iQOO เขย่าตลาดสมาร์ตโฟนของไทยส่งท้ายปี 2025 ด้วยเรือธง iQOO 15 ที่สร้างขึ้นมาภายใต้สโลแกน “Born for MVPs” จัดเต็มสเปกแบบแรงสุดในวงการด้วยชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ที่ทรงพลัง Snapdragon 8 Elite Gen 5 พร้อมเปิดมุมมองแบบ MVPs อย่างเต็มตากับจอแสดงผล iQOO x Samsung ที่ให้ภาพคมชัดเหนือชั้น ลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz และทำงานบนระบบปฏิบัติการใหม่ OriginOS 6 ที่ออกแบบมาเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วบนสัมผัสที่ราบรื่นอย่างเป็นธรรมชาติในทุกจังหวะเกม นอกจากนี้ ยังอัดแน่นด้วยสเปกระดับเรือธงทั้งดีไซน์ แบตเตอรี่ และ การถ่ายภาพ

สเปก iQOO 15

- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.85 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 6000nits อัตรารีเฟรช 144Hz
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Elite Gen 5
- ความจำ RAM 12GB / 16GB (LPDDR5X Ultra) + ROM 256GB / 512GB (UFS 4.1)
- รองรับฟีเจอร์ Extended RAM ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 16GB (สำหรับรุ่น RAM 16GB + ROM 512GB)
- กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 6, NFC, OTG, USB Type-C (USB 3.2)
- ระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS, NavIC, GNSS
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Proximity, Ambient Light Sensor, E-compass, Gyroscope, Color Temperature Sensor, Infrared, Flicker Sensor
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ 3D Ultrasonic
- ระบบปฏิบัติการ OriginOS 6 บนพื้นฐาน Android 16
- มาตรฐานทนน้ำและทนฝุ่น IP68 และ IP69
- แบตเตอรี่ BlueVolt 7000mAh
- รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 100W และชาร์จไร้สาย 40W
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Legend และ Zen
- ขนาดตัวเครื่อง 163.65 x 76.80 x 8.17 มิลลิเมตร (Legend)
- น้ำหนัก 220 กรัม (Legend)
- ขนาดตัวเครื่อง 163.65 x 76.80 x 8.28 มิลลิเมตร (Zen)
- น้ำหนัก 221 กรัม (Zen)
แกะกล่อง iQOO 15

iQOO 15 จัดส่งมาในกล่องสีดำ หน้ากล่องระบุว่าใช้ระบบปฏิบัติการ OriginOS และมีชื่อรุ่น iQOO 15 ขนาดใหญ่ จัดวางในแนวนอน เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับ สมาร์ตโฟนถูกห่อหุ้มไว้ในซองอย่างดี ใต้ถาดรองสมาร์ตโฟนมีเคสแถมมาให้ 1 อัน พร้อมด้วยคู่มือ Quick Start Guide รวมถึงข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน
ชั้นล่างสุดของกล่องมีช่องเก็บสายชาร์จ และ หัวชาร์จ 100W FlashCharge (USB-C Power Adapter) ส่วนเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด แนบมากับแผ่นกระดาษที่สายชาร์จวางทับอยู่
ดีไซน์พรีเมียม โดดเด่นด้วยไฟ Monster Halo

ทีมงาน @flashfly ได้รับ iQOO 15 มารีวิวทั้ง 2 สี ได้แก่ Legend และ Zen ซึ่งตัวเลือก Zen ถือเป็นสีสันใหม่ล่าสุดของ iQOO มีลวดลายที่น่าสนใจเป็นพิเศษ โดยจำลองพื้นผิวของภูเขาไฟ สื่อถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่พร้อมทะลวงทุกขีดจำกัด และพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
เมื่อโดนแสงบริเวณลายด้านหลังตัวเครื่องบางส่วนจะเปลี่ยนเป็นเหมือนเปลวเพลิงทรงพลังที่ทำออกมาได้ดีมากๆ

สำหรับใครที่ติดตามสมาร์ตโฟนของ iQOO มาโดยตลอด คงจะคุ้นเคยกับตัวเลือกสี Legend กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นสีขาวแบบด้าน ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง แบบเดียวกับที่พบในรุ่นก่อน แต่ไม่มีโลโก้ BMW M Motorsport ที่ด้านหลังอีกแล้ว แทนที่ด้วยโลโก้ Monster Inside วางคู่กับโลโก้ iQOO

