หลังจากส่งสมาร์ตโฟนในกลุ่ม Z Series และ Number Series เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด iQOO ก็พร้อมส่งสมาร์ตโฟนรุ่นแรกจาก Neo Series เข้ามาทำตลาดในไทยแล้ว กับเจ้า iQOO Neo 10 ที่มาพร้อมสโลแกน “Power to Win เต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์” ซึ่งถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในไทย ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8s Gen 4 ของ Qualcomm

สเปก iQOO Neo 10
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz
- กล้องหลัก 50MP Sony IMX882 + OIS
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8s Gen 4
- ความจำ RAM 12GB / 16GB (LPDDR5X Ultra) + ROM 256GB / 512GB (UFS 4.1)
- ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB / 16GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, USB Type-C (USB 2.0), OTG
- เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, GNSS
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, Ambient Light Sensor, E-compass, Gyroscope, Color Temperature
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 บนพื้นฐาน Android 15
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP65
- แบตเตอรี่ 7000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 120W FlashCharge
- รองรับการชาร์จแบบ Bypass
- ขนาดตัวเครื่อง 163.72 x 75.88 x 8.09 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 206 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีส้ม (Blazing Orange) และ สีดำ (Cosmic Black)
แกะกล่อง
iQOO Neo 10 ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีดำ บนฝากล่องติดโลโก้ iQOO Neo ทับเลข 10 ขนาดใหญ่ และระบุชื่อรุ่น iQOO Neo 10 ไว้ที่ข้างกล่อง ภายในกล่องจะพบสมาร์ตโฟนเป็นอย่างแรก ซึ่งติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้วจากโรงงาน นอกจากนี้ ยังแถมเคสมาให้ 1 อัน เป็นเคสซิลิโคนสีดำ รวมถึงคู่มือฉบับเร่งด่วน ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน ชั้นล่างสุดของกล่องมีสายชาร์จ หัวชาร์จ (120W Power Adapter) และ เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด
ดีไซน์แกร่ง
iQOO Neo 10 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Cosmic Black) และ สีส้ม (Blazing Orange) โดยทีมงาน @flashfly ได้รับสีส้มมารีวิว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการเกิดใหม่บนกองเพลิงของนกฟีนิกซ์ สื่อถึงความแข็งแกร่งและการเริ่มต้นใหม่ ทำให้พื้นผิวฝาหลังของ iQOO Neo 10 มีลวดลายคล้ายเปลวเพลิง
ดีไซน์กล้องหลังของ iQOO Neo 10 เป็นกรอบสี่เหลี่ยมโค้งมน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Porthole หรือช่องหน้าต่างบนเครื่องบิน โดย iQOO นำมาใช้ครั้งแรกกับสมาร์ตโฟนเรือธง iQOO 12 และพบได้อีกหลายรุ่น เช่น iQOO 13, iQOO Z9 จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ตโฟนจาก iQOO
ด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีขอบหน้าจอบางเป็นพิเศษ ด้านบนจะเป็นตำแหน่งกล้องเซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล และยังซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอด้วย
ขอบด้านข้างมีความบาง 8.09 มิลลิเมตร วางปุ่มปรับระดับเสียง ไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์
มุมมองด้านบนพบตำแหน่งของไมโครโฟนตัวที่ 2 และลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง)
ด้านล่างประกอบด้วยลำโพงตัวหลัก, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟนตัวหลัก และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม (Dual Nano-SIM)
