch ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดียิ่งขึ้น ส่วนแถบเครื่องมือด้านบนมีฟิลเตอร์สี Crisp และ Vibrant เหมือนกับโหมด Photo
โหมด Video มีฟีเจอร์ Smart scenes ช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกวิดีโอให้เหมาะสมกับฉากหรือสถานที่นั้นๆ เช่น Stage สำหรับบันทึการแสดงบนเวที และ Firework สำหรับบันทึกการแสดงดอกไม้ไฟ
โหมด Video รองรับการซูมที่ระยะ 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 18x สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่อัตรา 120 เฟรมต่อวินาที แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Video มีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสง EV แบบโหมด Photo ถัดมาเป็นฟีเจอร์ Ultra Stedy ซึ่งเป็นการเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว และรองรับการบันทึกวิดีโอในรูปแบบ Dolby Vision เมื่อเปิดโหมด HDR
นอกจากนี้ realme GT 7 ยังสามารถถ่ายวิดีโอใต้น้ำได้อีกด้วย (ความละเอียด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที) ผ่านโหมด Underwater โดยถ่ายภาพใต้น้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร และอยู่ใต้น้ำได้นานสูงสุด 30 นาที ตามมาตรฐาน IP68 และ IP69 เมื่ออยู่ใต้น้ำ ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการถ่ายภาพโดยใช้ปุ่มกดด้านข้าง
- ปุ่มเพิ่มระดับเสียง สำหรับถ่ายภาพนิ่ง หรือ กดค้างเพื่อซูม
- ปุ่มลดระดับเสียง สำหรับบันทึกวิดีโอ หรือ กดค้างเพื่อสลับระหว่างกล้องหน้า-กล้องหลัง
- ปุ่มเพาเวอร์ กดเพื่อปิดหน้าจอ หรือ กดค้างไว้ เพื่อออกจากโหมด Underwater พร้อมไล่น้ำออกจากตัวเครื่อง
กล้องหน้า 32MP Front Camera
กล้องหน้าของ realme GT 7 ถูกซ่อนไว้ในจอแสดงผล โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX615 ขนาด 1/2.74’’ รูรับแสง f/2.4 มาพร้อมโหมด Photo ที่สามารถปรับระยะการซูมได้ 2 ระยะ 0.8x และ 1x แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสง EV ในช่วง -2.0 ถึง +2.0 ข้างกันเป็นโหมดถ่ายภาพ Livephoto
โหมด Photo ของกล้องหน้ายังมีฟีเจอร์ Soft light ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาเป็น Filters ซึ่งได้รับเอฟเฟกต์ใหม่ Mountain, Island, City และฟีเจอร์ Retouch สำหรับปรับความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง
โหมด Portrait ของกล้องหน้า สามารถซูม 0.8x และ 1x ได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้อีกด้วย รวมถึงฟีเจอร์ Soft light, Filters และ Retouch เหมือนโหมด Photo
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที มีฟีเจอร์คล้ายกับโหมด Portrait ไม่ว่าจะเป็นการซูมที่ระยะ 0.8x และ 1x การปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง รองรับฟีเจอร์ Retouch และ Filters ขณะที่แถบเครื่องมือด้านบนมีไอคอนสำหรับปรับค่าชดเชยแสง EV และเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว
AI Travel Snap
realme ยังคงพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าของสมาร๋ตโฟนได้รับความสะดวกสบาย และใช้งานง่ายยิ่งขึ้น โดย realme GT 7 ได้นำความอัจฉริยะของ AI มาทำงานอยู่เบื้องหลังในแอปกล้อง เรียกว่า AI Travel Snap ช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกภาพระหว่างการเดินทางได้สวยงามยิ่งขึ้น ผ่าน Filters ใหม่ๆ ได้แก่ Mountain, Island, City ที่อยู่ในโหมดถ่ายภาพต่างๆ
- Mountain ให้โทนสีธรรมชาติที่สดใส เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบนภูเขาหรือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเดินป่า หรือไปแคมปิ้งบนภูเขา
- Island ช่วยเพิ่มความสมดุลให้สีสันของทิวทัศน์ โดยเฉพาะสีท้องฟ้าตัดกับสีน้ำทะเล เหมาะสำหรับเก็บภาพความทรงจำบนชายหาด
- City ให้สีสันที่คมชัดสดใส เมื่อถ่ายภาพในเมืองหรือท้องถนน ที่มีความคอนทราสต์สูง
