งาน Galaxy Unpacked ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกของ Samsung ที่มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับพร้อมกัน 3 รุ่น โดยมีไฮไลท์ที่ Galaxy Z Fold7 เน้นดีไซน์บางเบา ทรงพลัง ตามมาด้วย Galaxy Z Flip7 พกง่าย ใช้คล่อง และยังมี Galaxy Z Flip7 FE สมาร์ทโฟนจอพับที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดของ Samsung

Samsung Galaxy Z Fold7

Samsung เป็นผู้บุกเบิกสมาร์ทโฟนจอพับนับตั้งแต่เปิดตัว Galaxy Fold รุ่นแรกในปี 2019 และมีการอัปเกรดรุ่นใหม่ในทุกๆ ปี จนมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy Z Fold7 ซึ่งมีดีไซน์บางเบาลงอย่างมาก โดยมีความบางเพียง 4.2 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) และ 8.9 มิลลิเมตร (เมื่อพับ) น้ำหนักเบาเพียง 215 กรัม ขณะที่ Galaxy Z Fold6 มีความบาง 5.6 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) และ 12.1 มิลลิเมตร (เมื่อพับ) น้ำหนัก 239 กรัม
ถึงแม้จะมีดีไซน์บางลงจากรุ่นก่อน แต่ Galaxy Z Fold7 กลับมีความแข็งแรงมากขึ้น ด้วยนวัตกรรมโครงสร้างใหม่ Armor FlexHinge ซึ่งผสานวัสดุขั้นสูงเข้ากับการออกแบบที่ปรับแต่งมาอย่างดี ทำให้มีความแข็งแกร่ง ทนทานในทุกมิติ โดยกรอบและฝาพับของ Galaxy Z Fold7 ใช้วัสดุ Advanced Armor Aluminum แข็งแกร่งขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ Armor Aluminum ที่ใช้ใน Galaxy Z Fold6

Galaxy Z Fold7 มาพร้อมจอแสดงผลหลัก Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2184 x 1968 พิกเซล ขนาด 8 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 368ppi (พิกเซลต่อนิ้ว) รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 1~120Hz และครอบทับด้วยกระจก Ultra Thin Glass (UTG) ที่หนากว่ารุ่นก่อน 50% เพื่อความเรียบเนียน และทำให้เกิดรอยพับน้อยลง

จอแสดงผลด้านนอก Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2520 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.5 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 422ppi (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 1~120Hz และมีอัตราส่วนภาพ 21:9 จึงรองรับการใช้งานได้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำเป็นต้องกางอุปกรณ์เพื่อใช้งานจอแสดงผลหลัก อีกทั้งยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Ceramic 2 ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานมากขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

กล้องหลังของ Galaxy Z Fold7 มีการลดขนาดโมดูลกล้องให้เล็กลง 18% และเป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแรกที่ได้รับกล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล โดยมีรูรับแสง F1.7 ขนาดพิกเซล 0.6 ไมโครเมตร ระบบออโต้โฟกัส Quad Pixel AF ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS มาพร้อมกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.4 ไมโครเมตร ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel AF ให้มุมมองภาพ 120 องศา และ กล้อง Telephoto ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 ขนาดพิกเซล 1.0 ไมโครเมตร ระบบออโต้โฟกัส PDAF ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รองรับการซูมออปติคัล 3x ซูมดิจิทัล 10x รวมถึงการซูม 30x Space Zoom ด้วยเทคโนโลยี AI Super Resolution

กล้องหน้าของ Galaxy Z Fold7 ติดตั้งมาให้ 2 ตัว โดยตัวแรกซ่อนอยู่บนจอแสดงผลด้านนอก มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมโครเมตร ให้มุมมองภาพ 85 องศา กล้องหน้าอีกตัวฝังอยู่ใต้จอแสดงผลหลัก มีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมโครเมตร ให้มุมมองภาพ 100 องศา

ด้านประสิทธิภาพ Galaxy Z Fold7 ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite for Galaxy มีความจำ 3 ตัวเลือก RAM 12GB + ROM 256GB / RAM 12GB + ROM 512GB / RAM 12GB + ROM 1TB ความจุแบตเตอรี่ 4400mAh รองรับชาร์จเร็ว Super Fast Charging สามารถชาร์จถึง 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยหัวชาร์จ 25W Power Adapter และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 รวมถึงฟีเจอร์ Wireless PowerShare ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย

