หลังจากที่ vivo เปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ตโฟนแฟลกชิป vivo X200 และ vivo X200 Pro ออกมาทำตลาดในประเทศไทยไปในช่วงปลายที่ผ่านมา พร้อมสร้างยอดขายถล่มทลาย ล่าสุด vivo ได้ปล่อยน้องเล็ก vivo X200 FE มาบุกตลาดประเทศไทยทางการแล้ว โดยมาพร้อมสโลแกน “ZEISS Image. Pro Paked จับกระชับ ชัดทุกช็อต” ซึ่งชัดเจนว่าถูกสร้างมาเอาใจคนรักการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ด้วยกล้องพอร์ตเทรตระดับโปร และเทคโนโลยีกล้องระดับโลกจาก ZEISS อีกทั้งยังมีดีไซน์กะทัดรัด เพื่อให้พกพาได้อย่างสะดวก ภายใต้ภาพลักษณ์ที่สวยงามพรีเมียมสีสันสวยงามทั้ง 4 สี นอกจากนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพระดับเรือธง และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจ
สเปก vivo X200 FE
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.31 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 5000nits
- กล้องหลัง 50MP Main + 8MP Ultra Wide + 50MP ZEISS Super Periscope Telephoto
- กล้องหน้า 50MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9300+
- ความจำ RAM 12GB (LPDDR5X) + ROM 512GB (UFS 3.1)
- ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC, OTG, USB Type-C (USB 2.0)
- ระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NavIC, A-GPS
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, Ambient Light Sensor, E-compass, Gyroscope, Infrared, Flicker Sensor
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 บนพื้นฐาน Android 15
- มาตรฐานทนน้ำและทนฝุ่น IP69 และ IP68
- แบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh
- รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 90W FlashCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 150.83 x 71.76 x 7.99 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 186 กรัม
- มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Blue Breeze, Pink Vibe, Yellow Glow และ Black Luxe
แกะกล่อง vivo X200 FE
vivo X200 FE จัดส่งมาในกล่องสีดำ บนฝากล่องระบุชื่อรุ่นขนาดใหญ่ กำกับด้วยข้อความที่ระบุว่ามีการทำงานด้านวิศวกรรมร่วมกันกับ ZEISS เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับสมาร์ตโฟน vivo X200 FE เป็นอย่างแรก วางอยู่บนถาดรองสีดำ โดยมีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้วจากโรงงาน



หลังจากหยิบถาดรองสมาร์ตโฟนออกไป จะพบกับกล่องแบนๆ สีดำ แยกไว้เป็นสัดส่วน ประกอบด้วย ซองสำหรับจัดเก็บเอกสาร ได้แก่ คู่มือ ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน แถมเคสมาให้ตรงตามสีตัวเครื่อง พร้อมแนบเข็มช่วยถอดถาดใส่ซิมการ์ดมาให้ด้วย สำหรับสายชาร์จ และหัวชาร์จ (Power Adapter) ถูกแยกเก็บไว้อีกกล่อง โดย Power Adapter รองรับชาร์จเร็วสูงสุด 90W FlashCharge


ดีไซน์พรีเมียม เน้นพกพาสะดวก

vivo X200 FE ชูจุดเด่นในการเป็นเรือธงที่สามารถพกพาได้สะดวก ดังนั้น ดีไซน์ในภาพรวมยังคงให้ความสวยงามพรีเมียม ภายใต้ขนาดกะทัดรัด ช่วยให้จับถือด้วยมือเดียวได้อย่างถนัด และง่ายต่อการพกพาไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า โดยมีสีสันสดใส ผลิตออกมาให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีชมพู Pink Vibe, สีเหลือง Yellow Glow, สีดำ Black Luxe และสีฟ้า Blue Breeze ที่แตกต่างจากสีอื่นที่ขอบตัวเครื่องเป็นสีดำทั้งหมด แต่สีฟ้าขอบจะเป็นสีเดียวตัวเครื่องสวยงามไปอีกแบบ
- สีชมพู Pink Vibe (พิงก์ ไวบ์) – เสริมความมั่นใจ เป็นตัวเองได้อย่างอิสระ
- สีฟ้า Blue Breez (บลู บรีซ) – เติมเต็มความสดชื่นให้ชีวิตประจำวันสะท้อนโมเมนต์แห่งความสงบผ่อนคลาย
- สีเหลือง Yellow Grow (เยลโลว์ โกลว) – สะท้อนความอบอุ่น และความสุขของช่วงเวลาพักผ่อน
- สีดำ Black Luxe (แบล็ก ลักซ์) – ให้ความรู้สึกสุขุมนุ่มลึกและหรูหราสง่างามในเครื่องเดียว