นอกจาก Filters ใหม่ๆ realme GT 7 ยังมี AI Glare Removal สามารถลบแสงสะท้อนในภาพถ่ายได้ง่ายๆ ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ช่วยทำลายข้อจำกัดทางกายภาพของเลนส์และแหล่งกำเนิดแสง
ตัวอย่างภาพถ่าย
AI Planner
realme GT 7 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลก ที่นำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการสร้างตารางเวลาได้อย่างชาญฉลาด เพียงแค่แตะฝาหลัง 2 ครั้งติดกัน AI ก็จะอ่านหน้าจอที่มีการระบุเวลาและสถานที่ จากนั้นจะสร้างตารางเวลาโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งาน realme GT 7 สามารถเปิดฟีเจอร์ AI Planner ได้ที่ Settings > Accessibility & convenience > AI Planner
หลังจากเปิดฟีเจอร์ AI Planner ผู้ใช้งานก็สามารถสร้างตารางเวลาได้ง่ายๆ เพียงแตะฝาหลัง 2 ครั้งติดกัน ขณะที่ดูหน้าจอที่มีการระบุเวลาและสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นแอปแชท ที่มีการนัดเจอกับเพื่อนๆ รวมถึงรูปภาพโปสเตอร์กิจกรรมต่างๆ ที่มีการแชร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการติดต่อทางธุรกิจที่ได้รับทางอีเมล
AI Gaming Coach
realme GT 7 มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลไม่สะดุดด้วยเทคโนโลยี GT Boost ที่อาศัย AI ช่วยคำนวณภาระของชิปเซ็ตแบบเฟรมต่อเฟรม เพื่อช่วยจัดสรรประสิทธิภาพอย่างแม่นยำระดับมิลลิวินาที ทำให้เล่นเกมนานต่อเนื่องด้วยเฟรมเรตนิ่งๆ ลื่นๆ สูงถึง 120 เฟรมต่อวินาที (รองรับ 20 เกมที่ได้รับความยอดนิยมในปัจจุบัน)
GT Boost ยังมาพร้อม AI Gaming Coach ช่วยให้ผู้ใช้งานกลายเป็นเกมเมอร์ระดับโปร โดยใช้อัลกอริทึม Smart Danger Alerts ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และอัลกอริทึม In-Game Status Updates นำเสนอการเตือนเกี่ยวกับสถานะของเพื่อนร่วมทีม ความทนทานของอุปกรณ์ ความก้าวหน้าในโซน และปัจจัยสำคัญอื่นๆ
NEXT AI
realme GT 7 ตอบสนองการใช้งานทั่วไปด้วยเครื่องมือ AI ที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น AI Translator, AI Eraser 2.0, AI Tools 2.0 รวมถึงความสามารถของ AI ขั้นสูงจากGoogle Gemini
AI Translator เครื่องมือแปลภาษา รองรับฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การแปลจากภาพหน้าจอ การแปลพร้อมกัน และการแปลแบบเห็นหน้ากัน
AI Eraser 2.0 ตัวช่วยในการลบบุคคลหรือวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพถ่ายอย่างแม่นยำ
AI Tools 2.0 สามารถจดจำบริบทของอินเทอร์เฟซแชท เพื่อให้คำแนะนำการแชทโดยอัตโนมัติ และสามารถแปลข้อความบนหน้าจอได้ทันที
จอ 6000nits Pro-Esports Display
realme GT 7 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 2780 x 1264 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว ให้ความลึกของสี 1.07 พันล้านสี ความสว่างสูงสุดถึง 6000 นิต อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1 ขอบเขตสีกว้าง 100% P3 รองรับ Dolby Vision และ HDR 10+
จอแสดงผลของ realme GT 7 รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) ที่ 360Hz สำหรับการใช้งานทั่วไป และทำได้สูงสุด 2600Hz เมื่อเล่นเกม อีกทั้งยังปกป้องดวงตาด้วยการหรี่แสงแบบ DC ระดับฮาร์ดแวร์ และการหรี่แสง PWM ความถี่สูง 2160Hz
นอกจากนี้ จอแสดงผลของ realme GT 7 ยังได้รับการอัปเกรด Rainwater Smart Touch เพื่อรองรับการสัมผัสได้อย่างแม่นยำ แม้นิ้วมือเปียก รวมถึงทนทานต่อเหงื่อ ไขมัน และป้องกันริ้วรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 7i
realme GT 7T
realme GT 7T มีความโดดเด่นหลายอย่างแบบเดียวกับ realme GT 7 ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ IceSense Graphene ป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP69 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W กล้องหลัก Sony IMX896 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS และจอแสดงผลให้ความสว่างสูงสุด 6000 นิต