iQOO Neo 10 ยังถูกสร้างมาให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ผ่านการทดสอบความทนทานต่อแรงกระแทกตามมาตรฐาน MIL-STD-810H ซึ่งมีการทดสอบหลายด้านและหลายครั้ง ทั้งการเสียบช่องชาร์จแบตเตอรี่, ปุ่มด้านข้างทั้งหมด, ทดสอบด้วยการขีดข่วน, ทดสอบทำตก รวมถึงการทดลองใช้งานในสภาพแวดล้อมสุดขั้วที่มีอุณหภูมิสูงสุด 50 องศาเซลเซียส จนติดลบ 20 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังได้รับมาตรฐานทนฝุ่นและน้ำในระดับ IP65
นอกจากนี้ จอแสดงผลของ iQOO Neo 10 ยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Shield Glass สามารถต้านทานแรงกระแทกได้ดีขึ้น 150% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และผ่านการทดสอบด้วยการขีดข่วนถึง 2,500 ครั้ง และยังติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้วจากโรงงาน โดยใช้ฟิล์มที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อลดความเสี่ยงหน้าจอแตกจากการทำตก
ชิปเรือธง Snapdragon 8s Gen 4 จับคู่กับชิปกราฟิก Q1
iQOO Neo 10 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในไทยที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8s Gen 4 ของ Qualcomm สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ที่มี CPU แบบ 64-bit Octa Core ความเร็วสูงสุด 3.21GHz พร้อม GPU Adreno 825 ที่ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 8s Gen 3
iQOO Neo 10 ยังได้รับชิปประมวลผลกราฟิก Q1 ที่พัฒนาและออกแบบโดย iQOO ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ทำให้รองรับเฟรมเรตสูงสุด 144 เฟรมต่อวินาที อีกทั้งยังช่วยลดภาระในการประมวลผลของ GPU ในชิปประมวลผลหลัก ทำให้ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น และยังมีส่วนช่วยให้การแสดงวิดีโอจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube และ Netflix มีความคมชัด ลื่นไหลมากขึ้น
ด้านความจำ iQOO Neo 10 ที่ทีมงาน @flashfly ได้รับมารีวิว มีขนาด RAM 12GB (LPDDR5X Ultra) จับคู่กับ ROM 256GB (UFS 4.1) และสามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB ทำให้การใช้งานราบรื่น ไม่ว่าจะเปิดแอปพร้อมกันหลายแอป และสลับการใช้งานแต่ละแอปได้อย่างรวดเร็ว
จากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu แต่จากการทดสอบจริงพบว่า iQOO Neo 10 ทำได้เกิด 2 ล้านคะแนนไปได้ โดยจำแนกเป็นคะแนนด้าน CPU ทำได้ 466,458 คะแนน, GPU ทำได้ 837,363 คะแนน, Memory ทำได้ 384,138คะแนน และด้าน User Experience ทำได้ 337,435 คะแนน แต่ถือได้ว่าแรงเต็มแม็กซ์ตามสโลแกน
แบตใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 120W
ถึงแม้จะมีความบางเพียง 8.09 มิลลิเมตร แต่ iQOO Neo 10 กลับมีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7000mAh ซึ่งเป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ BlueVolt ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเซลล์พลังงานแต่ไม่เพิ่มขนาดของแบตเตอรี่ มั่นใจได้ว่า iQOO Neo 10 สามารถให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน iQOO Neo 10 ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W FlashCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh จากระดับ 1 ถึง 100% ภายในเวลาเพียง 36 นาที หมายความว่า การใช้งานจริงจะใช้เวลาในเวลาไม่กี่นาทีสำหรับการชาร์จจนเต็ม เพราะปกติแล้วไม่ควรใช้งานสมาร์ตโฟนจนแบตเตอรี่เกือบหมด
ยิ่งไปกว่านั้น iQOO Neo 10 ยังรองรับการชาร์จแบบ Bypass ซึ่งเป็นวิธีจ่ายพลังงานไปยังเมนบอร์ดโดยตรง ไม่ผ่านแบตเตอรี่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ทำให้ตัวเครื่องไม่เกิดความร้อนสูง และช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ทำให้เสื่อมสภาพช้าลง
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ทำให้ iQOO Neo 10 รองรับฟีเจอร์ Reverse Charging ทำหน้าที่เป็น Power Bank สามารถจ่ายพลังงานให้อุปกรณ์อื่นด้วยกำลังไฟสูงสุด 10W โดยใช้สาย USB-C ที่รองรับ OTG
จอแสดงผล 1.5K AMOLED อัตราการรีเฟรช 144Hz