ด้านซอฟต์แวร์ Galaxy Z Fold7 รวมถึง Galaxy Z Flip7 และ Galaxy Z Flip7 FE ทำงานบนพื้นฐาน Android 16 ครอบทับด้วย One UI 8 ซึ่งได้รับการอัปเกรด UX ให้ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประตำวันมากขึ้น ตั้งแต่การควบคุมแอปผ่าน FlexWindow หรือจอด้านนอก โดยไม่ต้องกางอุปกรณ์เพื่อใช้หน้าจอหลัก ไปจนถึงการปรับแต่งวอลเปเปอร์ สี นาฬิกา และ Now Brief ให้สอดคล้องกับการใช้งานของแต่ละคน
One UI 8 อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ จาก Galaxy AI ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานแบบ Multimodal สามารถเข้าใจทั้งเสียง ข้อความ ภาพ และบริบทการใช้งานได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Gemini Live, Circle to Search, Writing Assist และ Photo Assist พร้อมด้วยฟีเจอร์ AI ที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เช่น การสรุปข้อความ แปลภาษาขณะเดินทาง หรือลบเสียงรบกวนในคลิปวิดีโอ นอกจากนี้ One UI 8 ยังเสริมความปลอดภัยด้วย Knox Matrix และ Post-Quantum Cryptography พร้อมรับมือยุคคอมพิวเตอร์ควอนตัมอย่างเต็มรูปแบบ

Samsung Galaxy Z Flip7

นอกจาก Galaxy Z Fold7 ที่มีการยกเครื่องดีไซน์ครั้งใหญ่ สมาร์ทโฟนจอพับในแนวตั้งรุ่นใหม่ของ Samsung อย่าง Galaxy Z Flip7 ก็ได้รับการอัปเกรดแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip6 ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว โดยเฉพาะบานพับใหม่ Armor FlexHinge ที่บางกว่าเดิม พร้อมปรับโครงสร้างใหม่ และใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อให้พับหน้าจอได้เรียบเนียน และเพิ่มความทนทานรองรับการใช้งานยาวนาน
Galaxy Z Flip7 ได้รับการอัปเกรดตั้งแต่ภายในด้วยดีไซน์แผงวงจรความหนาแน่นสูงพิเศษ เพื่อใช้พื้นที่ว่างภายในให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลให้ Samsung สามารถเพิ่มความจุแบตเตอรี่ให้มากกว่ารุ่นก่อน 300mAh ขณะที่มีความหนาลดลง โดยมีความบางเพียง 6.5 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) บางกว่ารุ่นก่อน 0.4 มิลลิเมตร
ดีไซน์ภายนอกของ Galaxy Z Fold7 เลือกใช้กรอบ Armor Aluminum ที่มีความแข็งแรง และยืดหยุ่น พร้อมปกป้องด้านหน้าและฝาหลังด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2

จอแสดงผลด้านนอกของ Galaxy Z Flip7 ให้สีสันสดใสด้วยจอ Super AMOLED ความละเอียด 1048 x 948 พิกเซล ขนาด 4.1 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน จะพบว่าหน้าจอด้านนอกของ Galaxy Z Flip7 ใหญ่ขึ้น 0.7 นิ้ว เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip6 แต่ยังคงรักษาขนาดตัวเครื่องให้กะทัดรัดพกพาสะดวก ซึ่งเป็นผลมาจากการลดพื้นที่ขอบจอให้หายไป 68% จากขนาด 3.94 เหลือเพียง 1.25 มิลลิเมตร
และด้วยขนาดหน้าจอด้านนอกที่ใหญ่ขึ้น จึงสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสนับสนุนการใช้งาน Gemini Live บนหน้าจอด้านนอกได้อีกด้วย

Galaxy Z Flip7 มาพร้อมจอแสดงผลหลัก Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2520 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.9 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 21:9 รองรับอัตรารีเฟรชแบบปรับได้ 1~120Hz ขณะที่จอด้านนอกสามารถปรับอัตรารีเฟรชได้ 2 ระดับ 60Hz / 120Hz นอกจากนี้ ทั้ง 2 หน้าจอ ยังให้ความสว่างสูงสุด 2,600 นิต และได้รับเทคโนโลยี Vision Booster ช่วยปรับแสงหน้าจอ รวมถึงระดับคอนทราสต์ และเพิ่มความสดของสี ให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่ออยู่ภายนอกอาคารหรือใช้งานกลางแจ้ง