ไม่ว่าจะเลือกสีไหน iQOO 15 ก็ให้สัมผัสระดับพรีเมียมไม่แพ้กัน ด้วยวัสดุกรอบอลูมิเนียมอัลลอย รวมถึงปุ่มด้านข้าง ผสานแผงกระจกทั้งด้านหลังและด้านหน้า ขอบมุมโค้งมนเพื่อรองรับฝ่ามือ ช่วยให้จับถือตัวเครื่องได้ถนัด โดยเฉพาะเวลาเล่นเกมในโหมดแนวนอน

ดีไซน์กล้องหลังของ iQOO 15 ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ และทำให้ผู้ใช้เดิมสร้างความคุ้นเคยได้ไม่ยาก ด้วยกรอบกล้องหลังแบบ Porthole เป็นกรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีมุมโค้งมน และยังซ่อนไฟ Monster Halo ไว้ในกรอบกล้องหลังด้วย

Monster Halo เป็นเอฟเฟกต์แสงช่วยเพิ่มบรรยากาศระหว่างเล่นเกม และสามารถเข้าไปตั้งค่าสีของแสงไฟ รวมถึงความเร็วและรูปแบบของเอฟเฟกต์แสงได้ตามต้องการ หรือจะปิดเพื่อประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ก็ได้เช่นกัน

ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล iQOO x Samsung ความละเอียด 2K ขนาด 6.85 นิ้ว ที่ให้ภาพคมชัด รองรับอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz

iQOO 15 ติดตั้งกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ไว้ในรูบนหน้าจอ รองรับทั้งการถ่ายเซลฟี่ วิดีโอคอล รวมถึงสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกหรือยืนยันตัวตน และยังฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ 3D Ultrasonic ไว้กับจอแสดงผลด้วย ช่วยให้การปลดล็อกหรือยืนยันตัวตนทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ


ขอบตัวเครื่องด้านข้างมีความบางแตกต่างกันเล็กน้อย ตามเทคนิคการเคลือบผิวด้านหลัง โดยตัวเลือก Zen ความบาง 8.28 มิลลิเมตร ขณะที่สีขาว Legend มีความบางกว่าเล็กน้อย 0.11 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำหนัก 220 กรัม ซึ่งเบากว่า Zen เพียง 1 กรัม เท่านั้น หมายความว่า iQOO 15 ทั้งตัวเลือก Zen และ Legend ให้ความรู้สึกในการจับถือแทบไม่ต่างกัน

ปุ่มควบคุมด้านข้างทั้งปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเพาเวอร์ ผลิตด้วยวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย เช่นเดียวกับกรอบตัวเครื่อง ให้สัมผัสที่แข็งแรงแน่นหนาทุกครั้งที่กดลงไป

ด้านบนพบลำโพงสเตอริโอ (เมื่อขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง), ไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยเพิ่มความชัดเจนระหว่างสนทนาหรือบันทึกเสียง และติดตั้ง Infrared มาให้ด้วย

ด้านล่างประกอบด้วยลำโพงสเตอริโอ, ไมโครโฟนคู่, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C (USB 3.2) และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม Dual Nano-SIM (5G + 5G Dual SIM Dual Standby)

ภายใต้ความสวยงามพรีเมียม iQOO 15 ยังเสริมความทนทานด้วยมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 และ IP69 ซึ่งสามารถต้านทานฝุ่นได้เต็มรูปแบบ ทนน้ำได้นาน 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร รวมถึงน้ำที่มีความร้อนสูง

ทั้งนี้ มาตรฐานป้องกันน้ำระดับ IP69 หมายถึงความสามารถในการทนน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80±5 องศาเซลเซียส และทนต่อการฉีดน้ำความแรงสูง 15 ลิตรต่อนาที จาก 4 มุม 0, 30, 60, 90 องศา เป็นเวลา 30 วินาที ของแต่ละมุม (รวมเป็น 2 นาที) ช่วยป้องกันความเสียหายจากน้ำที่มีความร้อนสูง
Snapdragon 8 Elite Gen 5 แรงสุดในตลาด
iQOO 15 ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite Gen 5 ซึ่งเป็นชิประดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcomm ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ถูกสร้างขึ้นด้วยกระบวนการผลิต 3 นาโนเมตร บนสถาปัตยกรรม CPU แบบ All-Big-Core แบบ Octa Core ประกอบด้วย คอร์หลักทำงานที่ความเร็วสูงสุด 4.6GHz (2-core) + 3.62GHz (6-core) มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 20% และจัดการพลังงานได้ดีขึ้น 35% ขณะที่ GPU Adreno ใน Snapdragon 8 Elite Gen 5 ให้ประสิทธิภาพดีขึ้น 23% จัดการพลังงานดีขึ้น 20% และ Ray Tracing ดีขึ้น 25% เมื่อเทียบกับชิปรุ่นก่อน