เนื่องจากเป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธง จึงมั่นใจได้ในเรื่องวัสดุที่มีคุณภาพ vivo X200 FE ใช้กรอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ให้ความแข็งแรง ทนทานต่อการตกหล่น ส่วนฝาหลังใช้วัสดุกระจก Metallic Sand AG ให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา ขณะที่แผงด้านหน้ายังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Shield Glass ซึ่งผ่านการรับรอง SGS ในด้านทนฝุ่น ทนน้ำ และ กันกระแทก
vivo X200 FE มีขนาดหน้าจอ 6.31 นิ้ว ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด จับถือได้ง่ายด้วยมือเดียว ขณะที่ vivo X200 มีขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว และจอแสดงผลของ vivo X200 Pro มีขนาด 6.78 นิ้ว ทำให้ vivo X200 FE เป็นเรือธงที่พกพาได้ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ใน Series เดียวกัน พร้อมติดตั้งกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล ไว้บนหน้าจอ ซ่อนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผลด้วย และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Shield Glass
ด้านหลังติดตั้งกล้องหลักคู่กับกล้อง Telephoto ไว้ในกรอบสีดำรูปทรงแคปซูล ส่วนกล้อง Ultra Wide ถูกวางไว้นอกกรอบ เหนือแฟลชวงแหวน Aura Light
ขอบด้านข้างมีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร ถึงแม้จะติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6500mAh
ปุ่มปรับระดับเสียง วางอยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์ โดยใช้วัสดุอะลูมิเนียมแบบเดียวกับกรอบตัวเครื่อง
มุมมองด้านบนพบไมโครโฟนตัวที่ 2 และตำแหน่งของเซ็นเซอร์อินฟราเรด
ด้านล่างประกอบด้วยลำโพงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟนคู่ และ ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM รองรับ 2 ซิม (Dual SIM Dual Standby)
นอกจากความสวยงามพรีเมียม vivo X200 FE ยังถูกสร้างมาให้ป้องกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยมาตรฐาน IP68 และ IP69 หมายความว่า สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างเต็มรูปแบบ ต้านทานน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80 องศาเซลเซียส และอยู่รอดในน้ำที่มีความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
จอแสดงผล ZEISS Master Color สีสันคมชัด
vivo X200 FE มาพร้อมจอแสดงผล LTPO AMOLED ความลึกสี 1.07 พันล้านสี ความละเอียด 2640 x 1216 พิกเซล ขนาด 6.31 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 460 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้ความสว่างสูงสุด 5000nits และรองรับอัตรารีเฟรชแบบปรับได้สูงสุด 120Hz (120Hz/90Hz/72Hz/60Hz)
จอแสดงผลของ vivo X200 FE ได้รับมาตรฐาน ZEISS Master Color เช่นเดียวกับ vivo X200 Pro จึงแสดงสีสันได้อย่างคมชัดสมจริงเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะการเปิดดูภาพถ่ายหรือวิดีโอที่บันทึกจากกล้องหลังของสมาร์ตโฟน ที่ใช้เลนส์ของ ZEISS เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังรองรับขอบเขตสีกว้าง P3 สนับสนุน HDR10+ และ Netflix HDR เพิ่มความสบายตาด้วยเทคโนโลยีการหรี่แสงขั้นสูง 2160Hz PWM Dimming อีกทั้งยังผ่านการรับรองจาก SGS ด้วยเทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์พร้อมปรับความสว่างแสงหน้าจอให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ รวมถึงโหมด Smart Eye Protection Mode 2.0 ป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า

กล้องพอร์ตเทรตระดับโปร

vivo X200 FE ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก + กล้อง Telephoto + กล้อง Ultra Wide พร้อมด้วยแฟลชแบบ Aura Light ที่ให้คุณภาพแสงระดับสตูดิโอ สามารถเติมแสงโดยอัตโนมัติ (Smart 3D Fill Light) เมื่อถ่ายภาพภาพพอร์ตเทรตแบบอัจฉริยะ และมีเทคโนโลยีปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะ (ในช่วง 1800K ถึง 5200K) เพื่อให้โทนสีภาพออกมาสวยงาม