กล้องของ Galaxy Z Flip7 ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 ขนาดพิกเซล 1.0 ไมโครเมตร ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel AF ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS วางคู่กับกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมโครเมตร ให้มุมมองภาพ 123 องศา และมีกล้องเซลฟี่ 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมโครเมตร ให้มุมมองภาพ 85 องศา
จอแสดงผลด้านนอก สามารถแสดงตัวอย่างภาพแบบเรียลไทม์ได้ผ่านฟีเจอร์ Dual Preview ผู้ใช้งานจึงสามารถใช้กล้องหลักในการถ่ายเซลฟี่ หรือ กรณีถ่ายภาพให้บุคคลอื่น ตัวแบบก็สามารถใช้จอแสดงผลด้านนอกเป็นเหมือนกระจก ช่วยให้จัดท่าทางหรือดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมขณะถ่ายภาพได้ทันที
ด้านประสิทธิภาพ Galaxy Z Flip7 ใช้ชิปประมวลผล Exynos 2500 มีความจำ 2 ตัวเลือก RAM 12GB + ROM 256GB / RAM 12GB + ROM 512GB ความจุแบตเตอรี่ 4300mAh รองรับชาร์จเร็ว Super Fast Charging สามารถชาร์จถึง 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยหัวชาร์จ 25W Power Adapter และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 รวมถึง Wireless PowerShare

Samsung Galaxy Z Flip7 FE

Galaxy Z Flip7 FE เป็นสมาร์ทโฟนจอพับในแนวตั้งตระกูล FE รุ่นแรกของ Samsung เพื่อเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip7 ที่เปิดตัวพร้อมกัน โดยมีความบาง 6.9 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) และ 14.9 มิลลิเมตร (เมื่อพับ) น้ำหนักเบา 187 กรัม กรอบตัวเครื่องใช้วัสดุ Armor Aluminum ด้านหลังและจอแสดงผลด้านหน้าได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2
Galaxy Z Flip7 FE มาพร้อมจอแสดงผลหลัก Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 1~120Hz ส่วนจอแสดงผลด้านนอกเป็น Super AMOLED ความละเอียด 720 x 748 พิกเซล ขนาด 3.4 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 60Hz

แผนกกล้องของ Galaxy Z Flip7 FE ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 ขนาดพิกเซล 1.0 ไมโครเมตร ระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel AF ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS วางคู่กับกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.12 ไมโครเมตร ให้มุมมองภาพ 123 องศา และมีกล้องเซลฟี่ 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 ขนาดพิกเซล 1.22 ไมโครเมตร ให้มุมมองภาพ 85 องศา
ด้านประสิทธิภาพ Galaxy Z Flip7 FE ได้รับชิปประมวลผล Exynos 2400 ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB / RAM 8GB + ROM 256GB แบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จไว สามารถชาร์จถึง 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยหัวชาร์จ 25W Power Adapter รวมถึงการชาร์จไร้สาย Fast Wireless Charging 2.0 และ Wireless PowerShare

สรุปราคาและการจำหน่าย

อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น Samsung เป็นผู้บุกเบิกสมาร์ทโฟนจอพับมานานหลายปี และเริ่มเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2019 จากนั้นก็มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ถ้ากำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนจอพับ Samsung จึงเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ควรรับไว้พิจารณา เพราะสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของนวัตกรรมบานพับ และยังเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีจอแสดงผลที่มีความยืดหยุ่นสูง โดย Galaxy Z Fold7 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่แบบแท็บเล็ต แต่ยังคงพกพาได้สะดวก ขณะที่ Galaxy Z Flip7 ไม่ต่างอะไรกับสมาร์ทโฟนเรือธงรูปทรงแท่ง แต่พับเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าได้อย่างง่ายดาย และ Galaxy Z Flip7 FE เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอพับของ Samsung ที่สามารถประหยัดเงินได้มากที่สุด
ทั้งนี้ สมาร์ทโฟนจอพับทั้ง 3 รุ่นใหม่ของ Samsung จะเริ่มวางจำหน่ายในไทย ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2025 เป็นต้นไป

Galaxy Z Fold7 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Blue Shadow, Silver Shadow, Jetblack และ Mint (เฉพาะการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์) ราคา 67,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 12GB + ROM 256GB, ราคา 72,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 12GB + ROM 512GB และ ราคา 85,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 16GB + ROM 1TB

Galaxy Z Flip7 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Blue Shadow, Jetblack, Coralred และ Mint (เฉพาะออนไลน์) ราคา 40,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 12GB + ROM 256GB และ ราคา 45,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 12GB + ROM 512GB

Galaxy Z Flip7 FE มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ White ราคา 32,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 128GB และ ราคา 35,900 บาท สำหรับรุ่น RAM 8GB + ROM 256GB