นอกจากนี้ iQOO 15 ยังมีชิปประมวลผลกราฟิก Q3 ช่วยยกระดับคุณภาพกราฟิกไปอีกขั้น ทั้งการเรนเดอร์, Ray Tracing และ AI ทำให้ iQOO 15 มอบประสบการณ์การเล่นเกมระดับคอนโซล และมาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่มีการฝังกราเฟนออกไซด์นาโนจำนวนมากถึง 200 ล้านอนุภาค ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ 8,000 ตารางมิลลิเมตร




ด้านความจำ iQOO 15 ได้รับ RAM แบบ LPDDR5X Ultra จับคู่กับ ROM แบบ UFS 4.1 มี 2 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 12GB + ROM 256GB และ RAM 16GB + ROM 512GB พร้อมรองรับ Extended RAM สามารถยืมพื้นที่ ROM มาใช้เป็น RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 16GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 32GB

จากการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า iQOO 15 ทำได้สูงถึง 3,875,175 คะแนน โดยจำแนกเป็นคะแนนด้าน CPU ทำได้ 1,110,283 คะแนน, GPU ทำได้ 1,420,360 คะแนน, Memory ทำได้ 420,278 คะแนน และด้าน User Experience ทำได้ 924,254 คะแนน
จอแสดงผล iQOO x Samsung

iQOO 15 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ที่ iQOO พัฒนาร่วมกับ Samsung ใช้วัสดุเปล่งแสง M14 ให้ความสว่างสูงสุด 6000 นิต ความลึกสี 1.07 พันล้านสี ความละเอียด 3168 x 1440 ขนาด 6.85 นิ้ว ความหนาแน่นพิกเซล 508PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) รองรับขอบเขตสี 118% NTSC ให้อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz และอัตราการตอบสนองการสัมผัสสูงสุด 3200Hz (Instant Touch Sampling Rate)
จอแสดงผลของ iQOO 15 ยังผ่านการรับรองมาตรฐาน Low Blue Light และ Flicker Free จาก TÜV Rheinland ช่วยป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้า โดยเฉพาะการจ้องหน้าจอในที่แสงน้อยเป็นเวลานาน สามารถลดอัตราการกะพริบและลดแสงของหน้าจอ ทำให้สายตาไม่เมื่อยล้าจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังรองรับ Circularly Polarized Light ช่วยลดแสงสะท้อนและแสงจ้าโดยการกรองแสงสะท้อนที่ไม่ต้องการออกไป

ไม่เพียงแต่จัดเต็มด้านภาพ iQOO 15 ยังให้ความสำคัญของระบบเสียงอีกด้วย โดยติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอแบบใหม่ Dual Master-Level 1511 ให้เสียงรอบทิศทางและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมด้วยมอเตอร์สั่นแบบคู่ Dual-Axis ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความสมจริงระดับ 4D ขณะเล่นเกม
แบตใหญ่ 7000mAh ชาร์จไว 100W

iQOO 15 มาพร้อมแบตเตอรี่ BlueVolt ขนาดใหญ่ 7000mAh ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง Silicon Negative Electrode Gen 4 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Semi-Solid State รุ่นที่ 2 ขณะที่รุ่นก่อนมีความจุ 6150mAh จึงมั่นใจได้ว่า iQOO 15 รองรับการใช้งานได้ยาวนานมากกว่าเดิม สามารถเล่นเกมได้นานต่อเนื่อง 10.5 ชั่วโมง หรือ สตรีมวิดีโอนานต่อเนื่อง 32.6 ชั่วโมง เพียงพอต่อการใช้งานอย่างหนักตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ iQOO 15 ยังรองรับการชาร์จแบบ Bypass ระบบ Global Bypass Charging รวมถึงเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบใช้สาย 100W FlashCharge และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 40W Wireless FlashCharge
กล้องหลัง 50MP AI Triple Camera

iQOO 15 ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่การถ่ายภาพก็ทำได้ดีเช่นกันด้วยระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก, กล้อง Super Periscope Telephoto และ กล้อง Ultra Wide โดยมีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เท่ากันทั้ง 3 ตัว

- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว มีระบบกันสั่นมาตรฐาน CIPA 4.5
- กล้อง Super Periscope Telephoto 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95 นิ้ว มีระบบกันสั่นมาตรฐาน CIPA 4.0 รองรับการซูมออปติคัล 3 เท่า และซูมดิจิทัลสูงสุด 100 เท่า
- กล้อง Ultra Wide 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.05 ให้มุมมองกว้าง 107 องศา

กล้องหลักของ iQOO 15 ได้รับเทคโนโลยีประมวลผลภาพ VCS (vivo Camera-Bionic Spectrum) ช่วยปรับภาพให้คมชัดขึ้น และเพิ่มความแม่นยำของสี ทำให้ภาพถ่ายมีความคมชัดใกล้เคียงกับที่ตาเห็น อีกทั้งยังได้รับระบบป้องกันภาพสั่นไหวระดับมืออาชีพ CIPA 4.5 ตามมาตรฐานการทดสอบของ CIPA มั่นใจได้ถึงความเสถียร และช่วยเพิ่มความคมชัดเมื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย

กล้องหลังของ iQOO 15 รองรับโหมดถ่ายภาพ Snapshot, Landscape & Night, Portrait, Photo, Video, Portrait Video, Ultra HD Document, Pano, Slo-mo, Time-Lapse, Pro, Fisheye, Supermoon และ High Resolution
โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x, 1x, 2x, 3x, 10x และซูมได้สูงสุด 100x แถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ Live Photo (อยู่ถัดจากไอคอนไฟแฟลช) ข้างกันมีไอคอน AI เอฟเฟกต์สร้างบรรยากาศให้ภาพถ่ายตามฤดูกาลต่างๆ ได้แก่ Spring, Summer, Autumn และ Winter
และไอคอนรูปดอกไม้ คือโหมดถ่ายภาพ Super Macro สำหรับถ่ายภาพใกล้วัตถุ ซูมได้สูงสุด 6x โดยระยะ 1x ใช้กล้อง Ultra Wide ระยะ 2x – 6x ใช้กล้องหลักทำ Super Macro

โหมด Portrait จะเปลี่ยนช่วงของการซูมเป็นระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัส ตั้งแต่ 23 มม., 35 มม., 50 มม., 85 มม., 100 มม. มีฟีเจอร์ปรับค่า F สำหรับละลายฉากหลัง เลือกเอฟเฟกต์ Bokeh ได้ 3 แบบ ได้แก่ Natural, Rotary Focus, Bubbles ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Beauty ช่วยปรับความงามบนใบหน้า และมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลายแบบ แบ่งเป็นหมวดหมู่ Basic styles และ Personalized Styles
แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Portrait มี AI Visual ช่วยสร้างบรรยากาศให้ภาพถ่ายมีเอฟเฟกต์ตามฤดูกาลต่างๆ ได้แก่ Spring, Summer, Autumn และ Winter ตัวอย่างเช่น Winter สามารถสร้างภาพหิมะตกให้กับภาพถ่ายได้ เหมาะสำหรับช่วงนี้ที่มีอากาศหนาวเย็น

โหมด Landscape & Night เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิว และภาพถ่ายในเวลากลางคืน รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x, 1x, 2x, 3x, 10x มาพร้อมฟีเจอร์ Long Exposure ช่วยเปิดรับแสงให้ยาวนานขึ้น โดยมีการกำหนดค่ามาให้แล้ว ได้แก่ Floating Cloud, Flow of Traffic, Fireworks, Star Trails, Night Graffiti และ Mysterious อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลายแบบ แบ่งเป็นหมวดหมู่ Basic styles (B&W, Texture, Vivid, Natural) และ Personalized Styles (Atmosphere, Soft, Classic Negative, Positive Film, Clear blue)

โหมด Snapshot เหมาะสำหรับการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว เช่น ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่พบเห็นโดยบังเอิญ หรือ อยากเก็บช่วงเวลาที่สำคัญที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ใช้งาน iQOO 15 สามารถถ่ายภาพแนวสตรีทได้อย่างง่ายดาย รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 1x, 2x, 3x, 6x พร้อมด้วยฟิลเตอร์ Basic styles และ Personalized Styles

โหมด Video รองรับการซูมที่ระยะ 0.6x, 1x, 2x, 3x, 10x และซูมได้สูงสุด 15x สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 8K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที หรือ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที รองรับเอฟเฟกต์ Bokeh ปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง พร้อมด้วยฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าให้ดูดีขึ้น และมีฟิลเตอร์ให้เลือกหลายแบบ
กล้องหน้า 32MP Selfie Camera