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/1.88 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS
- กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/2.65
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
กล้องซูมของ vivo X200 FE เป็นกล้อง ZEISS Super Periscope Telephoto ไม่ใช่กล้อง Telephoto ทั่วไป เนื่องจากรุ่นนี้มีขนาดตัวเครื่องที่บางและเล็ก เราจึงใช้โครงสร้างตัวกล้องซูม Periscope Telephoto โครงสร้างใหม่ ให้แสงวิ่งผ่านเลนส์ในรูปแบบ M-shaped แทนที่จะเป็น L-shaped แบบเดิม ซึ่งช่วยลดขนาดโครงสร้างกล้องตัวนี้ลงได้อย่างมาก ทั้งนี้หากสังเกตที่โมดูลกล้องจะเห็นเป็นทรงกลม ซึ่งดูแตกต่างจากกล้อง Periscope Telephoto อย่างในรุ่น X200 หรือ X200 Pro ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม แต่จริง ๆ แล้ว X200 FE เองก็เป็น Periscope Telephoto เช่นเดียวกัน
กล้องหลังของ vivo X200 FE รองรับโหมดถ่ายภาพ Snapshot, Night, Portrait, Photo, Video, Micro Movie, High Resolution, Panorama, Ultra HD Document, Slo-motion, Time-lapse, Portrait Video, Supermoon, Stage, Astro, Pro และ Food
โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x, 1x, 2x, 3x, 10x และซูมได้สูงสุด 100x มาพร้อมฟิลเตอร์ Basic styles ที่มีตัวเลือกน่าสนใจได้แก่ Texture, Vivid และ ZEISS ถัดมาจะเป็น Personalized Styles โดยมีโทนสีกล้องฟิล์ม Classic Negative,Positive film และ Clear blue เพิ่มเข้ามานอกจากโทนสีปกติในเครื่อง รวมถึงฟิลเตอร์ขณะที่แถบเครื่องมือด้านบน มีฟีเจอร์ใช้งานแฟลช Aura Light และ Live Photo
- NC Film หรือ Classic Negative เหมาะสำหรับบรรยากาศแนววินเทจ
- CC Film หรือ Positive film เหมาะสำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยวและภาพแนวสตรีท
- VB Film หรือ Clear blue ภาพถ่ายอารมณ์แบบภาพยนตร์
โหมด Portrait มาพร้อม ZEISS Multifocal Portrait ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ระยะ 1x (23 มม.) เหมาะสำหรับบันทึกภาพการท่องเที่ยวที่ต้องการเก็บวิวทิวทัศน์ หรือ 1.5x (35 มม.) สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบเต็มตัวพร้อมฉากหลักที่สวยงาม, 2.2x (50 มม.) สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว, 3.7x (85 มม.) สำหรับถ่ายภาพบุคคลที่ใกล้ยิ่งขึ้นแบบช่วงอกขึ้นไป และ 4.3x (100 มม.) เน้นถ่ายภาพใบหน้าของบุคคล
โหมด Portrait ยังมีเอฟเฟกต์โบเก้ละลายฉากหลังระดับมืออาชีพ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเลนส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS เช่น Biotar, B-speed, Sonnar, Planar, Distagon, Cine-flare และ Cinematic อีกทั้งยังมี Portrait lens kit ที่ช่วยให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องตั้งค่ากล้องให้ยุ่งยาก เนื่องจากมีการปรับแต่งมาให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Landscape portrait, Street portrait, Natural portrait, Classic portrait, Figure และ Close-up
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x, 1x, 2x, 3x และซูมได้สูงสุด 15x สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที อีกทั้งยังมีโหมด Micro Movie ที่เหมาะสำหรับถ่ายวิดีโอเพื่อแชร์ลงโซเชียลมีเดีย และ Portrait Video เหมาะสำหรับทำ Vlog หรือเน้นตัวบุคคล แต่จะบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
และเป็นครั้งแรกที่ไฟแฟลช Aura Light ฟีเจอร์ไฮไลท์ของ V Series ที่ช่วยให้ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้อย่างยอดเยี่ยม ปรับอุณหภูมิแสงไฟตามสภาพแวดล้อม ก็เข้ามาอยู่ใน vivo X200 FE เรียบร้อย เรียกได้ว่าครั้งนี้ vivo เอาใจสายถ่ายรูปแบบสุดๆ