iQOO Neo 10 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 1.5K (2800 x 1260 พิกเซล) ขนาด 6.78 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 452PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ครอบคลุมขอบเขตสี 100% DCI-P3 รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 144Hz และให้ความสว่างสูงสุด 2000nits (ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 5500nits) ช่วยให้มองเห็นหน้าจอได้อย่างชัดเจนในที่กลางแจ้ง
นอกจากให้สีสันที่คมชัดสู้แสงได้อย่างดี จอแสดงผลของ iQOO Neo 10 ยังเป็นจอภาพที่ถนอมดวงตา ด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูง 4320Hz ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานนานต่อเนื่อง ผ่านการทดสอบระดับ 5 ดาวจาก SGS ด้าน Low Blue Light (ลดแสงสีฟ้า) และ Low Flicker (ลดการกระพริบ) รวมถึงรองรับ DC Dimming ที่ความสว่างเต็ม จึงมั่นใจได้ว่าจอแสดงผลของ iQOO Neo 10 ไม่เพียงแต่ให้ความสว่าง สีสันที่สวยสด แต่ยังดูแลสายตาผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่
ความร้อนสะสมจากการใช้งานนานต่อเนื่อง ส่งผลให้การทำงานของสมาร์ตโฟนมีประสิทธิภาพลดลง เพื่อรักษาประสิทธิภาพให้คงอยู่ระดับสูง iQOO Neo 10 จึงมีการติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วย VC ขนาดใหญ่ถึง 7,000 ตารางมิลลิเมตร ครอบคลุมจุดเกิดความร้อนที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผล แบตเตอรี่ รวมถึงโมดูลกล้อง
นอกจากระบบระบายความร้อนด้วย VC ยังมีวัสดุระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงอีกหลายชนิด อย่างเช่นแผ่นกราไฟต์ ครอบคลุมพื้นที่ภายในทั้งหมด 27,000 ตารางมิลลิเมตร ทำให้ iQOO Neo 10 ตอบสนองการเล่นเกมเป็นเวลานานได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด รวมไปถึงช่วยลดความร้อนขณะถ่ายวิดีโอนานต่อเนื่อง
ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม
iQOO Neo 10 อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหล และสนุกยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่การออกแบบเสาอากาศรับสัญญาณไร้สายแบบรอบทิศทาง 360 องศา ทำงานร่วมกับ AI SuperLink ช่วยให้ iQOO Neo 10 เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้อย่างราบรื่นและเสถียร ไม่ว่าจะจับส่วนไหนของตัวเครื่อง ก็ไม่บดบังการรับ-ส่งสัญญาณ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการรับ-ส่งสัญญาณ เมื่อใช้งานในบริเวณที่มีสัญญาณอ่อน หรืออยู่ในจุดอับสัญญาณ เช่น ในลิฟต์ และ ที่จอดรถชั้นใต้ดิน
โหมดเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม Ultra Game Mode ของ iQOO Neo 10 ก็ได้รับฟีเจอร์ใหม่ เรียกว่า Night Vision Mode เปิดใช้งานได้ที่ Game Visual Enhancement > General Filter ช่วยให้ผู้เล่นมองเห็นศัตรูได้ง่ายขึ้น เมื่ออยู่ในฉากการต่อสู้เวลากลางคืน โดยอาศัยอัลกอริทึมของ Night Vision Mode ที่มีทั้ง ฟิลเตอร์เฉพาะทาง + HDR Light + เทคโนโลยี 3D LUT ทำงานร่วมกัน สามารถตรวจจับฉากในเกมได้อย่างชาญฉลาด และช่วยปรับส่วนที่มืดให้สว่างขึ้น ทำให้ผู้เล่นมองเห็นศัตรูที่แอบอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
iQOO Neo 10 ได้รับการปรับปรุงให้ควบคุมเกมได้แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของ Gyroscope ให้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น หรือ มีความหน่วงน้อยลง ทำให้เล็งเป้าหมายได้ไวขึ้น และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบกันสั่น เพื่อให้ควบคุมการยิงได้ดีขึ้น
การเล่นเกมเป็นเวลานาน อาจทำให้นิ้วมีเหงื่อออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้การยิงพลาดเป้าได้ อย่างไรก็ตาม จอแสดงผลของ iQOO Neo 10 ได้รับการพัฒนาให้รองรับการสัมผัสแม้นิ้วมือเปียก ช่วยลดปัญหาการสัมผัสผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้การควบคุมเกมลื่นไหล แม่นยำมากขึ้น ไม่ว่านิ้วมือจะเปียกเหงื่อหรือน้ำที่เพิ่งไปจับแก้วเครื่องดื่มมา