สเปก realme GT 7T
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.80 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 6000 นิต
- กล้องหลัง 50MP Main + 8MP Ultra-Wide Camera
- กล้องหน้า 32MP Front Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8400-MAX
- ความจำ RAM 12GB + ROM 256GB / 512GB
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 12GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 6.0, 360° NFC, Dual Band GPS L1 + L5
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 (บนพื้นฐาน Android 15)
- มาตรฐานป้องกันน้ำและฝุ่น IP69
- แบตเตอรี่ Titan 7000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ IceSense Black, IceSense Blue และ Racing Yellow
- ขนาดตัวเครื่อง 162.42 x 75.97 x 8.25 มิลลิเมตร (IceSense Black, IceSense Blue)
- น้ำหนัก 202 กรัม (IceSense Black, IceSense Blue)
- ขนาดตัวเครื่อง 162.42 x 75.97 x 8.88 มิลลิเมตร (Racing Yellow)
- น้ำหนัก 205 กรัม (Racing Yellow)
ชิป Dimensity 8400-MAX
ด้านประสิทธิภาพ realme GT 7T ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 8400-MAX ของ MediaTek ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการ 4 นาโนเมตร ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ Octa Core ที่มี Arm Cortex-A725 ความเร็ว 3.25GHz + Arm Cortex-A725 ความเร็ว 3.0GHz (3-core) + Arm Cortex-A725 ความเร็ว 2.1GHz (4-core) พร้อมด้วย GPU Arm Mali-G720 MC7 สามารถทำคะแนนจากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้มากกว่า 1,750,000 คะแนน
ด้านความจำ realme GT 7T ได้รับ RAM 12GB รองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวให้เลือกระหว่าง 256GB และ 512GB (เครื่องรีวิวเป็นรุ่น 256GB)
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่
realme GT 7T ยังมีระบบระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม 7,700 ตารางมิลลิเมตร ครอบคลุมพื้นผิวของสมาร์ตโฟน 65% โดยมีโครงสร้างช่องอากาศขนาดใหญ่พิเศษ ช่วยให้ถ่ายเทอากาศได้เหมือนมวลอากาศเย็นที่พัดผ่านเข้ามา มั่นใจได้ว่า realme GT 7T จะรักษาประสิทธิภาพในระดับสูงระหว่างเล่นเกมเป็นเวลานาน
แบตใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W
อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอีกจุดเด่นของ realme GT 7T เนื่องจากมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge เช่นเดียวกับ realme GT 7 แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้แล้วในกล่อง ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก
กล้องหลัก 50MP AI Camera (Sony IMX896)
กล้องของ realme GT 7T แตกต่างจาก realme GT 7 ที่ไม่มีกล้อง Telephoto แต่ได้รับกล้องหลักความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล เท่านั้น และยังมีกล้อง Ultra Wide สำหรับเก็บภาพในมุมมองกว้างพิเศษ
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX896 ขนาด 1.56’’ รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ OMNIVISION OV08D10 ขนาด 1/4’’ รูรับแสง f2.2
กล้องหลังของ realme GT 7T รองรับโหมดถ่ายภาพ Street, Video, Photo, Portrait, Night, Pro, Hi-Res, Panorama, Movie, Slow-motion, Time-lapse, , Long Exposure, Dual-View Video, Underwater, Doc Scanner และ Tilt-shift
โหมด Street มาพร้อม Filters ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพถ่ายแนวสตรีท อาทิ Tone of Light, Street, B&W Plus, 90s Pop, Crisp, Cinematic เป็นต้น ขณะที่ช่วงการซูมของโหมด Street จะเปลี่ยนเป็นระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัส ตั้งแต่ 16 มม., 24 มม., 48 มม. จนสูงสุด 480 มม.
โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x (เปิดใช้กล้อง Ultra Wide), 1x, 2x จนสูงสุด 20x รองรับฟีเจอร์ Soft light ที่มีเอฟเฟกต์ Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาเป็น Filters อาทิ Field, Seaside, City, Fresh, Emerald เป็นต้น แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Photo มีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสงในช่วง -2.0 ถึง +2.0 ข้างกันเป็นโหมดถ่ายภาพ Livephoto และโหมด AI Snap สำหรับถ่ายภาพบุคคลหรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
โหมด Portrait ออกแบบมาให้ซูมได้ที่ระยะ 1x และ 2x สามารถปรับค่า F เพื่อทำให้ตัวแบบโดดเด่นด้วยการละลายฉากหลัง พร้อมด้วยฟีเจอร์ Soft light ที่มีเอฟเฟกต์ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy รวมถึงฟีเจอร์ Filters และ Retouch เช่นเดียวกับโหมด Photo
โหมด Video รองรับการซูมที่ระยะ 1x และ 2x จนสูงสุด 10x มีเครื่องมือสำหรับละลายฉากหลัง พร้อมด้วยฟีเจอร์ Retouch และ Filters สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที แต่ถ้าเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Stedy จะรองรับความละเอียด Full HD 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
โหมด Underwater ก็มีให้ใช้งานแบบเดียวกับ realme GT 7 เนื่องจาก realme GT 7T ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำที่ระดับ IP68 และ IP69 จึงามารถถ่ายวิดีโอใต้น้ำที่ความละเอียด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที โดยทนอยู่ในน้ำได้นานสูงสุด 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร
กล้องหน้า 32MP Front Camera
กล้องหน้าของ realme GT 7T ให้ประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับกล้องหน้าของ realme GT 7 เนื่องจากใช้โมดูลกล้องตัวเดียวกัน โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX615 ขนาด 1/2.74’’ รูรับแสง f/2.4
โหมด Photo ของกล้องหน้า สามารถปรับระยะการซูมได้ 2 ระยะ 0.8x และ 1x มีฟีเจอร์ Soft light ให้เลือกใช้ 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาเป็น Filters ซึ่งได้รับเอฟเฟกต์ใหม่ Field, Seaside, City และฟีเจอร์ Retouch สำหรับปรับความงามบนใบหน้าอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ผิว, แก้ม, ขนาดศีรษะ หรือ ขนาดดวงตา
โหมด Portrait ของกล้องหน้า รองรับการซูมที่ระยะ 0.8x และ 1x เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้อีกด้วย รวมถึงฟีเจอร์ Soft light, Filters และ Retouch เหมือนโหมด Photo
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถปรับระยะการซูมได้ 2 ระยะ 0.8x และ 1x รองรับการบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที มีฟีเจอร์ระบบป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Stedy พร้อมด้วยฟีเจอร์ปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง, ฟีเจอร์ Filters และ Retouch
จอแสดงผล 6.80 นิ้ว
realme GT 7T มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความลึกสี 10-bit (1.07 พันล้านสี) ความละเอียด 2800 x 1280 พิกเซล ขนาด 6.80 นิ้ว ครอบคลุมขอบเขตสี 100% P3 สนับสนุน HDR 10+ อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1 รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) ที่ 360Hz
สรุปราคาและการจำหน่าย
realme GT 7 Series เป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งใหม่ของ realme ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI ที่ชาญฉลาด และการออกแบบ IceSense Design ที่ทำให้ realme GT 7 และ realme GT 7T ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างดี ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในระดับสูงแม้ใช้งานติดต่อกันหลายชั่วโมง อีกทั้งยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าคู่แข่ง ความจุสูงถึง 7000mAh และรองรับชาร์จเร็ว 120W Ultra Charge สามารถชาร์จจาก 1% ถึง 100% ในเวลาเพียง 40 นาที
สำหรับความแตกต่างที่ชัดเจน realme GT 7 ได้รับชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ดูจากคะแนนที่ได้จากแอป AnTuTu และยังถ่ายภาพระยะไกลได้ดีกว่า เพราะมีกล้อง Telephoto มาให้ด้วย ขณะที่ realme GT 7T ก็ถือเป็นเรือธงรองรับการเล่นเกมได้ลื่นไหลเช่นเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเรือธงสำหรับการเล่นเกม ขณะที่ realme GT 7 ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การเล่นเกม แต่ยังถ่ายภาพได้ดีอีกด้วย
ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ภายในงานเปิดตัว realme ได้ประกาศราคาของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
- realme GT 7 T นำเสนอสเปก 12/256 GB ในราคา 17,999 บาท
- realme GT 7 นำเสนอสเปก 12/512 GB ในราคา 22,999 บาท
realme GT 7 Dream Edition นำเสนอสเปก 16/512 GB ในราคา 24,999 บาท
โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 27-30 พฤษภาคมและเป็นเจ้าของได้พร้อมกันในวันที่ 31 พฤษภาคม ได้ตามช่องทางดังนี้
- ช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ อาทิ Banana, BKK, Cyberkong, Kingkong Phone, IT City, TG, Jaymart, Stamp, Advice และ Singer
- ช่องทางเครือข่ายโอเปอร์เรเตอร์ True, Dtac และ AIS
- ช่องทางอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ Tiktok Shop (สำหรับช่องทางอีคอมเมิร์ซจำหน่ายวันแรกในวันที่ 27 พฤษภาคมเป็นต้นไป)
พิเศษสำหรับรุ่น realme GT 7 Dream Edition สามารถเป็นเจ้าของได้เฉพาะช่องทาง Shopee และ realme Brand Shop ตามสาขาที่กำหนดเท่านั้น ผลิตภัณฑ์ realme ทุกรุ่นมาพร้อมสเปกระดับเรือธงในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ พร้อมสร้างความยิ่งใหญ่และกระแส AI ให้กระหึ่มอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนปี 2025 ยิ่งกว่าเดิม!