กล้องหน้า 50MP ซูมได้ 3 ระยะ
ขณะที่ vivo X200 และ vivo X200 Pro มีกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล vivo X200 FE กลับได้รับกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังมีขนาดตัวเครื่องที่เล็กกว่า ช่วยให้การถือตัวเครื่องเพื่อถ่ายภาพเซลฟี่มีความมั่นคงและถนัดมือมากกว่า เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนที่มีขนาดใหญ่กว่า จะพบว่ามีโอกาสเกิดปัญหาภาพสั่นหรือเบลอ เพราะจับถือไม่สะดวก
โหมด Photo ของกล้องหน้า สามารถซูมได้ 3 ระยะ 0.8x, 1x และ 2x มาพร้อมฟิลเตอร์ Basic styles แบบเดียวกับกล้องหลัง ส่วนแถบเครื่องมือด้านบน สามารถเปิดแฟลชได้ โดยอาศัยแสงสว่างจากจอแสดงผลแทนไฟ Aura Light ถัดมามีฟีเจอร์ Live Photo
โหมด Portrait ของกล้องหน้า สามารถซูมได้ 3 ระยะเช่นกัน และมีเอฟเฟกต์โบเก้จาก ZEISS ได้แก่ Biotar, Sonnar, Planar, Distagon, Cine-flare และ Cinematic นอกจากนี้ เครื่องมือ Beauty สำหรับเสริมความงามให้กับใบหน้าก็ปรับแต่งได้อย่างละเอียด และยังมีเครื่องมือ Makeup มาให้เลือกหลายแบบ สามารถแต่งหน้าตามรูปแบบที่ต้องการ
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถซูมได้ 3 ระยะ 0.8x, 1x และ 2x สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
ตัวอย่างภาพถ่าย
AI Image Studio
นอกเหนือจากกล้องความละเอียดสูง vivo X200 FE ยังอัดแน่นไปด้วยเครื่องมือ AI ที่ช่วยให้การปรับแต่งภาพเป็นเรื่องง่าย โดยเข้าถึงได้จากแอป Albums จากนั้นเลือกรูปภาพที่ต้องการปรับแต่งหรือแก้ไข แล้วเข้าไปที่เมนู Edit จากนั้นเลือกเครื่องมือ AI ที่ต้องการ ซึ่งประกอบไปด้วย AI Magic Move, AI Image Expander, AI Reflection Erase, AI Erase และ AI Photo Enhance
AI Magic Move สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุหรือองค์ประกอบในภาพได้อย่างง่ายดาย เพียงแตะค้างไว้แล้วขยับไปวางในตำแหน่งที่ต้องการ
AI Image Expander ช่วยขยายพื้นที่รูปภาพให้กว้างขึ้น เหมาะสำหรับการแก้ไขภาพถ่ายจากมุมแคบ แต่ต้องการขยายฉากหลังให้กว้างขึ้น AI สามารถเพิ่มเติมฉากหลังที่ถูกขยายได้อย่างแนบเนียน ทำให้องค์ประกอบโดยรวมของภาพถ่ายสมบูรณ์แบบมากขึ้น
AI Reflection Erase สำหรับลบเงาสะท้อนในกระจกหรือพื้นผิวที่มีความมันเงา
AI Erase เครื่องมือลบวัตถุหรือบุคคลออกจากภาพถ่าย พร้อมเติมฉากหลังที่หายไปได้อย่างแนบเนียน โดยใช้ AI ช่วยระบุวัตถุหรือบุคคลได้อย่างแม่นยำ และสามารถลบออกได้ง่ายๆ ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
AI Photo Enhance ช่วยฟื้นฟูรูปภาพให้มีรายละเอียดและคมชัดกว่าเดิม ด้วยการปรับความสว่าง คอนทราสต์ รวมถึงลดนอยส์ พร้อมปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามยิ่งขึ้น
ชิป Dimensity 9300+ พร้อมระบบระบายความร้อน
ด้านประสิทธิภาพ vivo X200 FE ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 9300+ ของ MediaTek ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร รุ่นที่ 3 ของ TSMC โดยใช้สถาปัตยกรรม All-Big-Core ที่มี Arm Cortex-X4 ทำงานที่ความเร็วสูงสุด 3.4GHz พร้อมคอร์ Cortex-X4 (3-core) และคอร์ Cortex-A720 (4-core)
ชิป Dimensity 9300+ ยังผสานเทคโนโลยี Raytracing รุ่นที่ 2 รวมเข้ากับ Arm Immortalis-G720 GPU ทำให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ Raytracing ที่ราบรื่นและรวดเร็วที่ 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมเอฟเฟกต์แสง Global Illumination ระดับเกมคอนโซล
เพื่อตอบสนองการทำงานนานต่อเนื่องด้วยประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างราบรื่นและเสถียร vivo X200 FE จึงมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่ครอบคลุมพื้นที่ภายในกว่า 28,940 ตารางมิลลิเมตร ซึ่งรวมถึงแผ่นกราไฟต์นำความร้อน ทำงานร่วมกับแผ่นระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่ 3,800 ตารางมิลลิเมตร ช่วยให้ระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ส่งผลให้อุณภูมิเย็นกว่าเดิมถึง 44%