iQOO Neo 10 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง Game Super Resolution และ Game Frame Interpolation โดยใช้ประโยชน์จากชิปประมวลผลกราฟิก Q1
Game Super Resolution เกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างชิป Q1 กับอัลกอริทึม Adaptive Super Resolution ช่วยปรับคุณภาพกราฟิกในเกมให้มีความคมชัดมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น
Game Frame Interpolation เป็นเทคโนโลยีแทรกและแก้ไขเฟรม เพื่อชดเชยการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ ช่วยลดอาการหน่วงหรือดีเลย์ รวมถึงแก้ไขภาพเบลอของการเคลื่อนไหว และยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย โดยใช้โหมดประหยัดพลังงาน ที่สามารถลดอัตราเฟรมลงมาที่ 45 เฟรมต่อวินาที แต่สามารถเล่นเกมได้อย่างราบรื่นด้วยเทคโนโลยีแทรกเฟรมกลับมาเป็น 90 เฟรมต่อวินาที ขณะเดียวกัน ยังมีโหมดเฟรมเรตสูง 90 / 120 / 144 เฟรมต่อวินาที ให้เลือกใช้ เพื่อตอบสนองการเล่นเกมอย่างลื่นไหล
ด้วยฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังจากชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8s Gen 4 จับคู่กับชิปประมวลผลกราฟิก Q1 รวมถึงระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ ผสานกับซอฟต์แวร์อัจฉริยะของ Ultra Game Mode ทำให้ iQOO Neo 10 เป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์เกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับการเล่นเกมคุณภาพสูงด้วยอัตราเฟรมสูงสุด 144 เฟรมต่อวินาที อย่างเช่นเกม Genshin Impact, PUBG Mobile, Mobile Legends: Bang Bang และ Garena Delta Force
นอกจากนี้ iQOO Neo 10 ยังมีแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 7000mAh จึงเล่นเกมเมื่ออยู่นอกสถานที่ได้ยาวนานหลายชั่วโมง และถ้าอยู่ในจุดที่มีปลั๊กไฟ ก็รองรับการชาร์จแบบ Bypass ช่วยให้เล่นเกมได้ยาวนานโดยไม่ส่งผลกระทบกับแบตเตอรี่ และถ้ารีบออกไปข้างนอก ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 120W ที่แถมมาให้ในกล่อง สามารถชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาไม่กี่นาที
กล้องหลัก 50MP Sony IMX882 + OIS
iQOO Neo 10 ยังเอาใจคนรักการถ่ายภาพด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยโดยเฉพาะ และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล หรือ OIS (Optical Image Stabilization) วางคู่กับกล้อง Ultra Wide อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี AI ช่วยปรับปรุงภาพถ่ายและวิดีโอให้ออกมาสวยงามคมชัดมากขึ้น
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/2” รูรับแสง f/1.79
- กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
กล้องหลังของ iQOO Neo 10 รองรับโหมดถ่ายภาพ Snapshot, Night, Portrait, Photo, Video, Ultra HD Documents, 50MP, Pano, Slo-mo, Time-lapse, Long Exposure, Supermoon, Pro และ Fisheye
โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultrawide และซูมได้สูงสุด 10x สามารถเพิ่ม Styles (มีสไตล์ภาพขาวดำและวินเทจให้เลือก) และมี Filters ที่หลากหลาย ขณะที่แถบเครื่องมือด้านบนมีโหมด Live Photo และ Color style สำหรับปรับโทนสีของภาพถ่ายระหว่าง Vivid, Textured และ Natural
โหมด Snapshot เหมาะสำหรับการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว เช่น ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่พบเห็นโดยบังเอิญ หรือ อยากเก็บช่วงเวลาที่สำคัญที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ใช้งาน iQOO Neo 10 สามารถถ่ายภาพแนวสตรีทได้อย่างง่ายดาย
โหมด Portrait รองรับการซูมที่ระยะ 1x / 1.5x / 2x มีเอฟเฟกต์ Bokeh สำหรับละลายฉากหลังให้เลือก 3 ระหว่าง Natural, Rotary focus และ Bubbles ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Beauty ช่วยปรับความงามบนใบหน้า และ Styles ที่ออกแบบมาสำหรับการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ
โหมด Night รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x จนสูงสุด 10x แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ Long Exposure สำหรับการถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงเป็นเวลานานพิเศษ ถัดมามีฟีเจอร์ Supermoon สำหรับถ่ายภาพดวงจันทร์ในยามค่ำคืนโดยเฉพาะ สามารถซูมได้สูงสุด 20x นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพสนุกๆอย่าง Fisheye ให้ใช้งานด้วยสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ 0.6x จนสูงสุด 10x สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที มีเครื่องมือช่วยปรับแต่งโทนภาพของวิดีโออย่าง Movie LUTs และ Filters พร้อมด้วยฟีเจอร์ Beauty สำหรับเพิ่มความงามบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถเปิดระบบป้องกันภาพสั่นไหวได้จากแถบเครื่องมือด้านบน
กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
กล้องเซลฟี่ของ iQOO Neo 10 ติดตั้งอยู่ในหลุมเล็กๆ บนหน้าจอ มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 มาพร้อมโหมด Photo ที่มีฟีเจอร์เหมือนกับกล้องหลังทั้ง Styles และ Filters รวมถึง Live Photo ก็ใช้งานได้เช่นกัน
โหมด Portrait ของกล้องหน้า สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับความงามบนใบหน้าอย่างละเอียดครอบคลุมทุกโซนบนใบหน้า รวมถึง Makeup เสริมความงามได้ตามเทมเพลตที่ต้องการ และมี Style หลายแบบสำหรับปรับภาพพอร์ตเทรตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที รองรับฟีเจอร์ Styles (มีเอฟเฟกต์ให้เลือกหลายแบบสำหรับถ่ายวิดีโอแบบเซลฟี่ เน้นใบหน้า), Movie LUTs (เต็มไปด้วยเอฟเฟกต์สำหรับการถ่ายวิดีโอให้ออกมาดูเหมือนภาพยนตร์), Filters และ Beauty
ตัวอย่างภาพถ่าย
ฟีเจอร์ AI
iQOO Neo 10 ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15 ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยให้การแก้ไขหรือตัดต่อภาพถ่ายเป็นเรื่องง่าย อย่างเครื่องมือ AI Erase และ AI Image Expander
AI Erase สามารถลบบุคคลหรือวัตถุออกจากภาพถ่ายได้ง่ายๆ หมดปัญหาการถ่ายภาพในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน
AI Image Expander ช่วยขยายพื้นที่รูปภาพให้กว้างขึ้น เหมาะสำหรับการแก้ไขภาพถ่ายจากมุมแคบ แต่ต้องการขยายฉากหลังให้กว้างขึ้น AI สามารถเพิ่มเติบฉากหลังที่ถูกขยายได้อย่างแนบเนียน ทำให้องค์ประกอบโดยรวมของภาพถ่ายสมบูรณ์แบบมากขึ้น
ด้านการทำงาน iQOO Neo 10 ก็มีฟีเจอร์ AI Note Assist ตัวช่วยสำหรับการจดโน้ต ทั้งสรุป จัดรูปแบบ แยกหัวข้อ รวมถึงแปลภาษา และยังรองรับฟีเจอร์ Circle to Search เครื่องมือค้นหาที่สะดวกสบาย เพียงวาดวงกลมล้อมรอบสิ่งที่สนใจบนหน้าจอ ก็จะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ทันที
สรุปราคาและการจำหน่าย
iQOO เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์เกมมิ่งสมาร์ตโฟน จึงไม่น่าแปลกใจที่ iQOO Neo 10 จะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพเป็นพิเศษ สามารถเล่นเกมคุณภาพสูงได้อย่างลื่นไหล บนจอแสดงผล AMOLED ที่ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 144Hz อีกทั้งยังเล่นเกมได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh รองรับการชาร์จแบบ Bypass และชาร์จไว 120W นอกจากนี้ ยังมีกล้องถ่ายรูปที่เก็บภาพในเวลากลางคืนได้สวยงาม และมีดีไซน์ที่ทันสมัย แข็งแรงทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งหมดนี้ทำให้ iQOO Neo 10 เป็นเกมมิ่งสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ทุกระดับ โดยเฉพาะเกมเมอร์หน้าใหม่ที่กำลังมองหาเกมมิ่งสมาร์ตโฟนที่มีราคาคุ้มค่า
iQOO Neo 10 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีส้ม (Blazing Orange) และ สีดำ (Cosmic Black) มีให้เลือก 2 สเปกดังนี้
12GB + 256GB ในราคา 15,900 บาท
16GB + 512GB ในราคา 17,900 บาท
#iQOONeo10 #เต็มแม็กซ์ในทุกแมตช์