หลังจากที่ได้ไปร่วมทริปอัมพวา Shout Show Share with Galaxy Note 3 ของทาง Samsung ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับเจ้า Galaxy Note 3 และ Galaxy Gear ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงและนาฬิกาอัจฉริยะที่หลายคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากจากงาน Samsung Unpacked 2013 Episode 2 ที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี โดยในงานเปิดตัวนั้นก็ได้มีการโชว์ฟีเจอร์เด่นๆ กันอย่างตื่นตาเลยทีเดียว วันนี้ลองตามมาดูตัวจริงกันดีกว่า
เริ่มจาก Galaxy Note 3 กันก่อน
Galaxy Note 3 มาพร้อม หน้าจอ 5.7 นิ้ว Full HD Super AMOLED โดยดีไซน์มีการปรับเปลี่ยนจากรุ่นเดิมเล็กน้อย
ด้านบนมีลำโพงอยู่ตรงกลาง กล้องหน้าอยู่ด้านขวามือ
ด้านล้างจะมีปุ่ม Home อยู่ตรงกลาง ทางซ้ายจะเป็นปุ่มเมนูและทางขวาจะเป็นปุ่ม Back ทั้งสองปุ่มนี้จะซ่อนอยู่ต้องแตะจึงจะมีไฟส่องสว่างขึ้นมา
ที่เก็บ S Pen ยังคงอยู่ที่เดิม แต่ S Pen แบบใหม่นี้เวลาเก็บไม่ต้องหมุนหาล็อคให้ยุ่งยากสะดวกกว่าเดิมมาก แถมยังมี Air Command ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ให้ได้ใช้งานกันด้วย
ตัวเครื่องด้านบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ตัวเครื่องด้านขวามีปุ่ม Power ถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นลายเป็นเส้นๆ อยู่รอบตัวเครื่องซึ่งทางทีม Samsung แจ้งว่าได้รับแรงบันดาลใจมากจากสมุดโน๊ตนั่นเอง
ตัวเครื่องด้านซ้ายมีปุ่ม เพิ่ม/ลด เสียง
ด้านล่างมีที่เก็บ S Pen และพอร์ท Micro USB 3.0 ใหม่ล่าสุด (Micro USB เดิมก็ยังสามารถใช้ร่วมกันได้อยู่)
มาชมความสวยงามหรูหราทางด้านหลังกันบ้าง เห็นตั้งแต่ในงานที่กรุงเบอร์ลินแล้วว่าเป็นหนัง แต่ถ้าพูดให้ถูกก็คือหนังเทียมที่มีความยืดหยุ่นสูงนั่นเอง พอได้ลองจับแล้วให้ความรู้สึกดีกว่า Note II แถมยังติดมือมากกว่าด้วย (ไม่ลื่น)
ซูมเข้ามาดูกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ยกระดับการถ่ายภาพให้กับตระกูล Note ขึ้นมาอีกขั้น
ลองแกะฝาหลังออกมาดูก็จะพบแบตเตอรี่ขนาด 3,200 mAh (มากกว่า Note II อยู่เล็กน้อย)
ฝาหลังแบบหนังเทียมสามารถงอได้แบบนี้เลย
ลองมาดู Galaxy Gear กันบ้าง
โฉมหน้านาฬิกาอัจฉริยะหน้าจอสัมผัสขนาด 1.63 นิ้ว จากทาง Samsung ชอบกันมั้ยเอ่ย?
ตัวเรือนจะเป็นโลหะ + พลาสติก ส่วนสายจะเป็นพลาสติกล้วนๆ ทางด้านตัวล็อคจะเป็นโลหะเช่นกัน และที่สำคัญจะมีปุ่มกดแค่เพียงปุ่มเดียวเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน
ตัวล็อคจะเป็นลำโพงด้วยในตัว เวลาคุยหรือฟังเพลงเสียงจะส่งผ่านทางนี้ทั้งหมด
กล้องถ่ายรูปความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซลรองรับการถ่ายวีดีโอได้ 10 วินาที
ตัวสายสามารถปรับขนาดตามลักษณะข้อมือได้
จุดสีดำๆ คือไมค์ซึ่งจะมีอยู่ทั้ง 2 ด้านของตัวเรือน ส่วน 5 จุดทองเหลืองที่เห็นอยู่นี้เอาไว้สำหรับชาร์จไฟแต่ต้องมีอุปกรณ์เสริมเป็นตัวช่วย
หน้าตาอุปกรณ์เสริมของ Galaxy Gear ถ้าขาดเจ้านี่ไปจะไม่สามารถชาร์จแบตได้แถมยังไม่สามารถทำการเชื่อมต่อกับ Galaxy Note 3 ได้อีกด้วย ต้องระวังเลยล่ะ
พอร์ท Micro USB จะอยู่ทางด้านหลัง
ใส่ครบเซตแล้วจะหล่อแบบนี้ ดูเข้ากับฝาหลังของ Galaxy Note 3 แบบสุดๆ
สำหรับ Galaxy Gear จะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ต้องมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนก่อนซึ่ง ณ ตอนนี้รุ่นที่รองรับจะมีแต่ Galaxy Note 3 เท่านั้น ถ้าเชื่อมต่อแล้วจะสามารถรับสายเข้าหรือโทรออกที่ตัว Gear ได้เลย ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ไว้ลองติดตามกันดู
แถมท้ายด้วยตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy Note 3
ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Note 3 ที่วางจำหน่ายในไทยจะเป็นรุ่น 3G เบื้องต้นมีเพียงสองสีคือ Jet Black และ White Classic สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 23,500 บาท เปิดให้จองกันตั้งแต่วันที่ 18-24 กันยายน และสามารถรับเครื่องได้ในวันที่ 25-28 กันยายน ส่วน Galaxy Gear เคาะราคาเปิดตัวอยู่ที่ 8,900 บาทจะมีจำหน่ายครบทั้ง 6 สีและยังไม่มีให้สั่งจอง แต่สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ในงาน Mobile Expo ที่จะถึงนี้
ขอขอบคุณ Samsung Thailand กับทริปสุด Exclusive ในครั้งนี้ครับ
ดูข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่อง Galaxy Note 3 และ Galaxy Gear เพิ่มเติมได้ที่ http://www.samsung.com/th/galaxynote3
ที่มา – mintflashfly