ด้านความจำ vivo X200 FE ได้รับ RAM แบบ LPDDR5X ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM แบบ UFS 3.1 ขนาด 512GB พร้อมรองรับฟีเจอร์ Extended RAM สามารถยืมพื้นที่ ROM มาใช้เป็น RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB ทำให้การใช้งานแบบ Multitasking ลื่นไหลยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกัน หรือสลับการใช้งานแต่ละแอปที่เปิดทิ้งไว้ จากการทดสอบประสิทธิภาพด้วย แอปพลิเคชั่น Antutu ได้คะแนนเฉียด 2,000,000 คะแนนเลยทีเดียว
แบตใหญ่ 6500mAh ชาร์จเร็ว 90W FlashCharge
อีกจุดเด่นของ vivo X200 FE คือ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ เพราะมาพร้อมแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุสูงถึง 6500mAh โดยที่ยังคงรักษาความเครื่องให้มีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร ทำให้ vivo X200 FE มีอายุการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ สามารถเดินทางไกลเป็นเวลานานตั้งแต่เช้าจรดเย็น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องหาจุดชาร์จแบตเตอรี่
นอกจากนี้ ยังรองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 90W FlashCharge ใช้เวลาชาร์จไม่กี่นาที ก็สามารถพกพา vivo X200 FE ไปใช้งานได้ตลอดทั้งวัน โดยใช้เวลาชาร์จแค่ 10 นาทีสามารถรับชมสตรีมมิ่งได้นานถึง 3 ชั่วโมง ถ้าชาร์จเต็ม 100% ดู Youtube ได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 ชั่วโมง เล่นเกมต่อเนื่องได้เกือบ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว
บล็อกสายมิจฉาชีพอย่างแม่นยำด้วย AI
ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของ vivo X200 FE คือเราสามารระบุและบล็อกสายมิจฉาชีพ ที่โทรก่อกวนอย่างแม่นยำด้วย AI เพียงแค่ตั้งค่าก็ใช้งานได้ ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
โดยฟีเจอร์นี้ได้ใช้ความร่วมมือฐานข้อมูล AI ทั่วโลก ผ่านการฝึกฝนด้วยชุดขอมูลทั่วโลก ทำให้สามารถระบุและบล็อกสายก่อกวน เพื่อ ป้องกันการหลอกลวงที่อาจเกิดขึ้นได้ ผู้ใช้สามารถรายงานและแจ้งเบอร์ที่น่าสงสัยเพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความปลอดภัยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
สรุปราคาและการจำหน่าย
vivo X200 FE ถูกสร้างมาให้เป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธง จึงไม่ต้องสงสัยในเรื่องของดีไซน์ ซึ่งได้รับวัสดุคุณภาพสูง แถมยังแข็งแรงทนทาน ทนน้ำและทนฝุ่นในระดับสูง IP68&IP69 โดยชูจุดเด่นที่ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัด เพื่อให้พกพาง่าย จับถือใช้งานก็ทำได้อย่างสะดวกด้วยมือเดียว อีกทั้งยังมีกล้องความละเอียดสูง รองรับการถ่ายภาพทุกสถานการณ์ทั้งกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล กล้อง Telephoto กล้อง Ultra Wide รวมถึงกล้องเซลฟี่ 50 ล้านพิกเซล ตอบสนองการใช้งานได้อย่างลื่นไหลด้วยชิป Dimensity 9300+ พร้อมระบบระบายความร้อน และให้อายุการใช้งานยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้ทำให้ vivo X200 FE เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด สำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนขนาดเล็ก แต่มีสเปกระดับเรือธง
vivo X200 FE รุ่น 12GB + 512GB เปิดราคาทางการในประเทศไทยที่ 24,999 บาทมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีได้แก่ Blue Breeze, Pink Vibe, Yellow Glow และ Black Luxe เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
รับของสมนาคุณมากมาย ( เมื่อสั่งซื้อภายใน 4 ก.ค. – 31 ส.ค. 68 )
📍 ต่อที่ 1
vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง (มูลค่า 10,999.-)
📍 ต่อที่ 2
Premium Gift (มูลค่า 2,099.-)
📍 ต่อที่ 3
โปรเก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินสูงสุด 5,000.-