กล้องหน้าของ iQOO 15 ถูกซ่อนไว้ในรูบนหน้าจอ แบบเดียวกับรุ่นก่อน โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มาพร้อมโหมด Photo ที่มีฟิลเตอร์ Basic styles และ Personalized Styles เหมือนกล้องหลัง และมีฟีเจอร์ Live Photo เปิดใช้งานได้จากแถบเครื่องมือด้านบน

โหมด Portrait ของกล้องหน้าสามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ มีฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับความงามบนใบหน้าอย่างละเอียดครอบคลุมทุกโซนบนใบหน้า รวมถึง Makeup เสริมความงามได้ตามเทมเพลตที่ต้องการ รวมถึงฟิลเตอร์ Basic styles และ Personalized Styles แบบเดียวกับกล้องหลัง

โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มีเอฟเฟกต์ Bokeh สำหรับถ่ายวิดีโอในรูปแบบพอร์ตเทรต พร้อมด้วยฟีเจอร์ Beauty สำหรับเพิ่มความงามบนใบหน้า และมีฟิลเตอร์ Personalized Styles สำหรับถ่ายวิดีโอพอร์ตเทรตให้เลือกหลายแบบ



สรุปราคาและการจำหน่าย
iQOO ได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่สร้างเกมมิ่งสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ และ iQOO 15 ก็เป็นเรือธงรุ่นล่าสุดของแบรนด์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite Gen 5 ของ Qualcomm จับคู่กับชิป Q3 และมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ มาพร้อมจอแสดงผล OLED ขนาด 6.85 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 6000nits ให้อัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz จึงมั่นใจได้ว่า iQOO 15 เป็นสมาร์ตโฟนที่เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล และเล่นเกมได้ยาวนานต่อเนื่องด้วยแบตเตอรี่ความจุ 7000mAh ชาร์จเร็ว 100W และรองรับการชาร์จแบบ Bypass โดยมีดีไซน์โดดเด่นสะดุดตาจากไฟ Monster Halo สรุปแล้ว iQOO 15 เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาเรือธงรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปประมวลผลที่ดีที่สุดของ Qualcomm เพื่อรองรับการเล่นเกม และตอบสนองการใช้งานได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ไปจนถึงการถ่ายภาพ

สำหรับผู้ที่อยากก้าวเข้าสู่การเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในทุกสนาม และสัมผัสนิยามใหม่ของสมาร์ตโฟนที่เกิดมาเพื่อเหล่า MVPs อย่างแท้จริง สามารถเป็นเจ้าของ iQOO 15 ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ vivo Brand Shop ทุกสาขา, ช่องทางออนไลน์, และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยวางจำหน่ายใน 2 รุ่นความจุ ได้แก่ 12GB + 256GB ในราคา 29,900 บาท และ 16GB + 512GB ในราคา 32,900 บาท
ผู้ที่สั่งซื้อระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568 จะมีสิทธิ์รับโปรโมชันและของสมนาคุณ ดังนี้
- ประกัน iQOO Care (มูลค่า 18,999 บาท) ขยายระยะเวลารับประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี ประกันหน้าจอแตก 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 2 ปี
- iQOO Magnetic Phone Case (มูลค่า 1,099 บาท)
- โปรโมชัน Trade up เก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินมูลค่าสูงสุด 8,000 บาท เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน จนถึง 31 ธันวาคม 2568 เท่านั้น
ไม่หมดเพียงเท่านี้! iQOO 15 ยังเตรียมเสิร์ฟโปรโมชันโค้งสุดท้ายปลายปีในแคมเปญ 12.12 รับโค้ดส่วนลดแพลตฟอร์มสูงสุดถึง 3,100 บาท ห้ามพลาดเก็บโค้ดส่วนลดและสั่งซื้อได้ที่ช่องทางออนไลน์ vivo Official Store, Shopee, Lazada และ TikTok Shop ตั้งแต่วันที่ 8 – 15 ธันวาคม 2568 นี้เท่านั้น
- Shopee: https://shopee.co.th/product/857081243/47701327728
- Lazada: https://url-shortener.me/1JCH+
- Tiktok: https://vt.tiktok.com/ZSU6QMVts/?page=TikTokShop
#iQOO15 #BornForMVPs #PerformanceBeyondNext #Flashfly






